ดึกนี้เหงาเงียบเฉียบฉิว
ลมเรื่อยเปื่อยปลิว
หวิวพัดกวัดใจ คนจร
ยากหนอเหงาซบหลบนอน
เมื่อยังอาวรณ์
หวิวหวิวฉิวเฉียบเยียบเย็น
ดึกนี้ลมร่ำลำเค็ญ
เผยสุขทุกข์ เข็ญ
ว่าเป็นฉะนี้นี่แล
ดีกนี้ดาวห่างร่างแห
คล้ายคลุมดวงแด
คล้ายดั่งดาวใจยามจร
คืนนี้เหงาในนาคร
เพียงแสง นีออน
พรมพร่างอยู่อย่างเงียบงัน
เหมือนแสงไฟลับดับฝัน
สู่ห้วงจาบัลย์
จะบอกจะเล่าใครดี
คืนนี้หนักธาตุในกวี
ร้อยร่ำ วลี
ระล้ำระลักรำพัน
มีเพื่อนเพียงแสงในจันทร์
มีดาราอัน
อิ่มเอมในอกกูเอง
แม้ว่าหวาดไหววังเวง
จักพลัน บรรเลง
บรรโลมบอกโลกบรรลือ
ดั่งว่าความฝันนั้นคือ
ดั่งมือสองมือ
พาโลกสู่ล้านอำไพ
แม้ใจเพียงใจหนึ่งใจ
แต่นึ่งลึก ใน
แสนใจล้านใจใจนั้น
คนจรเพ้อกับแสงจันทร์
อันนิ่งงเงียบงัน
ใยหนอยิ่งเศร้าเหงานัก
กานติ ณ ศรัทธา
ศิริพร แก้วกาญจน์
ลำภา มัคศรีพงษ์
พิเชษฐ์ แสงทอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น