++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

สธ. เพิ่มกรอบอัตรากำลัง “นักการแพทย์แผนไทย” ในโรงพยาบาลทุกระดับทั่วไทย

from MOPH-ข่าวเพื่อสื่อมวลชน by สำนักสารนิเทศ

สาธารณ สุข เดินหน้าพัฒนามาตรฐานบริการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย เร่งพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยในปี 2554 นี้ ขอเพิ่มกรอบโครงสร้างอัตรากำลังนักการแพทย์แผนไทย ในสสจ.และโรงพยาบาลทุกระดับ และจัดทำเกณฑ์มาตรฐานบริการนวดในโรงพยาบาลภาครัฐ ตั้งเป้าผ่านเกณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากขึ้น
วันนี้ (14 มกราคม 2554) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดป้ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาทุ่ง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ให้เป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านใกล้ใจ เปิดบริการประชาชนตำบลนาทุ่งทุกกลุ่มอายุจำนวน 6,000 คน โดยการผสมผสานทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย พร้อมเปิดงานรณรงค์สร้างสุขภาพดีวิถีไทย ที่ตำบลนาทุ่ง เพื่อลดโรคโรคติดต่อเช่น ไข้เลือดออก ลดโรคเรื้อรังเช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย อาหารไทย
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ในปี 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายยกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศทั้งหมด จำนวน 9,750 แห่งเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลภายในเดือนกันยายน 2554 มีบริการทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และการฟื้นฟูสภาพ โดยมุ่งให้โรงพยาบาลทุกระดับ ดำเนินการให้บริการผสมผสานกันระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันกับการแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทย ผลการสำรวจล่าสุดพบว่า ทั่วประเทศมีโรงพยาบาลในสังกัดเปิดบริการด้านการแพทย์แผนไทย จำนวน 2,521 แห่ง มีบริการนวดไทยเพื่อการรักษา นวดไทยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ การดูแลหลังคลอด การอบประคบสมุนไพร ต่อปีมีประชาชนใช้บริการกว่า 1 ล้านคน ซึ่ง 1 ใน 3 เป็นผู้ใช้บริการการนวด
ดร.พรรณ สิริกล่าวต่อว่า ในการพัฒนาระบบบริการการแพทย์แผนไทยให้ได้มาตรฐาน เป็นที่มั่นใจของประชาชน ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขอเพิ่มกรอบโครงสร้างอัตรากำลังนักการแพทย์แผนไทย วุฒิปริญญาตรี เพื่อประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย ซึ่งตำแหน่งนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน การมีอัตรากำลังประเภทนี้จะทำให้กรอบงานแพทย์แผนไทยมีความชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัด ทำเกณฑ์มาตรฐาน การให้บริการนวดไทย แบ่งเป็น 2 ระดับคือ ระดับโรงพยาบาลภาครัฐซึ่งมีแพทย์ประจำ และระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือสถานีอนามัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการนวดให้มีความปลอดภัย และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่ง ขณะนี้นวดไทยถือว่าเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากประชาชน สามารถบำบัดอาการปวดเมื่อย คลายเครียดจากการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความปวดเมื่อยร้อยละ 95 เกิดจากการมีพฤติกรรมดูแลสุขภาพที่ไม่ถูกวิธี นอกจากนี้ การนวดสามารถใช้เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ได้ ขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้ง เป้าให้ผ่านตามเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของสถานบริการที่เปิดบริการนวด โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการตรวจราชการในปี 2554 นี้
มาตรฐานดังกล่าวมีทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านสถานที่ เครื่องมือ เครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม 2.ด้าน บุคลากรให้บริการ 3.ด้านการปฏิบัติงาน 4.ด้านการควบคุมคุณภาพ และ 5.ด้านการจัดบริการ ทั้งการรักษา การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และให้มีการใช้รหัสการวินิจฉัยโรคและอาการด้านการแพทย์แผนไทย ให้เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศด้วย
********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น