++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

คชอ.สรุปน้ำท่วมตาย 61 ราย นอกเมืองสุราษฎร์ยังขาดน้ำดื่ม

รอง ผอ.คชอ.เผย 11-12 เมษานี้ อีสานตอนบน กลาง ตะวันออก มีฝน เตือนชาวใต้ระวังดินถล่ม ที่นบพิตำ, สิชล, เขาพนม สรุปน้ำท่วม ตาย 61 ราย สุราษฎร์พื้นที่ชนบทยังต้องการน้ำดื่ม

วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทเยนทร์ มุตตามระ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) กล่าวภายหลังการประชุม ศชอ.ว่า สภาพอากาศ บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้ช่วงวันที่ 11-12 เม.ย.ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ ในส่วนของภาคใต้ กรมทรัพยากรน้ำได้แจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากดินถล่ม โดยเฉพาะบริเวณที่มีรอยแยกของดิน โดยเฉพาะบริเวณ อ.นบพิตำ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ดังนั้น การอพยพประชาชนกลับบ้านเรือนต้องใช้ความระมัดระวัง โดยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ไม่มีฝนตกต่อเนื่องมา 3 วัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนทางภาคใต้เป็นศูนย์ ทำให้น้ำในแม่น้ำตาปี แม่น้ำในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดตรัง ลดต่ำลงกว่าตลิ่ง ทั้งนี้ เส้นทางคมนาคม ทางหลวงแผ่นดิน มีน้ำท่วม 4 สายทาง จำนวน 4 แห่ง ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4186 โรงเหล็ก-กรุงชิง ท้องที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช คอสะพานขาด ที่ กม. 15+125 2.ส่วนสนามบินรถไฟสายใต้ก็เปิดบริการได้ตามปกติแล้ว

นายวิทเยนทร์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และจังหวัดตรัง ใน 16 อำเภอ 136 ตำบล 1,395 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 191,506 ครัวเรือน 461,794 คน ส่วนอีก 6 จังหวัดประกอบ พังงา นราธิวาส สตูล ชุมพร สงขลา และ กระบี่ อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ด้านความเสียหายทั้งหมด มีผู้เสียชีวิต 61 ราย นครศรีธรรมราช 26 ราย สุราษฎร์ธานี 12 ราย กระบี่ 12 ราย พัทลุง 5 ราย ชุมพร 3 ราย ตรัง 2 ราย พังงา 1 ราย มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 406 หลัง เสียหายบางส่วน 10,557 หลัง สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายเบื้องต้น ถนน 5,902 สาย ท่อระบายน้ำ 705 แห่ง ฝาย/ทำนบ 189 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 597 แห่ง วัด/โรงเรียน 694 แห่ง สถานที่ราชการ 176 แห่ง ทั้งนี้ แม้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะมีการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนได้แล้ว แต่ยังมีพื้นที่ที่ห่างไกลต้องการน้ำสะอาด และน้ำดื่มอีกเป็นจำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น