++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

สังคมไทยยุคนี้ ... ก็เป็นเช่นนี้

ภาพเปลือกนอกกับการแสดงออก มิใช่คำตอบสุดท้ายที่จะตัดสินว่าใครเป็นของแท้ของเทียม ด้วยการเชื่อถือ นับถือ หรือฝากความหวังไว้กับใครสักคน ในอันที่จะต่อสู้เพื่อบ้านเมือง เพื่อลูกหลาน สำหรับสังคมในยุคนี้

กาลเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นของแท้และของเทียม

แต่ สิ่งที่ได้เห็นและสัมผัส คือ มวลหมู่พันธบัตรประชาชน ฯ ที่ออกมาต่อสู้ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ที่จะปกปักรักษาสถาบันหลัก ได้แก่ ชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ ด้วยจิตบริสุทธิ์ เสียสละทั้งข้าวของเงินทอง ทั้งแรงใจและแรงกาย ซึ่งในขณะนี้ต้องเจอมรสุมรอบด้าน โดยเฉพาะกับคนที่พันธมิตรประชาชน ฯ คาดหวังที่จะเป็นมิตรแท้ ร่วมต่อสู้ในอุดมการณ์เดียวกัน

ในครั้งที่ต่อสู้ขับไล่นักโทษหนีคุก พันธมิตรประชาชน ฯ ก็มีพวกห้อยโหนหลอกใช้ เพื่อเหยียบศพก้าวขึ้นไปเป็นใหญ่ จากคนหลาย ๆ คนที่หน้าไหว้หลังหลอก และเมื่อได้สิ่งที่ต้องการก็หันมาเล่นงานสนองบุญคุณอย่างแสนสาหัส นี้คือความเจ็บช้ำน้ำใจที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ ต้องประสบกับการต่อสู้ในครั้งนั้น

ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย นายทหาร มวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ ตั้งหน้าตั้งตาทั้งเชียร์และสนับสนุน โดยคาดหวังว่าคนนั้น คนนี้เป็นคนดี ในอันที่จะฝากชาติบ้านเมืองให้ช่วยดูแล แต่ผลสุดท้ายเมื่อคน ๆ นั้นได้ดิบได้ดีสมหวังดังใจของมวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ แต่ดีใจไม่ทันข้ามวันข้ามคืน คน ๆ นั้นก็หันมาแว้งกัดเล่นงานมวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ นี้คือความเจ็บช้ำน้ำใจที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ ต้องประสบกับคนในสังคมยุคนี้

หรือข่าวคราวว่ามีนายตำรวจน้ำดี ที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ เฝ้ารอว่าคน ๆ นี้ จะเป็นที่หวังพึ่งได้และเฝ้ารอว่าเมื่อไรจะออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชนเพื่อ ปกป้องรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ชอบอ้างสร้างภาพว่าเป็นคนดี แต่ผลสุดท้ายข่าวที่ได้รับคือ จะเล่นการเมืองโดยเข้าร่วมกับพรรคเผาบ้านเผาเมือง นี้คือความรู้สึกประหลาดใจที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ ได้เห็นธาตุแท้ของคนในสังคมยุคนี้

หรือแม้แต่เพื่อนร่วมต่อสู้ร่วม อุดมการณ์ร่วมเวที ที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ ให้ทั้งความรักและศรัทธา ทั้งความเชื่อมั่นและนับถือ เพราะคิดว่าเป็นคนดีที่จะร่วมกอดคอต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกัน แต่ผลสุดท้ายก็ทิ้งมวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ ผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผู้ร่วมอุดมการณ์ไว้ข้างเวทีและหน้าเวที นี้คือความเจ็บช้ำน้ำใจที่มวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ ไม่เคยปริปาก ด้วยคาดหวังว่าสักวันหนึ่งจะกลับคืนสู่เวทีร่วมกันต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ต่อไป แต่ผลสุดท้ายของสุดท้ายที่คาดไม่ถึงคือการทำร้ายซึ่งกันและกัน

บท สรุปจากบทเรียน ทำให้ได้มวลหมู่พันธมิตรประชาชน ฯ ได้เห็นธาตุแท้ของคนสมัยนี้ยุคนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ต้องปลงและทำใจให้ได้ว่า “มนุษย์ในยุคนี้ก็เป็นเช่นนี้นั้นเอง” เอวังด้วยประการฉะนี้

แต่ถึง อย่างไรก็ตาม เวทีพันธมิตรประชาชน ฯ ก็จะไม่ว่างเปล่า เพราะมวลหมู่พันธมิตรประชาชน มิได้ยึดติดกับมนุษย์กับคนในยุคนี้ แต่ยึดมั่นด้วยใจที่มั่นคง ในอันที่จะปกป้องรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้คงอยู่เพื่อลูกหลานในอนาคตต่อไป

วันนี้ได้เห็นสัจจธรรมของความ เป็นมนุษย์ ค่าของความเป็นคน มากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะความรู้สึก “รักมากก็เกลียดมาก” คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ สำหรับมวลหมู่พันธมิตรประชาชนฯ ตราบสิ้นลมหายใจ และนับแต่นี้ไป มวลชนพันธมิตรประชาชน ฯ จะไม่ยอมให้พวกห้อยโหนหลอกใช้อีกต่อไป

มีเท่าไรก็สู้เท่านั้น ให้รู้ไปว่าคนไทยสมัยนี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าอนาคตของประเทศชาติและอนาคตของลูกหลาน

ประชาชน
12 เมษายน 2554
.............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น