++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

นิทานเซน : น้าชาล้นถ้วย

โดย พุทธทาสภิกขุ
เรื่องที่หนึ่ง ซึ่งไม่อยากจะเว้นเสีย ทั้งที่ เคยเอ่ยถึงแล้ว วันก่อน คือ เรื่อง น้าชาล้นถ้วย คือว่า
อาจารย์ แห่งนิกายเซ็น ชื่อ น่าอิน เป็น ผู้มีชื่อเสียง ทั่วประเทศ และ โปรเฟส
เซอร์ คนหนึ่ง เป็น โปรเฟสเซอร์ ที่มีชื่อเสียง ทั่วประเทศ ไปหา อาจารย์น่าอิน
เพื่อขอศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างเซ็น
ในการต้อนรับ ท่านอาจารย์ น่าอิน ได้รินน้าชา ลงในถ้วย รินจนล้นแล้วล้นอีก
โปรเฟสเซอร์ มองดูด้วยความฉงน ทนดูไม่ได้ก็พูดโพล่งออกไปว่า "ท่านจะใส่มัน
ลงไปได้อย่างไร" ประโยคนี้ มันก็แสดงว่า โมโห
ท่านอาจารย์ น่าอิน จึงตอบว่า" ถึงท่านก็เหมือนกัน อาตมาจะใส่อะไร ลงไป
ได้อย่างไร เพราะท่านเต็มอยู่ด้วย opinions และ speculations ของท่านเอง" คือ
ว่า เต็มไปด้วยความคิด ความเห็น ตามความ ยึดมั่นถือมั่น ของท่านเอง และมีวิธี
คิดนึก คานวณ ตามแบบของท่านเอง สองอย่างนี้แหละ มันทาให้เข้าใจพุทธ
ศาสนาอย่างเซ็นไม่ได้เรียกว่า ถ้วยชามันล้น
ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลาย จะเตือนสติเด็กของเราให้รู้สึกนึกคิด เรื่องอะไรล้น อะไรไม่ล้น ได้อย่างไร
ขอให้ช่วยกันหาหนทาง ในครั้งโบราณ ในอรรถกถา ได้เคยกระแหนะกระแหนถึงพวกพราหมณ์ที่เป็นทิศา
ปาโมกข์ ต้องเอาเหล็กมาตีเป็นเข็มขัด คาดท้องไว้เนื่องด้วยกลัวท้องจะแตกเพราะวิชาล้น นี้จะเป็นเรื่องที่
มีความหมายอย่างไร ก็ลองคิดดู พวกเรา อาจล้น หรือ อัดอยู่ด้วยวิชาทานองนั้น จนอะไรใส่ ลงไปอีกไม่ได้
หรือ ความล้นนั้น มันออกมาอาละวาด เอาบุคคลอื่น อยู่บ่อยๆ บ้างกระมัง
แต่เราคิดดูก็จะเห็นได้ว่า ส่วนที่ล้น นั้น คงจะเป็นส่วน ที่ใช ้ไม่ได้จะจริงหรือไม่ ก็ลองคิด ส่วนใดที่เป็น
ส่วนที่ล้น ก็คงเป็นส่วนที่ใช ้ไม่ได้ส่วนที่ร่างกายรับเอาไว้ได้ก็คงเป็นส่วนที่มีประโยชน์ ฉะนั้น จริยธรรม
แท้ๆ ไม่มีวันจะล้น โปรดนึกดูว่า จริยธรรม หรือ ธรรมะแท้ๆ นั้น มีอาการล้นได้ไหม ถ้าล้นไม่ได้ก็
หมายความว่า สิ่งที่ล้นนั้น มันก็ไม่ใช่จริยธรรม ไม่ใช่ธรรมะ ล้นออกไป เสียให้หมด ก็ดีเหมือนกัน หรือ ถ้า
จะพูดอย่างลึก เป็นธรรมะลึก ก็ว่า จิตแท้ๆ ไม่มีวันล้น อ้ายที่ล้นนั้น มันเป็นของปรุงแต่งจิต ไม่ใช่ตัวจิตแท้
มันล้นได้มากมาย แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังไม่รู้ว่า จิตแท้คืออะไร อะไรควรเป็น จิตแท้และอะไรเป็นสิ่ง ที่
ไม่ใช่จิตแท้คือ เป็นเพียง ความคิดปรุงแต่ง ซึ่งจะล้นไหลไปเรื่อย นี่แหละ รีบค้นหาให้พบ สิ่งที่เรียกว่า จิต
จริงๆ กันเสียสักที ก็ดูเหมือนจะดี
ในที่สุด ท่านจะพบตัวธรรมะอย่างสูง ที่ควรแก่นามที่จะเรียกว่า จิตแท้หรือ จิตเดิมแท้ซึ่งข้อนั้น ได้แก่
ภาวะแห่งความว่าง จิตที่ประกอบด้วย สภาวะแห่งความว่างจาก "ตัวกู-ของกู" นั้นแหละ คือ จิตแท้ถ้าว่างแล้ว
มันจะเอาอะไรล้น นี่เพราะเนื่องจากไม่รู้จักว่า อะไรเป็นอะไร จึงบ่นกันแต่เรื่องล้น การศึกษาก็ถูกบ่นว่า ล้น และ
ที่ร้ายกาจที่สุด ก็คือ ที่พูดว่า ศาสนานี้ เป็นส่วนที่ล้น จริยธรรมเป็นส่วนล้น คือส่วนที่เกิน คือ เกินต้องการ ไม่
ต้องเอามาใส่ใจ ไม่ต้องเอามาสนใจ เขาคิดว่า เขาไม่ต้อง เกี่ยวกับศาสนา หรือธรรมะเลย เขาก็เกิดมาได้พ่อ
แม่ก็มีเงินให้เขาใช ้ให้เขาเล่าเรียน เรียนเสร็จแล้ว ก็ทาราชการ เป็นใหญ่เป็นโต ได้โดยไม่ต้อง มีความ
เกี่ยวข้อง กับศาสนาเลย ฉะนั้น เขาเขี่ยศาสนา หรือ ธรรมะ ออกไปในฐานะ เป็นส่วนล้น คือ ไม่จาเป็น นี่แหละ
เขาจัดส่วนล้น ให้แก่ศาสนาอย่างนี้ คนชนิดนี้ จะต้องอยู่ ในลักษณะที่ ล้นเหมือน โปรเฟสเซอร์คนนั้น ที่
อาจารย์น่าอิน จะต้อง รินน้าชาใส่หน้า หรือ ว่ารินน้าชาให้ดู โดยทานองนี้ทั้งนั้น เขามีความเข้าใจผิดล้น ความ
เข้าใจถูกนั้นยังไม่เต็ม มันล้นออกมา ให้เห็น เป็นรูปของ มิจฉาทิฎฐิ เพราะเขาเห็นว่า เขามีอะไรๆ ของเขาเต็ม
เปี่ยมแล้ว ส่วนที่เป็นธรรมะ เป็นจริยธรรมนี่ เข้าไม่จุ อีกต่อไป ขอจงคิดดูให้ดีเถอะว่า นี้แหละ คือ มูลเหตุที่ทา
ให้จริยธรรม รวนเร และ พังทลาย ถ้าเรามีหน้าที่ ที่จะต้องผดุงส่วนนี้แล้ว จะต้องสนใจเรื่องนี้
คัดลอกจาก http://www.dharma-gateway.com/
ผู้คัดลอกและเรียบเรียง hs6kjg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น