++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

พรรคไหนก็ได้ ไม่เชื่อก็ลองดู โดย ราวี เวียงพยัคฆ์

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความพึงพอใจต่อผลงานรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี” ช่วงระยะเวลาในการสำรวจวันที่ 28-29 มีนาคม 2554 จากประชาชน 1,207 หน่วย ตัวอย่างกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จากทุกระดับการศึกษา ทุกกลุ่มอาชีพ ผลการศึกษาครั้งนี้เปรียบเทียบกับผลการศึกษา 7 ครั้งที่ผ่านมา เป็นดังต่อไปนี้

1. คะแนนโดยรวมของรัฐบาลการสำรวจในเดือนมีนาคม 2544 คะนนเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจต่อผลงานโดยรวมของรัฐบาลเท่ากับ 5.35 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 โดยมีคะแนนรายภาคดังนี้ คะแนนโดยรวมรัฐบาลต่ำสุด 5.35 ตั้งแต่ดำเนินการสำรวจมา

ภาคใต้ให้คะแนนรัฐบาล 4.97 คะแนนต่ำกว่าภูมิภาคอื่นๆ และเป็นคะแนนต่ำที่สุดตั้งแต่มีการสำรวจมา

2. ความพึงพอใจต่อผลงานรัฐบาล ปรากฏว่า ไม่มีผลงานใดเป็นที่น่าพอใจเลย

3. ความพึงพอใจของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลดลงทุกภาคยกเว้นภาคเหนือ แต่ความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรียังนับว่าสูง ภาคใต้นิยมในตัวนายกรัฐมนตรีมากกว่าภาคอื่น

นี่นับว่าเป็นข่าวร้ายของพรรคประชาธิปัตย์แกนนำรัฐบาลที่เตรียมการยุบสภา เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ยังดีที่การสำรวจดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางลงใต้เพื่อช่วยเหลือน้ำท่วม ถ้าหากประชาชนได้เห็นภาพที่นายอภิสิทธิ์เดินแอ่นหน้าแอ่นหลัง มีผู้คนพยุงซ้ายพยุงขวาด้วยเกรงว่า นายอภิสิทธิ์จะหน้าขมำหรือหงายหลังตีลังกา คะแนนนิยมก็คงจะรูดมหาราชกว่านี้ เพราะประชาชนทั้งหลายทั้งปวงคงต้องการเห็นผู้นำของเขาเข้มแข็ง ไม่ถนิมสร้อย หรือไม่ใช่เป็นผู้นำเฉพาะบนโพเดี้ยมดีแต่ตีฝีปากแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ลุยน้ำลุยโคลนไม่ได้ ไม่เป็น อย่างที่เห็น

นับเป็นความโชคร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ที่เดินเข้าสู่เส้นทางของการเลือก ตั้งในยามที่คะแนนนิยมประชาชนมีต่อพรรคประชาธิปัตย์ลดลงเรื่อยๆ ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนด เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อใด เลือกเอาช่วงที่คะแนนนิยมกำลังขึ้นสูง หรือคะแนนดีมากๆ ก็ได้

แต่ก็อีกนั่นแหละ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงจะได้ใคร่ครวญเป็นอย่างดีแล้วว่า คะแนนนิยมของพรรค คะแนนนิยมในตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอง หากทอดเวลายาวนานออกไปก็ยิ่งจะไม่เหลือ จึงต้องรีบตัดสินใจยุบสภาเสียตั้งแต่ตอนที่ยังพอมีคะแนนเสียงอยู่บ้าง

ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์จะสำรวจตัวเอง พิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนก็จะพบว่า คะแนนนิยมที่ลดลงๆ นั้นไม่มีใครทำ นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเอง

หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กระเด็นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ต้องหาตัวนายกรัฐมนตรีใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้คะแนนน้อยกว่าพรรคพลังประชาชนสามารถดึง ส.ส.กลุ่มหนึ่งซึ่งนายเนวิน ชิดชอบ อยู่เบื้องหลังมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้จัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็เฮละโลมาร่วม ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนซึ่งไปจัดตั้งพรรคใหม่เป็นพรรคเพื่อไทยกลายเป็นฝ่ายค้าน นั่นเป็นภาพที่ไม่สวยของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แต่ผู้คนทั้งหลายก็พอทำใจ เพราะรู้ว่าพรรคพลังประชาชนที่กลายสภาพเป็นพรรคเพื่อไทยนั้นมี ทักษิณ ชินวัตร บงการอยู่ข้างหลัง

ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตระหนักดีแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีแสวงหาผลประโยชน์ร่ำรวยอยู่แล้วร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาอีก เป็นแสนๆ ล้าน ขณะนี้กำลังหนีคุก ขณะนี้สนับสนุนพรรคการเมืองพรรคพลังประชาชน เมื่อถูกยุบก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นพรรคเพื่อไทย

ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังจะดีกว่าให้คนของทักษิณเป็น ซึ่งมองเห็นอนาคตอยู่แล้วว่าจะต้องช่วยให้ทักษิณพ้นคุก จะต้องให้ทักษิณได้ทรัพย์สมบัติที่ศาลสั่งยึดคืน จะต้องให้บรรดาคดีทั้งหลายของทักษิณลบออกเสียจากสารบบศาล

พรรคประชาธิปัตย์ก็ดูเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกเข็ดขยาดที่ประชาชนมีต่อ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อมีการเลือกตั้งจึงได้เสนอวรรคทองว่า “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” ให้ประชาชนได้คิด ซึ่งก็น่าเชื่อว่า คงจะได้ผลในระดับหนึ่ง

แต่ 2 ปีกว่าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ ประชาชนได้ข้อสรุปแล้วว่า ใครจะได้รับเลือกตั้งมาบริหารประเทศระหว่างพรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนอมินีของทักษิณ ชินวัตรซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นใครนั้น ไม่แตกต่างกันเลย

พูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ แย่พอกัน เลวพอกัน

พูดกันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจก็อับปรีย์ไป จัญไรมา

2 ปีกว่าของนายอภิสิทธิ์มีแต่คำหวาน มีแต่หลักการ เป็นต้น จะยึดกฎเหล็ก 9 ข้อ ใช้หลักนิติธรรมยุติการเมืองที่ล้มเหลว แต่ที่เห็นๆ ก็คือ กฎเหล็กนายอภิสิทธิ์ใช้ไม่ได้เลยสักข้อ ปราบคอร์รัปชันไม่ได้เลยสักราย แถมยังปล่อยให้คอร์รัปชันข้าว มัน น้ำมันพืช สนามบิน ฯลฯ นโยบายก็ลอกการบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ตอนเป็นฝ่ายค้านก็ด่าเขาโครมๆ ว่า จะทำให้วินัยการเงินการคลังเสียหาย

แถมมาเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อให้ชาวบ้านเห็น ไปช่วยชาวใต้ก็ยืนอยู่บนรถยีเอ็มซี ครั้นถูกด่าก็จะไปเดินลุยน้ำให้ชาวบ้านดูก็เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังต้องให้ผู้ คนช่วยกันพยุงซ้ายขวาหน้าหลัง

ไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะชนะมีโอกาสบริหารประเทศก็เชิญ แต่ถ้าหากแก้ไขกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้ทักษิณ เอาทรัพย์สินคืนให้ทักษิณ ก็ต้องเจอกับประชาชน

จำไม่ได้หรือ สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดนมาแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น