การเป็นนักเขียนทำให้ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งคือ เมื่องานเขียนของเราออกสู่สาธารณะ มันก็ไม่ใช่ "ของเรา" อีกต่อไป คำวิพากษ์-วิจารณ์ ด่า-ชม เป็นปฏิกิริยาธรรมดาของงานศิลป์ทุกแขนง มีคนชอบก็มีคนเกลียด
แต่หากศิลปินรู้จักน้อมรับคำวิจารณ์ จะพบว่ามันมีประโยชน์ในการพัฒนางานชิ้นต่อไปอย่างมาก ทุกครั้งที่มีคนติงานเขียนของผม ผมก็เรียนรู้และอุดรอบรั่วตรงนั้นในงานชิ้นต่อไป
ความล้มเหลวมักทิ้งเชื้อของความสำเร็จไว้เสมอ ธอมัส เอดิสัน บอกเสมอเมื่อการทดลองของเขาล้มเหลวว่า "ผมไม่ได้ล้มเหลวสักหน่อย ผมเพิ่งค้นพบกว่าหมื่นวิธีที่ไม่สำเร็จ" เป็นคำปลอบใจ และก็เป็นความจริง ใช่ ความล้มเหลวทิ้งเชื้อของความสำเร็จเสมอ ถ้าไม่ถอดใจเสียก่อน ก็ต้องประสบความสำเร็จสักวัน
แน่นอนบางคนทำงานทั้งชีวิตก็ไปไม่ถึงจุดหมาย แต่งานของพวกเขาไม่เคยสูญเปล่า นักสร้างสรรค์จำนวนมากทิ้งรากฐานงานให้คนรุ่นต่อไปสานต่อ ในรูปของความล้มเหลว ดังนั้น จะว่าไปแล้ว ช้าหรือเร็วการสร้างสรรค์นั้นก็ย่อมสัมฤทธิ์ผล ความสำเร็จในรูปนี้ก็เหมือนการวิ่งผลัด คนที่ไปถึงเส้นชัยเป็นผลลัพธ์ของคนที่วิ่ง และส่งไม้ต่อในช่วงแรกๆ
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใด ๆ ความสำเร็จของนักสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน เอดิสันไม่ใช่คนที่ประดิษฐ์ภาพยนตร์ เขาเป็นคนถือไม้ผลัดสร้างสรรค์ภาพยนตร์ จากต้นความคิดของคนที่ก้าวมาก่อนเขา
เคาน์เซพเปลินไม่สามารถสร้างเรือเหาะจากการสเกตช์ภาพในหัว หากไม่เคยเห็นประดิษฐกรรมบอลลูนของพี่น้องมอนต์กอลฟิเอร์ มาก่อน ไอน์สไตน์ยากที่คิดทฤษฎีสัมพัทธภาพของเขาออก หากไม่เคยศึกษางานของแม็กซเวลล์
ความสำเร็จมิได้เป็นผลงานของคนคนเดียว แต่เป็นผลพวงของการทำงานของคนหลายรุ่น หรือบางครั้งหลายร้อยชั่วคน
บางทีก่อนที่เราจะสาปแช่งความล้มเหลวของเราในวันนี้ ลองมองว่ามันอาจเป็นรากฐานของความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ แม้ว่าเราไม่ได้ยืนอยู่ที่นั่นในวันนั้นก็ตาม แต่เราก็ภูมิใจได้ว่าความล้มเหลวของเรา เป็นรากฐานของความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในวันหนึ่ง
วินทร์ เลียววาริณ, 4 เมษายน 2548
ข่าวหน้าหนึ่ง www.winbookclub.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น