++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วงจรอุบาทว์

โดย ชัยสิริ สมุทวณิช 10 ธันวาคม 2551 18:00 น.

วงจรอุบาทว์ที่พวกเครือญาติหรือคนที่ทักษิณเลือกมาเป็นนายกฯ ต้องสะดุดลง เมื่อบุคคลที่ถือว่าเป็นกำลังหลักของนักโทษเด็ดขาดทักษิณอย่างเนวิน ชิดชอบ ที่คล่องตัวในการจัดหามวลชนมาป้อนให้ นปก.คึกคักจากบุรีรัมย์นั้น ได้พลิกบทบาทเข้ามาสมทบกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อร่วมกันเป็นรัฐบาล
      
        การเชิดชูนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น ถือว่าถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย เมื่อพรรคที่รวมกันได้เสียงข้างมาก และที่มีข่าวปล่อยก่อนหน้านี้ว่าอาจจะให้นายชวน หลีกภัย กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีก ก็ดูจะไม่ชอบธรรม และน่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกให้กับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าที่เป็นอย่างอ ื่น
      
        น ายอภิสิทธิ์นั้น ถือได้ว่ายังเป็นคนหนุ่มและเป็นคนที่สดใหม่ถูกใจคนกรุงเทพฯ ประวัติชาติตระกูลดี ไม่มีอะไรด่างพร้อย อย่างไรเขาก็มิใช่คนก้าวหน้า และการที่เคยเป็นนักเรียนอังกฤษมาตั้งแต่เด็กก็ติดนิสัยการเป็นคนอนุรักษ์ และอาจจะตัดสินใจช้าไม่แพ้คุณชวน หลีกภัย ซึ่งมักอ้างสาเหตุที่เชื่องช้าก็เพราะยังไม่ได้รับหรือไม่ได้อ่านรายงานจากข ้าราชการประจำ
      
        แต่ในด้านความซื่อสัตย์สุจริตและความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น นายอภิสิทธิ์มีเต็มร้อย ข้อนี้เขาได้ใจฝ่ายพันธมิตรฯ แม้ว่าพันธมิตรฯ เองไม่ไว้ใจนายเนวินว่าจะมาไม้ไหนหรือเป็นม้าไส้ศึกจากทักษิณอีกหรือไม่ เพราะนายเนวินเองก็ยังบอกกับผู้สื่อข่าวแบบตรงๆ ว่า ยังคงนับถืออยู่กับทักษิณเช่นเดิม
      
        น อกเหนือจากกลุ่มเนวินแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยังได้พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคมัชฌิมาธิปไตยเข้ามาสมทบด้วย ทำให้กลายเป็นพรรคที่รวมกันเป็นเอกภาพ แต่แม้จะมีความขัดแย้งหรือขาดเอกภาพกันบ้าง แต่การประสานงานเพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวก็ทำได้ไม่ยาก
      
        คนที่เหน็ดเหนื่อยในการตั้งรัฐบาล ดัดหลังพวกไทยรักไทยเก่านั้น ตัวตนจริงๆ คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ที่ทำงานตามลำดับอย่างมีขั้นตอน โดยเขากล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ออกมาหาว่าเขาหักหลังในการตั้งรัฐบาลคราวนี้ว่า จริงๆ แล้วไม่ได้ทำอย่างนั้น อาจจะสื่อสารไม่เข้าใจกัน ตัวเลขรวมเวลานี้นายสุเทพ ระบุว่า ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว ฝ่ายตรงข้ามยังคงใช้พลังทั้งอิทธิพลและเงินในการดึงคนของตัวเองคืนรังให้มาก ที่สุด ส.ส.เดิมอาจจะลังเลบ้าง แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคเก่านั้น หาอนาคตไม่ได้แล้ว เพราะขาดแกนนำที่สำคัญๆ ไปหลายคน อีกทั้งยังเชื่อว่าอดีตนายกฯ ทักษิณน่าจะถอดใจแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมาโดนหลอกเอาเงินไปใช้ก็แยะ
      
        พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าคนทั่วไปอยากให้ ปชป.ตั้งรัฐบาล เพราะเห็นว่ารัฐบาลที่ผ่านมา นอกจากจะไม่มีผลงานแล้ว ยังทำสังคมแตกแยก แถมยังสร้างความมัวหมองให้กับสถาบันสูงสุดของประเทศ ไม่ดำเนินการกับผู้ดูหมิ่นสถาบันแม้แต่น้อย หลายคนที่เป็นแกนนำทั้งในรัฐบาลและพวก นปช.ก็ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่โดนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีส่วนเกี่ยวกับการอุดหนุนและส่งเสริมให้เว็บไซต์หมิ่นสถาบันขยายตัวอย่า งรวดเร็วในรัฐบาลที่แล้ว
      
        คนที่ออกมาค้านรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แรงที่สุดเห็นจะเป็นนายเสนาะ เทียนทอง ที่มักจะเห็นภาพเลวร้ายว่า ปชป.จะบริหารได้ยาก เพราะเสียงข้างมากนั้นไม่ได้มากจนล้นเหลือ และเชื่อว่ากลุ่มเนวินจะอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้เป็นมิตรถาวรด้วยซ้ำไป
      
        เ อาเป็นว่า นายเสนาะน่าจะผิดหวัง คนอย่างเขาถ้าได้ร่วมรัฐบาล เขาน่าจะได้เป็นรองนายกฯ และคุมกระทรวงสำคัญอย่างน้อยก็ 2-3 กระทรวงซึ่งดีกว่าผายลมหรือกำตดอยู่ขอบเวทีเป็นไหนๆ
      
        หลังจากรู้ว่าหมดหวังที่พรรคเก่าจะได้ขึ้นมามีอำนาจ พวกตัวป่วนก็ออกโรง บ้างก็มีคนบ้า คนสติไม่สมประกอบออกมาด่าทอ ขว้างสิ่งของ และแจกอวัยวะเพศให้กับพรรคเป็นว่าเล่น ในบรรดาพวกสติแตกมีทั้งหญิงและชาย จนเป็นที่เวทนายิ่งแก่ผู้พบเห็น
      
        แ นวคิดเกี่ยวกับรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกาลของป๋าเหนาะ รวมทั้งรัฐบาลพระราชทานของพวกปัญญาชนบางกลุ่ม เวลานี้ก็ซากันไป ไม่มีใครพูดอีก
      
        นายเนวินยังให้ข่าวว่า เขามีเงื่อนไขในการเข้าร่วมถึง 4 ประการ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกเร้นลับเป็นเรื่องปกติ เช่น รักษาสถาบัน แก้รัฐธรรมนูญและอยากให้ทำประชานิยมต่อไป รวมทั้งอยากให้เกิดความปรองดองในชาติ ทั้งหมดก็เป็นเรื่องภาคบังคับที่รัฐบาลต้องเดินหน้าอยู่แล้ว
      
        เ มื่อบทบาทของพวกกุ๊ยอย่างสามเกลอหัวขวดที่มักจะออกหน้าจอทีวีเพื่อบิดเบือนข ่าวสาร และพ่นพิษด้านความคิดเห็น อสรกุ๊ยพวกนี้ก็นรกกินหัวเข้าไปทุกวัน ออกมาด่าและบริภาษว่าคนอย่างนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเลย โดยอ้างว่าหนีการเป็นทหารซึ่งแม้ว่าจะเป็นประเด็นเล็กน้อยทั้งที่นายอภิสิทธ ิ์เคยสอนนักเรียนโรงเรียนนายร้อยมาก่อนก็ตาม แต่ก็ยังโดนแขวะจนได้แหละครับ
      
        ฝ่ายเสียอำนาจเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยพยายามที่ไปยุนายเสนาะ เทียนทองให้ไปปัดฝุ่นเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาใหม่ ทั้งๆ ที่การที่จะมีรัฐบาลแบบที่ว่านี้ มันต้องมีวิกฤตการณ์ในบ้านเมือง แต่นี่ไม่ใช่วิกฤตแต่ประการใด มันมีแต่วิกฤตของพวกเสียอำนาจเท่านั้นเอง
      
        ผมว่าประชาชนโดยทั่วไปจึงเห็นว่าพวก ส.ส.หมดอำนาจเหล่านี้ ไม่ต่างอะไรกับจำอวดหลงโรงเท่านั้น
      
        และพรรคเพื่อแผ่นดินซึ่ง ส.ส.เสียอำนาจไปรวมกันอยู่ก็เดินหน้าต่อไป ตกลงไปชูเอาอดีต ผบ.ตร.ประชา พรหมนอก ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค
      
        ครับนี่ก็เป็นการเดินแต้มคูทางการเมืองกัน
      
        พวกเสียอำนาจนั้นแบ่งได้หลายกลุ่ม
      
        พ วกที่เสียใจจนเพี้ยนบ้างก็อ้างว่า ทักษิณโทรศัพท์ทางไกลมาอ้อนวอนให้ตนช่วยเป็นแกนประสาน ส.ส.ให้ และมอบหมายงานใหญ่ให้ทำ คนพวกนี้มักจะเป็นพวกประจบสอพลอ หวังหลอกเอาเงินจากทักษิณอีกครั้ง
      
        อีกพวกก็สติแตก เช่น เสื้อแดงในต่างจังหวัดบุกไปยังบ้านของ ส.ส.ที่แปรพรรคไปอยู่กับประชาธิปัตย์ คนเหล่านี้ฟูมฟาย ไม่ค่อยควบคุมอารมณ์เพ้อคลั่ง
      
        พ วกหนึ่งครองสติไม่อยู่ จักเป็นพวกบ้าห้าร้อยชนิดได้แก่ พวกให้ของลับ พวกด่าหยาบคายยิ่งกว่าแม่ค้าปากคลองตลาด คนพวกนี้เสียใจที่รัฐบาลเก่าตกงาน
      
        พวกบ้ารัฐบาลก็มาจากพรรคที่อดเข้าร่วมรัฐบาลที่เขาตั้งใหม่ อาจจะเป็นอดีตแกนนำบางคน คนพวกนี้มักอยากให้มีรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกาล ฯลฯ ทั้งหมดก็เพื่อเอาพวกเอาพรรคเข้าไปร่วม และส่วนตัวก็อยากได้ตำแหน่งเพื่อจะเข้าไปโกงกอบโกยนั้นแหละ
      
        น่าเวทนามาก

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000145589

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น