เมื่อเวลาประมาณ 12.10 น.วันนี้ (4 พ.ย.) ภายหลังจากการประชุมด่วนของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 12/2553 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง รวมพลังร่วมใจช่วยน้ำท่วม-รวมพลังปกป้องแผ่นดิน มีเนื้อหาดังนี้
“ตามที่พี่น้องประชาชนหลายจังหวัดในประสบกับอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความสูญเสีย และความเสียหายให้กับพี่น้องร่วมชาติอย่างแสนสาหัส
ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ได้ร่วมมือกับกองทัพบก ในการระดมรับบริจาคอาหารและเครื่องใช้สอยอันจำเป็น และได้ส่งให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลจากอุทกภัยในช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เราขอกราบขอบพระคุณกำลังใจของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนร่วมชาติที่กำลังเผชิญความทุกข์ยากลำบากครั้งนี้
สถานการณ์ล่าสุด ปัญหาอุทกภัยได้ลามไปสู่ภาคใต้อย่างรุนแรงและกว้างขวางอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อีกทั้งพี่น้องประชาชนที่ภาคใต้ถือเป็นกลุ่มประชาชนที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน เราจึงจะดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวใต้สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้อย่างถึงที่สุด
เราขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทุกหมู่เหล่า ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ได้ร่วมกันบริจาคและระดมสิ่งของที่มีความจำเป็นต้องใช้ในยามประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติอย่างเต็มกำลัง และขอให้พี่น้องชาวใต้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยได้แจ้งความจำนงระบุประเภทสินค้าที่ต้องการ และสถานที่ซึ่งได้ต้องการความช่วยเหลือได้ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่างน้อยต้องมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกภาค ทุกจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
1.รัฐบาลต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการ ประชาชน และเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ธนาคารให้เลื่อนชำระหนี้ออกไปเป็นระยะเวลา 2 ปี
2.รัฐบาลต้องออกมาตรการให้ธนาคารของรัฐให้ผู้ประกอบการรายย่อยกู้เงินได้อย่างต่ำรายยละ 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องอัดเงินช่วยเหลือเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง
3.มาตรการการช่วยเหลือต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยมีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบด้วย
ส่วนกรณีการนัดหมายชุมนุมใหญ่วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2553 ณ บริเวณสะพานมัฆวานฯ นั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอยืนยันในเจตนารมณ์ที่ได้ประกาศไว้แล้วที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2543, และยับยั้งการลงมติรับรองร่างบันทึกข้อตกลงคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา(JBC) ซึ่งจะนำไปสู่การเสียดินแดนในอนาคต
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังเรียกร้องมายังรัฐบาลที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้ดำเนินการโดยขอมติจากประชาชนก่อนการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการลงประชามติของประชาชนทั้งประเทศ
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
4 พฤศจิกายน 2553”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น