++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

"เอ อี อา โอ อู", "เม มี มา โม มู" กับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง

“เอ อี อา โอ อู”, “เม มี มา โม มู” กับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงช่วงที่ผ่านมา ผมได้โพสต์ข้อความในสถานะของผมใน facebook ว่า “เอ อี อา โอ อู” สลับกับ “เม มี มา โม มู” ก็มีผลการตอบรับที่แตกต่างกันไป
เอ อี อา โอ อู เม มี มา โม มู หลายๆ คนเห็นข้อความนี้ปรากฏขึ้นแล้วก็คงจะงงกันว่า โพสต์อะไรเนี้ย!! ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

บางคนเห็นแล้ว ก็มองผ่านไป คิดว่า “ มันโพสต์บ้าอะไรของมัน!”
บางคนเห็นแล้ว ก็โพสต์เข้ามาถาม
บางคนเห็นแล้ว ก็โพสต์กวนๆ เข้ามา
100 คนที่เห็นข้อความนี้ ก็มีปฏิกิริยาตอบรับที่แตกต่างกันไป ทั้งด้านดี และไม่ดีปะปนกันไป

แล้วคุณรู้ไหมครับว่า เอ อี อา โอ อู และ เม มี มา โม มู คืออะไร?

“เอ อี อา โอ อู เม มี มา โม มู” วันนั้นผมได้ยิน 2 พ่อลูก เขาร้องกันเป็นทำนอง หลังจากกลับมาจากการไปเที่ยวทะเล

เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน ผมก็ได้ถามว่า มันคืออะไร? ก็ได้ความว่า มันคือประโยคที่ถูกสอนเมื่อตอนไปเรียนร้องเพลง โดยการร้องเป็นทำนองว่า “เอ อี อา โอ อู” จะช่วยให้เราสามารถออกเสียง “สระ” ได้ชัดเจนขึ้น ในการร้องเพลง และการร้องเป็นทำนองว่า “เม มี มา โม มู” จะช่วยให้เราสามารถออกเสียง “พยัญชนะ” ได้ชัดเจนขึ้น ในการร้องเพลง ถามต่อว่าต้องทำแบบนี้นานแค่ไหนถึงจะพอ เขาก็บอกอีกว่า “ควรทำเรื่อยๆ เพราะถือเป็นพื้นฐาน”

ถ้าแค่มองผ่านๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย…
แต่พอเราหาคำตอบมัน มันก็กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า

รู้ไหมครับว่าความแตกต่าง ระหว่างคนประสบความสำเร็จในชีวิต กับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ คืออะไร?

ไม่ใช่ใบปริญญา!! ไม่ใช่รายได้ของครอบครัวที่มีมาแต่เกิด!!
แต่เป็นเพราะกระบวนการคิดที่ถูกต้อง!!

คนทั่วไป มองอะไรแล้วมักจะมองผ่านๆ ไม่สนใจ คิดว่าไม่มีอะไร คิดว่ามันก็แค่นั้น ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ศึกษา และทำความเข้าใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

แต่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขาจะมองอย่างผู้รู้จริง เปิดใจกว้างที่จะศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ และทำความเข้าใจมันจากความเป็นจริง ไม่ใช่เข้าใจเรื่องต่างๆ จากแค่ความคิดของตัวเอง…

บางครั้ง อะไรที่เรามองข้าม อะไรที่เราตัดสินมันเมื่อได้ยินได้ฟัง มันอาจทำให้เราศูนย์เสียโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตไปก็ได้…

ยกตัวอย่างเช่นในพุทธประวัติ ในช่วงก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรง ปรินิพพาน ได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า หากตั้งใจเจริญอิทธิบาท 4 ก็จะสามารถมีอายุขัยได้ตลอดกัปล์ แต่ในครั้งนั้นพระอานนท์ทรงฟังผ่านไป ถึง 3 ครั้ง จนพญามารได้มาขอให้ท่านเสด็จดับขันธปรินิพพานไปก่อน….

ดังนั้น อย่าปล่อยสิ่งดีๆ หรือโอกาสพิเศษๆ ที่เข้ามาหาเราผ่านไป เพียงเพราะการตัดสินใจโดยไม่ได้ศึกษาอย่างแท้จริงนะครับ

โอกาสมีอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด แต่เรานี้แหละที่ไม่เปิดรับมันเองครับ


-- ติดตามเรื่องราวดีๆ เพื่อการพัฒนาตนเอง https://coachkitti.wordpress.com --

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น