++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

แตะหัวใจ วินทร์ เลียววาริณ

แตะหัวใจ วินทร์ เลียววาริณ ปีใหม่ที่ผ่านมาผมได้รับของขวัญชิ้นหนึ่ง เป็นกระเช้าใส่ของกินต่างๆ รวมด้วยกันในตะกร้าหวาย กาแฟ ไวน์ น้ำผลไม้ ช็อคโกแล็ต เป็นต้น ของขวัญยอดนิยม นอกจากบัตรอวยพรถึงผมแล้ว ก็ยังมีบัตรอวยพรอีกใบหนึ่งซ่อนอยู่ในนั้น บัตรใบนี้เป็นของใครคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก บรรจุข้อความอวยพรแด่ผู้ที่ให้ของขวัญผม ที่แท้คนส่งของขวัญรับของขวัญจากคนอื่น แล้วนำมารีไซเคิลส่งต่อให้ผม แต่ด้วยความเผอเรอ ลืมแกะบัตรอวยพรของคนให้รายแรกทิ้งไป ส่งมาให้ด้วยกัน เหตุการณ์ ‘หลุด’ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในโลกที่อะไร ๆ ก็เป็นการรีไซเคิล ประเพณีการให้ของขวัญวันเทศกาลลามลึกจนกลายเป็นหน้าที่และค่านิยม ได้รับของขวัญจากใคร ก็ต้องซื้ออะไรตอบแทนเขา ของขวัญที่ได้รับส่วนมากก็เป็นแบบสำเร็จรูป ตะกร้าบรรจุขนมปังกรอบ ชา กาแฟ เหล้า น้ำผลไม้ ช็อคโกแล็ต ฯลฯ ได้มาแล้วก็ไม่ได้ใช้ จะทิ้งก็เสียดาย สู้ส่งต่อให้คนอื่นดีกว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายหรือ ‘ภาษีเทศกาล’ ด้วย ในที่สุดก็กลายเป็นวงจรประหลาดที่เราต้องทำในแต่ละปี ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว การรีไซเคิลของขวัญ (regifting) ก็เป็นเรื่องเลี่ยงไม่พ้น ของขวัญบางชิ้นถูกรีไซเคิลหลายครั้งหลายปี จะว่าไปแล้ว คนที่ได้รับของขวัญอย่างแท้จริงคือ เจ้าของสินค้าทั้งหลาย นอกจากของขวัญแล้ว แต่ละปีหลายคนมักได้รับบัตรอวยพร ส.ค.ส. จากบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ส.ค.ส. จำนวนไม่น้อยเป็นคำอวยพรสำเร็จรูป ประทับตรายางชื่อและลายเซ็นผู้อวยพร เห็นชัดว่าเป็นการส่งความสุขตามพิธีกรรม ทำให้บัตรอวยพรใบนั้นเป็นเพียงเศษกระดาษเทศกาลใบหนึ่ง ผู้ได้รับส่วนใหญ่มักโยนมันทิ้งไป เพราะไม่สามารถรีไซเคิลมันได้ ตอนผมเป็นเด็กชั้นประถม ช่วงปีใหม่บางปีนักเรียนมีกิจกรรมแลกของขวัญกัน มูลค่าของขวัญก็ประมาณ 1-2 บาท เป็นข้าวของชิ้นเล็ก ๆ เช่น ดินสอสี ปากกา กบเหลาดินสอ สบู่ ก็สนุกสนานและประทับใจ แปลกที่ตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ได้รับของขวัญมูลค่าสูงแล้ว กลับไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือตื้นตันใจ ความแตกต่างอาจอยู่ที่ magic touch หรือการแตะหัวใจ การแตะหัวใจไม่จำเป็นต้องกระทำด้วยของขวัญราคาแพง มันอาจเป็นข้อความวลีเดียวที่บอกว่า “รักและคิดถึง” หรือ “ดูแลตัวเองนะ” สมัยเด็กผมเคยได้รับ ส.ค.ส. ที่วาดเองจากเพื่อน ผมเองก็วาด ส.ค.ส. ให้เพื่อนเช่นกัน เป็นการส่งความสุขที่แตะหัวใจนานแสนนาน ผมเก็บไปรษณียบัตรที่เพื่อนและนักอ่านส่งมาให้เสมอ เพราะชอบที่มันเขียนจากใจ แค่มีใจลงมือเขียน ก็ถือว่าแตะหัวใจแล้ว ผ่านวัยเด็ก ข้ามวัยรุ่น จนถึงวัยหนุ่ม ผมไม่เคยได้รับเค้กวันเกิดเลยสักชิ้นเดียว ในปีหนึ่งผมบังเอิญบอกแม่ว่า “วันนี้เป็นวันเกิดผม” แม่ก็เข้าครัวต้มไข่หนึ่งใบให้เป็น ‘เค้กวันเกิด’ มันแตะหัวใจผมมานานจนบัดนี้ เราไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญเฉพาะในช่วงเทศกาล บัตรอวยพรก็ไม่จำเป็นต้องส่งในช่วงเวลาที่สังคมบอกว่าเป็นเวลาเฉลิมฉลอง ทุกวันสามารถเป็น ‘เทศกาล’ ได้ คำพูดดี ๆ สักวลี การเขียนข้อความถามทุกข์เกิดขึ้นได้เสมอ การแตะหัวใจไม่มีกำหนดเวลา ไม่ต้องมีพิธีกรรม ไม่ต้องมีกติกา รักใครก็บอกเขาว่ารัก คิดถึงใครก็บอกเขาว่าคิดถึง ความสุขไม่มีสูตรสำเร็จหรือกติกาที่สังคมกำหนด ไม่จำเป็นต้องกระทำด้วยข้าวของราคาแพง ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ เพราะเวลาพิเศษคือ เวลาที่หัวใจแตะกัน เมื่อนั้นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นของมีค่าตราตรึงหัวใจ วินทร์ เลียววาริณ, 19 มกราคม 2556 ข่าวหน้าหนึ่ง-www.winbookclub.com
โดย: โลกทรรศนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น