++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การใส่ร้ายพันธมิตรเรื่องทำลายข้าวของและพบอาวุธมากมายก่ายกองที่ทำเนียบนั้ น

    การใส่ร้ายพันธมิตรเรื่องทำลายข้าวของและพบอาวุธมากมายก่ายกองที่ทำเนียบนั้ น ถ้าคนที่คิดโดยไม่มีอคติแล้วจะรู้ว่า ตรรกะมันไม่ให้เลยแม้แต่น้อย คือ 1.การคืนทำเนียบนั้น พันธมิตรเป็นคนส่งคืนให้ โดยที่ตำรวจไม่ได้บุกยึดกลับโดยฉับพลัน ดังนั้นพันธมิตรคงจะโง่ยิ่งกว่าควาย หากทิ้งอาวุธทั้งหลายแหล่เหล่านั้นให้ตำรวจมาเก็บเป็นหลักฐานมาฟ้องทีหลังเป ็นแน่ 2.ลูกกระสุนปืนสั้นที่เอาใส่ถุงพลาสติคมานั้นใหม่มาก เป็นเงาแว้บเลย น้ำมันเคลือบก็ยังอยู่อยู่เลยเหมือนกับฉีกออกจากกล่องออกมาใหม่ๆ แล้วเทใส่ถุงออกมาโชว์เลย ราคาลูกนึงก็ตั้งหลายบาท เป็นผม ผมจะเก็บไว้ใช้ดีกว่า เรื่องอะไรจะทิ้งให้ตำรวจ 3.เรื่องระเบิด ตำรวจใช้cutter กรีดกระดาษห่อออกมาแบบนั้นผิดหลักการการเก็บกู้ระเบิดเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเป็นระเบิดของคนอื่น จ้างก็ไม่กล้าเก็บกู้แบบที่ทำอยู่นั้น รับรองต้องใส่เสื้อเกราะป้องกันเต็มยศแน่ๆ นี่ต้องเป็นของตัวเองที่เตรียมมาแน่ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ระเบิด ถึงกล้ากรีดออกมาคล่องๆแบบนั้น 4.พวกแป๊บเหล็ก ท่อนเหล็ก ไม้กอล์ฟ ท่อพีวีซีดัดแปลง ฯลฯ ซึ่งมีมากมายนั้น จะมาเหมาว่าเป็นอาวุธ มันก็ทุเรศเกินไป สากกระเบือ ตำรวจก็ว่าเป็นอาวุธได้ถ้าเป็นของประชาชน แต่ปืนกล อาวุธสงคราม ถ้าเป็นของตำรวจนอกเครื่องแบบก็ว่าถูกกฏหมาย ก็ว่าไปเถิดท่าน 5.เรื่องน้ำกรด ที่พบ บอกว่าเอาไปทำระเบิดได้ มันจะบ้าไปแล้วหรือ คนที่เรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐานมา แค่ฟังก็รู้แล้วว่า มันใส่ร้ายกันหรือไม่ 6.เรื่องความเสียหายของตึก ทำไมสองตึกใหญ่ไม่มีความเสียหายแม้แต่น้อย แต่ตึกบัญชาการที่ตำรวจมาอยู่เป็นเดือนก่อนพันธมิตรบุก เสียหายนั้น ถ้าพันธมิตรอยากทำให้เสียหายจริง ทำไมไม่ทำให้เสียหายทุกแห่ง มันไม่มีตรรกะที่จะทำเช่นนี้ ทำไมสนามบินทั้งสองแห่งไม่มีความเสียหายแม้แต่น้อย ยกเว้นกระจกที่โดนระเบิด สรุปว่าต้องมีการแทรกซึมเข้าไปทำลายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี และจากตำรวจทำเพื่อสร้างหลักฐานเอาผิดพันธมิตร
ใส่ร้ายเป็นขบวนการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น