++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 สุดยอดอัจฉริยะของโลก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก toptenz.net
บุคคลผู้ที่มีความพิเศษทางด้านสติปัญญานั้นมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในทุกยุคทุกสมัย โลกเรียกกลุ่มบุคคลผู้ที่สามารถประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์อันมหัศจรรย์ รวมถึงผู้ที่มีไอคิวเฉียด 200 หรือมากกว่านั้นว่าอัจฉริยะ พวกเขาเหล่านี้ได้ทำให้โลกต้องตะลึงไปกับสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในวัยที่ใครหลายคนไม่แม้แต่จะคิดถึงสิ่งเหล่านั้น ในขณะที่พวกเราในวัยเด็กทำได้เพียงแค่วิ่งเล่น หรือพยายามท่องจำตัวอักษรง่าย ๆ อัจฉริยะเหล่านี้กลับมีความสามารถในการทำความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ผู้ใหญ่หลายคนจะสามารถทำได้ วันนี้ กระปุกดอทคอม เลยขอนำข้อมูลการจัดอันดับบุคคลอัจฉริยะในวัยเด็ก ทั้ง 10 คนของโลก ของเว็บไซต์ ท็อปเท็นส์ ก็ได้มาให้ดูกัน ดังนี้ค่ะ

อันดับที่ 10. เอไลส์ แทน โรเบิร์ตส์ (Elise Tan Roberts)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : เข้าร่วมกับสมาคมคนอัจฉริยะ MENSA ตั้งแต่มีอายุเพียง 2 ขวบ 4 เดือน
IQ : 156
ในเดือนเมษายน ปี 2009 ที่ผ่านมา เอไลส์ แทน โรเบิร์ตส์ (Elise Tan Roberts) ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้กลายมาเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของ MENSA ด้วยวัยเพียง 2 ขวบ 4 เดือน เด็กน้อยคนนี้สนุกไปกับการนับเลขเป็นภาษาสเปน และเกมโปรดของเธอก็คือเกมท่องชื่อเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ กับพ่อแม่ของเธอ โดยพ่อแม่ของเธอหวังว่าจะสามารถรักษาพื้นฐานของลูกสาวไม่ให้เธอกลายเป็นเด็กที่เลวร้ายไปได้
สำหรับ MENSA นั้น เป็นสมาคมของกลุ่มคนอัจฉริยะจากทั่วโลก โดยสมาชิกของสมาคมก็คือผู้ที่ผ่านการทดสอบความอัจฉริยะจากแบบทดสอบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และได้รับคะแนนสูงติดอันดับกลุ่มประชากร 2 เปอร์เซ็นต์แรกของโลก

อันดับที่ 9. เฮดิ ฮันกินส์ (Heidi Hankins)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : เข้าร่วมกับสมาคม MENSA ตั้งแต่มีอายุเพียง 4 ขวบ
IQ : 159
ในปี 2012 ที่ผ่านมา เด็กน้อย เฮดิ ฮันกินส์ วัย 4 ขวบที่อาศัยอยู่ใน วินเชสเตอร์ อังกฤษ ได้ถูกเชิญเข้าสู่ MENSA ซึ่งถ้าจะเทียบกับหนูน้อย โรเบิร์ตส์ แล้วเราก็ยังคงไม่แน่ใจว่าเมืองผู้ดีที่พวกเธออาศัยอยู่นั้นจะทำอย่างไรกับนักวางแผนน้อยยอดอัจฉริยะทั้งคู่นี้ มันก็อาจเป็นไปได้ว่าสักวันหนึ่งพวกเธออาจจะคิดค้นพัฒนาสูตรอาหารอังกฤษให้มีรสชาติดีขึ้น ขณะนี้ ฮันกินส์ กำลังจะเข้าโรงเรียนแล้ว แต่ผลการเรียนที่ดีของเธอก็อาจไม่ได้รับรองว่าเธอจะเป็นรอง อัลเบิร์ท ไอน์ไสตน์ ผู้ซึ่งมีผลการเรียนตอนประถมศึกษาไม่โดดเด่นนัก

อันดับที่ 8. โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : ประพันธ์เพลงได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และตอนที่อายุ 17 ปี เขาก็ได้เข้าเป็นนักดนตรีของราชสำนักซาลซ์บูร์ก ที่กรุงเวียนนา
IQ : 165 โดยประมาณ
เมื่อครั้งที่ โมซาร์ท มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบ เขาก็สามารถขึ้นแสดงต่อหน้าราชวงศ์ของ แม็กซิมิเลียนที่ 3 โจเซฟ พรินซ์อีเล็คเตอร์แห่งบาวาเรีย ได้แล้ว อีกทั้ง โมซาร์ท ก็ยังได้ประพันธ์เพลงโอเปร่า คอนเซอร์โต และซิมโฟนี ตั้งแต่ก่อนที่คนในปัจจุบันจะได้รับใบขับขี่เสียอีก สำหรับคนบางคน อาจะไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ประสบความสำเร็จ ในสิ่งเล็ก ๆ ที่ โมซาร์ท ได้ทำไว้ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุยังไม่ถึง 18 เลยด้วยซ้ำ

อันดับที่ 7. ธีโอดอร์ จอห์น คาซินสกี้ (Theodore Ted Kaczynski)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : เป็นนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะ ถูกรับเข้ามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดด้วยอายุเพียง 16 ปี
IQ Score : 167
นี่ก็คือบุคคลผู้ที่เป็นต้นแบบของตัวละครเอกจากเรื่อง กู้ด วิล ฮันติง (Good Will Hunting) โดย คาซินสกี้ ได้ข้ามชั้นมาเรียนในมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ตั้งแต่อายุ 16 ปี และจบการศึกษาในอีก 4 ปีต่อมา ในตอนที่ คาซินสกี้ อายุ 26 ปี เขาได้รับการบรรจุเข้าเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เมืองเบิร์กเลย์ แต่แน่นอนว่าชื่อเสียงที่โด่งดังก้องโลกของเขานั้นไม่ใช่เพราะฐานะนักคณิตศาสตร์ของเขา แต่เพราะ คาซินสกี้ ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ก่อการร้ายอูนาบอมเบอร์ (Unabomber) หรือนักวางระเบิดมหาวิทยาลัยและสายการบิน (University and Airline Bomber) ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนต่างก็หวาดกลัวต่อระเบิดและแถลงการณ์ของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นนักคณิตศาสตร์หรือนักคิดที่ดีที่สุดในกลุ่มคนรุ่นเดียวกับเขา แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงเชิงอรรถเล็ก ๆ ในชีวิตของเขา เพราะท้ายที่สุดแล้ว คาซินสกี้ ก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ภายในเรือนจำกลาง ที่ฟลอเรนซ์ โคโลราโด

อันดับที่ 6. จูดิท โพลการ์ (Judit Polgar)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : เป็น 1 ใน 100 อันดับ นักหมากรุกของโลก ตั้งแต่อายุ 13
IQ score : 170
โพลการ์ ได้ครอบตำแหน่งแกรนด์มาสเตอร์ของวงการหมากรุก ตั้งแต่ตอนที่เธอมีอายุเพียง 10 ขวบ ในตอนนั้นครอบครัวของเธอไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่า โพลการ์ จะสามารถประชันผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ได้ ทั้งที่เธอดูเหมือนจะเป็นผู้เข้าแข่งขันสาวน้อยหน้าใหม่ที่ใครก็สามารถเอาชนะได้ง่าย ๆ ครอบครัวและเพื่อน ๆ ต่างก็ทึ่งในสิ่งที่เธอทำ ในทุกวันนี้ โพลการ์ เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ชนะในทุก ๆ การแข่งขัน และครอบตำแหน่งผู้เล่นฝ่ายหญิงอันดับหนึ่งในวงการหมากรุก เธอได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักหมากรุกอันดับที่ 8 ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และแน่นอนว่าเธอก็ยังคงเป็นผู้เล่นหญิงที่แข็งแกร่งเสมอ ซึ่งคุณก็ไม่มีโอกาสที่จะต่อกรกับเธอได้เลย

อันดับที่ 5. แบลซ ปาสกาล (Blaise Pascal)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : พัฒนาทฤษฎีบทของปาสกาลตอนอายุ 16 ปี
IQ : 195 โดยประมาณ
แบลซ ปาสกาล มีชีวิตอยู่ในช่วงตั้งแต่ มิถุนายน 1623 – สิงหาคม 1662 ในตอนที่เขาอายุ 16 ปีนั้นเขาได้เขียน “ทฤษฎีบทของปาสกาล” อันมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรขาคณิตโปรเจคทีฟ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ของเขาทำให้ชื่อของ ปาสกาล มักถูกอ้างอิงในรูปหกเหลี่ยมที่มีเส้นของปาสกาล ปาสกาลมีความเข้าใจในคณิตศาสตร์ที่นักคณิตศาสตร์ทั้งหลายต่างก็พยายามศึกษาอยู่ โชคร้ายที่หลังจากปาสกาลมีอายุได้ 18 ปี สุขภาพของเขาย่ำแย่ลง ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปตอนที่เขามีอายุเพียง 39 ปีเท่านั้น ผลงานของปาสกาล ไม่ได้ตอบโจทย์ข้อสงสัยในยุคของเขาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอโจทย์ปัญหาที่กระตุ้นจิตวิญญาณทางคณิตศาสตร์ให้แก่คนในยุคนี้และยุคต่อ ๆ ไปในอนาคตอีกด้วย

อันดับที่ 4. คิมอึงยอง (Kim Ung-Yong)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : ถูกบันทึกลงกินเนส ว่าเป็นผู้ที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก
IQ : 210
ในวัยเด็กของ คิมอึงยอง เขาได้ถูกบันทึกว่าเป็นผู้ที่มีไอคิวสูงที่สุด ในหนังสือบันทึกสถิติโลก กินเนส นอกจากนี้ อึงยอง ยังสามารถพิชิตโจทย์คณิตศาสตร์ขั้นสูงได้ในรายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่น ในเวลาต่อมา เขาได้จบการศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขาฟิสิกส์จาก มหาวิทยาลัย โคโรลาโด ด้วยวัยเพียง 15 ปี และเคยทำงานอยู่ที่องค์การ นาซ่า แต่ในทุกวันนี้ เขากลายเป็นวิศวกรโยธาอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งนี้ อึงยอง มีผลงานตีพิมพ์เอกสารทางวิชาการนับร้อยฉบับ เกี่ยวกับเรื่องของไฮดรอลิกส์

อันดับที่ 3. เทอร์เรนซ์ เทา (Terrence Tao)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : สามารถทำคะแนนการทดสอบทางคณิตศาสตร์ SATs ได้ 760 คะแนน ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ และเป็นผู้เข้าแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกที่อายุน้อยที่สุด
IQ : 211
เทอร์เรนซ์ เทา เป็นชาวจีนออสเตรเลีย ซึ่งเกิดในปี 1975 เขาแตกฉานในคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษตั้งแต่ตอนที่มีอายุเพียง 2 ขวบ และอีก 3 ปีต่อมา เขาก็สามารถแก้โจทย์ทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ นอกจากนี้ เทา ยังเป็นผู้เข้าแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกนานาชาติที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 12 ปี เขาได้รับเหรียญทองแดงในการแข่งขันครั้งนั้น และได้รับเหรียญทองในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกนานาชาติอีก 2 ครั้งถัดมา และตอนที่เขาอายุ 24 ปี เขาก็ได้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ แห่งมหาวิทยาลัย UCLA

อันดับที่ 2. วิลเลี่ยม เจมส์ ไซดีส (William James Sidis)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : สามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และเคยถูกจารึกชื่อไว้ว่าเป็นผู้ที่มี IQ สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
IQ : 275
วิลเลี่ยม เจมส์ ไซดีส เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 1898 ซึ่งเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติต้องตระหนักว่าตัวเองเป็นคนที่ไร้ปัญญาขนาดไหน เขาเป็นอัจฉริยะผู้ที่น่าตกตะลึง มีข่าวลือว่าผลการทดสอบไอคิว ของเขานั้นอยู่ในช่วงระหว่าง 250-300 ขึ้นอยู่กับว่าใช้แบบทดสอบแบบใด ไซดิส มักถูกคนพิจารณาถึงการสูญเสียในชีวิตของเขาอยู่บ่อย ๆ
เขาได้ถอนตัวออกจากโลกของการศึกษาตั้งแต่อายุไม่มาก และเขายังเคยยื่นฟ้องร้องคดีกรณีที่ เจมส์ เทอร์เบอร์ ได้เขียนบทวิจารณ์ที่เสียดแทง ไซดีส ไว้ในนิตยสารของนิวยอร์กว่า “เขาได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่ง” และหลังจากที่ ไซดีส เสียชีวิต เอกสารของ ไซดีส ได้ถูกค้นพบว่าเขาต้องการที่จะปฏิบัติตามหลักการดำเนินชีวิตของชนพื้นเมืองอเมริกันด้วยการบริจาคในสิ่งที่เป็นความลับ ซึ่งเขาได้เคยเขียนบทความทางวิชาการต่าง ๆ ภายใต้นามแฝงและการสันนิษฐานส่วนบุคคลว่าการดำรงอยู่ของสิ่งต่าง ๆ นั้นก็ราวกับหลุมดำ และเขาก็ต้องการบริจาคสิ่งที่เขาค้นพบหลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว

อันดับที่ 1. แกรกอรี่ สมิธ (Gregory Smith)
ความสำเร็จในวัยเด็ก : ผลการทดสอบ IQ ทะลุชาร์ต และได้ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 2 ครั้งตั้งแต่ก่อนอายุ 16 ปี
IQ : 200+
แกรกอรี่ สมิธ เกิดในปี 1990 มีรายงานว่าเขาสามารถจดจำเนื้อหาหนังสือได้ทั้งเล่มตั้งแต่ตอนที่มีอายุไม่ถึง 2 ขวบ นับเป็นโชคอย่างยิ่งที่ สมิธ ให้ความสนใจในเรื่องของสันติภาพของโลก และเขาก็ได้กลายมาเป็นนักพูดและนักเคลื่อนไหวตั้งแต่ก่อนที่เด็กส่วนมากจะเข้าเรียนไฮสกูล สมิธ สามารถจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เวอร์จิเนีย ใน ชาร์ลอตส์วิลล์ สหรัฐอเมริกาได้ช่วงเวลาเดียวกับที่เขาได้รับใบขับขี่ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้สนับสนุนสิทธิเด็ก ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับความสนใจจากคณะกรรมการรางวัลโนเบลและได้ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 2 ครั้ง สมิธได้เคยถูกเชิญไปสัมภาษณ์ในหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก
โดย kapook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น