ห ากจะวิเคราะห์กันถึงขุมทรัพย์ของทักษินฯ เคยมีคนประมาณการกันไว้ว่า ทักษินฯ นั้นมีขุมทรัพย์อยู่ถึงประมาณ สามแสนล้าน ในขณะที่ขุมทรัพย์เจ็ดหมื่นกว่าล้านนั้นถูกอายัดไว้แล้วในประเทศไทย
ส่วนขุมทรัพย์ในอังกฤษก็ถูกอายัดไว้ถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นล้าน ซึ่งเงินในไทยนั้นเมื่อพิสูจน์ทราบความผิดก็จะถูกยึดเป็นของแผ่นดิน ส่วนที่เป็นของอังกฤษนั้นหากพิสูจน์ทราบว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระท ำความผิด ( นอกกฆมาย ) ก็จะถูกยึดโดยรัฐบาลอังกฤษ หากเป็นเงินที่มาจากการคอร์รัปชั่นก็จะถูกคืนกลับให้ประเทศไทย เงินสองก้อนนี้จึงไม่ถือว่าเป็นของทักษินฯ อีกต่อไป จึงมีคำถามว่าสมบัติก้อนที่เหลืออยู่ที่แห่งใด ซึ่งก็น่าเชื่อว่าจะมีส่วนหนึ่งอยู่ในสิงคโปร์ อาจถึงเจ็ดหมื่นล้าน ในส่วนนี้ก็คงต้องวัดใจของ คนของอดีตประธานาธิบดีลีกวนยู ที่จะยังคำนึงถึงความเป็นสหายที่ดีของ เสี่ยวหลง และความแค้นจากการที่ถูกหลอกให้ซื้อสินค้าเน่า จนทำให้เทมาเซกต้องขาดทุนนับแสนล้าน ว่าจะดำเนินการอย่างใดกับขุมทรัพย์ก้อนนี้ ขุมทรัพย์ที่เหลือก็น่าจะเป็นเงินที่ลงทุนอยู่ในเกาะกงและดูไบ ขุมทรัพย์ที่เหลือของทักษินฯ ก็น่าจะเหลือเพียงพอที่จะลงทุนเพื่อการเลือกตั้งได้อีกเพียงสมัยเดียว หากลงทุนในเที่ยวนี้แล้วรัฐบาลที่ได้มาถูกล้มไปอีก ขุมทรัพย์ของทักษินฯ ก็ต้องถือว่ามลายหมดสิ้น จึงเป็นเองที่ต้องวัดใจว่า ทักษินฯ จะตัดสินใจอย่างไร ว่าจะกล้าลงทุนในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ หรือเกรงว่าจะเป็นกับดักที่ล่อไว้ แล้วถอนตัวไปจากวงการเมืองโดยเด็ดขาด หลบไปใช้ชีวิตส่วนที่เหลือในต่างแดน
วันที่ : 6 ธันวาคม 51 6:24
|
| 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น