++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"เจ๊ก ชุมพร-ตี๋ แซ่เตียว" วีรชน 7 ต.ค. พร้อมวีรชนพฤษภาฯ ร่วมคอนเสิร์ตการเมืองฯ หาดใหญ่

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 8 ที่ มอ.หาดใหญ่
พี่น้องพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น รวมถึง 2 วีรชน
7 ต.ค. 51 "เจ๊ก ชุมพร" และ "ตี๋ แซ่เตียว" กับอีก 1 วีรชนคนพฤษภาทมิฬ
"สมยศ วิกัยสุขสกุล" ร่วมงานครั้งนี้ด้วย
คาดหวังการเมืองใหม่เพื่อความอยู่รอดของประเทศไทย

เวทีคอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 8
ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณ
สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ มีพี่น้องพันธมิตรฯ
จากทั่วประเทศมาร่วมงานกันเนืองแน่น ทำให้สนามฟุตบอลแคบไปโดยปริยาย
นอกจากจะมีเหล่าแกนนำพันธมิตรฯรุ่น 1 รุ่น 2 และพิธีกรจาก ASTV
มาร่วมกันอย่างคับคั่งแล้ว ยังมี 2 วีรชน จากเหตุการณ์ 7 ต.ค. 51 คือ
"เจ๊ก ชุมพร" นายธัญญา อุ่นแก้ว และ นายตี๋ แซ่เตียว และอีก 1 วีรชน
พฤษภาทมิฬ มาร่วมงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ด้วย

สำหรับวีรชนคนพฤษภาทมิฬ ที่มาร่วมด้วยอีก 1 คน คือนายสมยศ
วิกัยสุขสกุล อายุ 51 ปี พื้นเพเป็นคน ต.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
แต่ได้ย้ายไปอยู่กรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี 2519
จึงได้มีโอกาสไปร่วมต่อสู้และอยู่ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นายสมยศ
ต้องเป็นอัมพาตครึ่งตัวไม่สามารถเดินได้มาจนถึงปัจจุบัน

นายสมยศ เล่าเหตุการณ์เมื่อพฤษภาทมิฬให้กับทีมข่าว ASTV
ผู้จัดการฟังว่า เมื่อครั้งสมัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ได้มีการประท้วงเรียกร้องให้ลาออก ตนก็ได้ไปร่วมประท้วงกับ พลตรีจำลอง
ศรีเมืองด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ทำให้ตนโดยยิงด้วยปืนเอ็ม 16
ซึ่งเป็นปืนของทหาร กระสุนโดนที่บริเวณสะเอวจากด้านขวาทะลุด้านซ้าย
ต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลหัวเฉียวโดยไม่รู้สึกตัว 15 วัน
และออกมารักษาตัวอยู่ห้องธรรมดาอีก 8 เดือน
อาการในตอนนั้นคือกระสุนโดนไขสันหลัง
ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งตัวไม่สามารถเดินได้

นายสมยศ เล่าต่ออีกว่า ตนและครอบครัวได้ย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่
อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2540 และได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาโดยตลอด
และช่วงการต่อสู้เมื่อปี 51 ที่ผ่านมา
ก็ได้ติดตามการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ จากช่อง ASTV มาโดยตลอด
และความรุนแรงโหดร้ายกว่าเมื่อปี 2535 มากมายหลายเท่า
จนทำให้พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หลายคน
และการต่อสู้ของพี่น้องในปัจจุบันเข้มแข็งเหนียวแน่นกว่าเมื่อ ปี 2535
มาก ไม่มีอะไรสามารถสลายมวลชนที่เข้มแข็งนี้ได้ และประเทศไทยต้องการ
การเมืองใหม่ ที่สำคัญต้องปลูกฝัง
ต้องให้ความรู้กับเยาวชนรุ่นหลังให้มากกว่าก่อนที่จะไม่มีเยาวชนมาร่วมกัน
สืบทอดร่วมกันปกป้อง สถาบัน ปกป้องประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป

นางอรุณ วิกัยสุขสกุล ภรรยาของนายสมยศ กล่าวเสริมว่า
ตอนที่นายสมยศโดนยิงจนทำให้เป็นอัมพาตเดินไม่ได้นั้น
ครอบครัวก็หมดกำลังใจไปเช่นกัน แต่ตอนนี้เวลาก็ผ่านมากว่า 17
ปีแล้วผ่านตรงนั้นมาได้แล้ว
ความรู้สึกและกำลังใจของครอบครัวดีขึ้นมากแล้วและไม่ห่วงแล้ว
แต่ตอนนี้เป็นห่วงประเทศไทย เป็นห่วงสถาบัน และสังคมมากว่า
เพราะฉะนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันโดยเฉพาะต้องให้ความรู้กับเยาวชนไทยให้
มากกว่านี้

from http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000051832

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น