++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ได้เวลาลุงกำนันรุกฆาตแล้ว ไม่ต้องเดินทอดน่องเรื่อยเปื่อยอีกต่อไป



ผลการเลือกตั้งวันที่2กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชัดเจนว่าไม่มีทางที่จะเปิดสภาผู้แทนราษฎรได้ เพราะไม่ได้สส.อย่างน้อย95%ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และทางกกตก็จะไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งที่ทุกลักทุเลไม่สมประกอบนี้ได้ ถ้าจะใช้เวลาแก้ไขปัญหาการเชือกตั้งอีก5-6เดือนก็ไม่มีทางเร็จเพราะมีการทำผิดกฎหมายผิดบทบัญญัติต่างๆมากมาย จะมีการฟ้องร้องแล้วให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ที่สำคัญมีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งแค่45% แสดงว่ามีการบอยคอตและมีความไม่พอใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างสูงในหมู่ประชาชนที่ต้องการเห็นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ใช่จะย่ำอยู่กับที่แบบนี้

ต้องยอมรับว่าเป็นผลงานเครดิตของลุงกำนันและคณะกปปสที่สามารถขับเคลื่อนพลังมวลชนให้สนับสนุนการปฏิรูป ก่อนการเลือกตั้งได้

ผลการเลือกตั้งเป็นข่าวร้ายสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะว่าฐานเสียงหดหายไปมาก โดยเฉพาะชาวนาที่ถูกเพื่อไทยหักหลัง ให้เขาจำนำข้าวแล้วเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงิน มีเวลาจ่ายเงินหลายเดือนไม่ทำ พอยุบสภาแล้วถึงจะตระเกียกตระกายมากู้เงินเพื่อมาจ่ายให้ชาวนา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะมาอ้างว่าได้เสียงสวรรค์จากประชาชนชาวไทยเหมือนในอดีตไม่ได้ เพราะว่าคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดมี48ล้านคน เพื่อไทยที่เคยได้เสียงสนับสนุน15-16ล้านคน ตอนนี้น่าจะลดลงเหลือ10ล้านกว่าๆ สรุปง่ายๆ เพื่อไทยมีเสียงแค่1ใน4ของคนไทยที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ต้องมาอ้างว่าเป็นตัวแทนของเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะว่ามันไม่ใช่

เพื่อการเมืองมาถึงทางตันแบบนี้ คือเดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ มีอยู่ทางแก้เดียวคือต้องมีรัฐบาลรักษาการ อันจะนำไปสู่สภาปฏิรูปที่ทางลุงกำนันแจ้งมาตลอดว่าเป็นจุดมุ่งหมายของขบวนการมวลชนในการแสดงออกในครั้งนี้ แต่ดูเหมือนว่าลุงกำนันยังไม่ได้มีอาการรีบร้อนอะไรที่จะปิดเกม ทั้งๆที่สามารถจะทำได้แล้ว เพราะผลการเลือกตั้งออกมาชัดว่าประเทศชาติจะออกจากวิกฤตตามวิถีปกติไม่ได้ ครั้นจะรอปปช หรือศาลลงดาบรัฐบาลปูที่ขี้โกงชาวนาก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะเกิดขึ้น ยิ่งนานวันชาวนายิ่งจะตาย เพราะไม่ได้เงินจำนำข้าวและเป็นหนี้กันทั่ว และที่สำคัญประเทศไทยจะพลาดช่วงเวลาสำคัญในการปฏิรูปประเทศทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมตัวรับวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่ก่อโดยธนาคารกลางของประเทศทางโลกตะวันตก ถ้าประเทศไทยจะเจอวิกฤตการเงินหรือเศรษฐกิจอีกรอบ ซึ่งมีโอกาสสูง ก็เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยนี้แหละตัวดี เพราะว่าส่งเสริมการเปิดเสรีทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างหนี้ทั้งระบบแบงค์ หนี้ครัวเรือน ฟองสบู่อสังหาฯ ฟองสบู่ตลาดการเงิน รวมถึงฟองสบู่ภาครัฐด้วย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของรายได้ ที่สำคัญนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เอาระบบการเงินตะวันตกมาใช้ทำให้เกิดเงินเฟ้อ8%ทุกปีที่ทำให้คนจนชักหน้าไม่ถึงหลัง

ในเมื่อเวลาสำรัฐการปฏิรูปประเทศเพื่อรับมือวิกฤตจากภายนอกอาจจะมีไม่มาก สมควรที่ลุงกำนันจะผลักดันให้มีการปรับนโยบายประเทศครั้งใหญ่ด้วยการเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากวิกฤตการเงินโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งWorld Economic ForumและIMF เตือนแล้วว่าระบบโลกทุนนิยมถึงเวลาต้องรีเซ็ทแล้ว ประเทศใดที่ไม่เตรียมตัว ยังหลงระเริงกับฟองสบู่การเงินจะประสบกับควมวิบัติฉิบหาย เพราะมีการคาดการอย่างกว้างขวางว่าวิกฤตการเงินรอบใหม่ ซึ่งอาจจะเกิดได้ในปี2014 จะรุนแรงกว่าวิกฤตปี2008หลายเท่า

จะปิดเกมอย่างรวดเร็ว ทางลุงกำนันควรจะเปิดเจรจากับทหารได้แล้วว่า ถึงป่านนี้จะเอายังไงก็ว่ามา จะยังคงสนับสนุนรัฐบาลปูนิ่มที่เริ่มส่งกลิ่นเน่าสุดๆแล้วอีกต่อไปหรืออย่างไร ประเทศชาติกำลังจะฉิบหายคอบไม่ได้ ประเด็นคือทหารเป็นเสาหลักของชาติ ถ้าผบทุกหน่วยเหล่าทุกกำลังพลเดินตบเท้าออกมาสนับสนุนมวลมหาประชาชน ข้าราชการชั้นผู้น้อยชั้นผู้ใหญ่จะออกมาสมทบอีก ถึงตอนนั้นปูนิ่มก็จะต้องลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย เพราะว่าแรงกดดันเป็นมติของมหาชนอย่างแท้จริงที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง อันจะนำไปสู่การใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยผ่านมาตรา3ของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และมาตรา7ในการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวและสภานิติบัญญัติชั่วคราวเพื่อการปฏิรูป

นี้คือโมเดลการปฏิวัติประชาชนฉบับไทยแลนด์ของแท้ โดยที่ไม่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ และเป็นไปอย่างสันติ และจะเป็นโมเดลที่ประเทศต่างๆจะขอเลียนแบบเอาไปใช้ในการโค่นล้มนักการเมืองขี้โกงและทุนนิยมสามานย์ที่เอาผลประโยชน์ของแบงค์ บริษัทข้ามชาติ และบริษัทใหญ่ๆเป็นที่ตั้ง โดยเห็นประชาชนเป็นเบี้ยเป็นผักเป็นปลา

การปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นต้องเอาชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติเป็นตัวตั้งว่าเขาต้องมีที่ทำกิน ต้องอยู่ได้อย่างพอเพียง ไม่ใช่อย่างชักหน้าไม่ถึงหลังมีหนี้บานเบอะเหมือนทุกวันนี้ เมื่อชาวนาและคนยากไร้อยู่ได้ ประเทศชาติก็จะอยู่ได้ ธุรกิจต้องเป็นของคนไทย ไม่ใช่ต่างชาติมากำหนดชะตากรรมวิถีชีวิตเรา ระบบเศรษฐกิจและการเงินที่เชื่อมโยงกับภายนอกต้องมาทบทวนกันใหม่หมด เพราะว่าวิถีโลกาภิวัฒน์ไม่ใช่ตลาดเสรี กลไกการเงิน เศรษฐกิจทุกอย่างถูกปั่นและควบคุมหมด เรายิ่งถล่ำลึกเข้าไปโลกาภิวัฒน์ เรายิ่งจะหมดตัว สิ้นชาติสิ้นประเทศ

เราไม่จำเป็นต้องรวย เราไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาชาวโลก เราพออยู่พอกินก็พอแล้วเหมือนอย่างที่ในหลวงสอนเรามาตลอด ทรัพยากรธรรมชาติต้องเป็นของชาวบ้าน น้ำมันและอาหารต้องเป็นของคนไทยดูแลจัดการกันเองแบบเป็นธรรม ธุรกิจใหญ่ๆไม่ควรมีการแสวงหาผลกำไรเป็นเป้าหมายสูงสุด เมื่อมีแล้วก็ต้องแบ่งให้คนอื่น เหมือนวันมหาปิกนิกเมื่อวันที่2กุมภาพันธ์ที่มีการเอาอาหารมาแบ่งกันกินแบบพี่น้อง ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพราะท้ายที่แล้วความร่ำรวยไม่ใช่วัดแบบForbes ที่จัดอันดับดูทรัพย์สินสุทธิnet worthของมหาเศรษฐีต่างๆ แต่ความร่ำรวยต้องวัดจากการให้ เศรษฐีไทยต้องสะสมทานบารมี ไม่ใช่ทรัพย์บารมีอย่างเห็นแก่ตัวแบบตะวันตก เมื่อคนมีพร้อมที่จะเสียสละและให้ และคนจนพอที่จะยืนอ้าปากได้สังคมไทยก็จะเป็นสุข มีความมั่น นี้คือเป้าหมายสูงสุดของการปฏิรูปของประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าไปสู่ยุคเศรษฐกิจพอเพียงทั้งทางมหภาคและจุลภาค โดยมีธรรมาธิปไตยเป็นหัวใจหนุนระบบประชาธิไตยที่แท้จริง

หวังว่าลุงกำนันคงจะมองให้เห็นทะลุสุดซอยในเรื่องการปฏิรูปในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศชาติ

thanong
4/2/2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น