++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เพิ่มบทบาท อสม.เป็นผู้นำทางสุขภาพ

“จุรินทร์” เพิ่มบทบาท อสม.เป็นผู้นำความคิดทางสุขภาพ พร้อมมอบงานพิเศษให้ อสม.ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชน ลด 5 โรค และรณรงค์ประชาชนกินเกลือผสมไอโอดีนแก้ปัญหาเด็กไอคิวต่ำ‏

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจัดทำแผนปฏิบัติงานนโยบายพิเศษที่ชัดเจนส่งให้ อสม. เพื่อให้ อสม.ช่วยทำงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น เนื่องจากขณะนี้คนไทยเป็น 5 โรคมากที่สุด ได้แก่ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็ง สาเหตุของโรคเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของประชาชน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตประชาชน 3 เรื่องได้แก่ 1.การบริโภคอาหาร ให้ลดกินหวาน ลดอาหารมันและเค็ม ซึ่งเป็นต้นเหตุการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ 2.การออกกำลังกาย ต้องรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที และ 3.งดอบายมุข คือ งดดื่มสุรา และงดสูบบุหรี่

นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้จะให้ อสม.ช่วยรณรงค์ให้ประชาชนในหมู่บ้านใช้เกลือที่มีไอโอดีนผสมในการปรุงอาหาร โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากขณะนี้พบคนไทยมีไอคิวลดลง ซึ่งไอคิวมาตรฐานอยู่ที่ 90-110 จุด แต่ปีที่ผ่านมาสำรวจพบคนไทยมีไอคิว 91 จุด สาเหตุเกิดจากการขาดสารไอโอดีน จึงต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากไอโอดีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์สมอง หากแม่ขาดสารไอโอดีน ลูกที่เกิดมามีโอกาสพิการ จำเป็นต้องเพิ่มไอโอดีนให้หญิงตั้งครรภ์ ขณะนี้ได้ให้องค์การเภสัชกรรมผลิตไอโอดีนสำเร็จรูปให้หญิงตั้งครรภ์แล้ว

นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับงานสุขภาพในตำบล มีนโยบายชัดเจนว่าในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในระดับตำบลหมู่บ้าน จะต้องดำเนินงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกับ อสม.ภายใต้ 4 กลไกหลัก ได้แก่ 1.การยกระดับสถานีอนามัย 1 หมื่นกว่าแห่ง ขึ้นเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อให้บริการประชาชนอย่างใกล้ชิดในหมู่บ้าน 2.ปรับบทบาท อสม.ให้เป็นผู้นำความคิดด้านสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น 3.การจัดทำแผนสุขภาพตำบลให้ครบ 7,000 กว่าตำบล ให้ รพ.สต.ร่วมกับ อสม.จัดทำให้เสร็จในเดือนกรกฎาคม หากยังไม่เสร็จสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต้องเร่งรัดทำให้เสร็จ และ 4.กองทุนสุขภาพตำบล ซึ่ง สป.สช.จะจัดสรรเงินให้เป็นรายหัวประชากรหัวละ 40 บาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสมทบอีกร้อยละ 20 ของเงินที่ สป.สช.จัดให้ ซึ่งเงินกองทุนนี้ใช้ทำงานแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ โดย อสม.จะร่วมกับนายก อบต. นายก อปท.ช่วยกันตั้งงบประมาณเป็นเงินประเดิมทุกปีอย่างต่อเนื่อง

นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับสวัสดิการห้องพิเศษ อสม.จะส่งหนังสือชี้แจงเรื่องการใช้สิทธิห้องพิเศษในโรงพยาบาลของ อสม. โดย อสม.หรือคู่สมรส หรือลูก หากป่วยใช้สิทธิห้องพิเศษจ่ายเพียงร้อยละ 50 หากเป็น อสม.ดีเด่น และคู่สมรสหรือลูกใช้สิทธิห้องพิเศษได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายเงิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น