++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประเมินกำลังกันให้วุ่น


ธงไท เทอดอิศรา
‎(๒)

มาวันนี้ เมื่อเห็นสีเดียวกัน และเป็นกลุ่ม ขบวนใหม่ ที่สังคมไม่ค่อยรับรู้ หรือ รู้จักมักคุ้นมาก่อน ย้อนทิศเหมือนย้อนเวลาไปนานสามสิบกว่าปี เพื่อประกาศฟื้นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และจัดตั้งกองทัพใหม่ ในชื่อเรียกขานว่า “กองทัพปลดแอกประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” ที่มีสร้อยต่อท้ายในคำประกาศที่อุดรธานี ว่า ขอให้นักรบ ทปท.ที่กระจัดกระจายกันไป ให้ไปรายงานตัว กลับเข้า กรม กอง โดยด่วน !
จนเป็นที่ตกใจทั้งกับหน่วยข่าว ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย ที่ต้องเช็ตข่าวกันวุ่นวายอยู่พักใหญ่ รวมทั้งเจ้าตัว คือ นักรบกองทัพปลดแอกฯ ทั้งหลาย ที่กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ และกำลังทำสงครามกับชีวิตความเป็นอยู่ หาอยู่ หากิน อย่างเข้มข้นนั้น ก็พากันไถ่ถามว่า จะไปรายงานตัวที่ กรม กอง ตรงไหน(ว๊ะ?) เพราะหลายแห่งแหล่งที่นั้น ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีรีสอร์ตหรู อยู่เต็มไปหมด
แต่อย่างไรก็ตาม สมญานามของ “สหาย” อาทิ สหายพิชิต สหายชัยรบ สหายพนม สหายมลายู สหายชลิต สหายอุทิศ สหายเกื้อ รวมทั้ง สหายปรีชา 505 ที่ล้วนมีร่องรอยอยู่ในประวัติศาสตร์อันเป็นตำนานหน้าหนึ่งของการต่อสู้ในช่วงสงครามประชาชนเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ทั้งใน ฐานะ “จัดตั้ง” ระดับภาค(อีสานเหนือ) ระดับจังหวัด ( กจ.555 / กจ.666 ) รวมทั้ง ผู้บัญชาการกองกำลังรบกองทัพปลดแอกเขตงาน ภูพาน และ ภูซาง และเขตงาน 11 อีสานใต้ (ศรีสะเกษ) ซึ่งแม้จะดูแก่ เฒ่า ไปมาก แต่บทบาทในอดีตของพวกเขาเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเป็น ตัวจริง ในสมรภูมิสงครามประชาชนครั้งเก่าก่อน
ซึ่งอย่างน้อยก็ทำเอา “สีแดง” วัยกำดัด ที่เคยคึกคะนองกับการใช้กำลังมวลชนยึดครองเมืองกรุงมาก่อน ทั้งเคยส่งมวลชนที่นำโดย อดีตนักร้อง และ อดีตตลก มาปิดล้อม กดดัน ศาลรัฐธรรมนูญแห่งหนี้ เมื่อปีก่อนปีกลายนี้เอง ต้องชะงักและประกาศไม่ให้พลพรรคเสื้อแดงไปเพ่นพ่านหน้าศาลรัฐธรรมนูญเด็ดขาดในช่วงระยะนั้น แล้วให้ไปชุมนุม “ตั้งหลัก” กันที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าวแทน
แม้สภาพการณ์ในช่วงต้นซึ่งถือเป็นยกแรกของการเผชิญหน้าครั้งใหม่ ของคู่ความขัดแย้งระหว่างสี ที่เคยเป็นคู่สีที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็น แดง-เหลือง แดง-ฟ้า แดง-น้ำเงิน แดง-ชมพู หรือ แดง-สลิ่มหรือเสื้อหลากสี โดยมีไอ้โม่งในชุดดำคอยทิ่มตำฝ่ายตรงข้ามสีแดงด้วยความรุนแรงอยู้ด้วยก็ตาม จะดูเหมือน “แดงละอ่อน”จะดูเพลี่ยงพล้ำ จากท่าที “แหยงๆ” แดงรุ่นพ่อ รุ่นลุง ที่ใช้ความเก๋าในเชิงการทหารเก่า เข้าปฏิบัติการจนลุล่วงภารกิจด้วยดี เป็นการฝากรอยนักเลงโบราณใว้จนเป็นที่กล่าวขานกันทั่วเมือง สั่งสมความแค้นใว้ในหัวจิตหัวใจของ แดงรุ่นลูก อย่าง ตู่-เต้น ขุนพลใหญ่ที่ใช้ลิ่วล้อในพื้นที่เช็คข่าว ประเมินกำลังกันให้วุ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น