เปลี่ยนที่ 1: เปลี่ยนความคิด ปรับทัศนคติ เพื่อเป็นการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่าง ยั่งยืน ประเทศไทยควรเริ่มต้นที่แต่ละปัจเจกชนเสียก่อน โดยการ ปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อการคอร์รัปชัน ผ่านการเรียนรู้จากการ สื่อสารในรูปแบบต่างๆซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสามแนวทางได้ดังนี้ 1. การสื่ออสารผ่านทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัย จนถึงขั้น อดุมศึกษาเพื่อเป็นการปลูกแนวคิดถงึผลเสียของการคอร์รัปชนัไม่ให้ กลายมาเป็นวัฒนธรรมที่เยาวชนสามารถรับได้ 2. การสื่อสารกับประชาชนผ่านสื่อต่างๆ อาทิเช่น ภาพยนตร์ โฆษณาทางโทรทัศน์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่ออสร้างความตระหนัก (Awareness) ให้กับประชาชนในเรื่อง ผลกระทบที่จะเกิดจากการคอร์รัปชัน 3. การสื่ออสารจากภาครัฐ ที่จะต้องให้การสนับสนุนในการสร้าง วัฒนธรรมในการต่อต้านคอร์รัปชัน ด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อ การรณรงค์ทางสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี และควรมอบหมายให้องค์กรวิชาชีพภาคเอกชนและคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เป็นผู้ดาเนินงาน ปัจจัยด้านการสื่อสารเพื่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เป็นเพียงปัจจัย หนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องทุจริตกลายเป็น วัฒนธรรมของคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาหรับกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งต้องทาควบคู่ไปพร้อมกับการดาเนินการ ทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และต้องอาศัยการร่วมมือจาก ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรัฐบาลที่จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ ประชาชนภายในประเทศ ติดตามเปลี่ยนที่ 2 และ 3 ได้ ในตอนต่อไป...... ที่มา: หนังสือคอร์รัปชัน หลุมดําประเทศไทย: พฤติกรรมเคยชิน ที่ทําลายไทยโดยไม่รู้ตัว Future Innovative Thailand Institute http://fit.or.th/ https://www.facebook.com/FutureInnovativethailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น