++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม

ประวัติ หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม ( ฉายาปัจจุบัน ) ท่านเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด แต่บรรพบุรุษตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดนครปฐม โยมพ่อชื่อนายชมภู โยมแม่ชื่อนางอัมพร นามสกุล ทองประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๙ แต่ได้ไปแจ้งเกิดช้า ดังนั้นในใบสุทธิพระจึงระบุว่าเกิดวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒

การศึกษาเล่าเรียนทางโลก ไม่จบชั้นประถมปีที่ ๔ ส่วนการศึกษาเล่าเรียนทางธรรมนั้นจบนักธรรมเอก

ท่านเริ่มบวชเรียนครั้งแรกเมื่ออายุ ๒๐ ปี โดยบวชที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯโดยมี

- พระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชได้เพียงพรรษาเดียวก็สึกออกไปเป็นทหาร ๒ ปี

หลังเสร็จภารกิจทางทหาร ก็กลับมาบวชใหม่ที่วัดเดิม คือวัดคลองเตยใน เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๖ โดยมี

- พระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์ เช่นเดิม และ พระครูวรกิจวิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดภาษี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรสมพงษ์ วัดคลองเตยใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " ธมฺมธีโร " แปลว่า " ปราชญ์ทางธรรม "

ช่วงที่อยู่วัดคลองเตยใน มีผู้คนมากมายมาฟังท่านแสดงธรรม จนมีครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสแสดงธรรมที่วัดท่าซุง จ . อุทัยธานี การแสดงธรรมครั้งนั้นจับใจผู้ฟัง ซึ่งไม่คิดว่าพระหนุ่ม พรรษาไม่มาก จะแสดงธรรมได้ดีถึงเพียงนี้ น่าจะเป็นพระอาวุโสมากกว่า จึงเรียกท่านว่า " หลวงปู่ " แล้วก็เรียกกันต่อๆ มา

มีคนเคยมาถามหลวงปู่ว่า “ ทำไมหลวงปู่จึงยังดูหนุ่ม แต่คนเรียกหลวงปู่ ) ท่านมักตอบตามภาษิตโบราณว่า “ คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน คนจะแก่แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวยรวยศีลทานใช่บ้านโต ”
ท่านอยู่วัดคลองเตยในได้ประมาณ ๖ ปี ก็มาสร้างวัดอ้อน้อย ที่ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ในปี ๒๕๓๒ โดย อุบาสิกาทองห่อ วิสุทธิผล เป็นผู้บริจาคที่ดินผืนนี้ให้ สร้างวัดเสร็จเป็นรูปเป็นร่างภายใน ๓ ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ยกฐานะขึ้นเป็นวัด ชื่อว่า " วัดอ้อน้อย " ( เดิมได้ทำเรื่องขอใช้ชื่อวัดว่า " วัดธรรมอิสระ " แต่ก็มีเหตุขัดข้องบางประการ ) เมื่อสร้างวัดเรียบร้อยท่านก็ให้พระลูกศิษย์ดูแลวัด ส่วนท่านก็ออกธุดงค์เพื่อฝึกฝนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า ๕ ปี

หลวงปู่พุทธะอิสระกลับมาปกครองดูแลวัดอ้อน้อยอีกครั้ง เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๘ ท่านได้ทำนุบำรุงวัดจนเจริญเรื่อยมา และเมื่อพระอุโบสถสร้างเสร็จเรียบร้อย จึงได้จัดพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตของพระอุโบสถ

ต่อมาในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง แทนเจ้าคณะตำบลคนเก่าที่มรณภาพไป ( ซึ่งในใบแต่งตั้งเจ้าคณะตำบลนี้ได้ลงอายุและพรรษาของพระอธิการสุวิทย์มากกว่าความเป็นจริงประมาณ ๔ - ๕ ปี ทั้งๆ ที่ท่านเองไม่ทราบมาก่อน เพราะไม่ได้ดูรายละเอียดจึงถูกใบปลิวโจมตีว่าโกงพรรษา )


ปลายเดือนธันวาคม ๒๕๔๓ ท่านยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งกับเจ้าคณะจังหวัดแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ

ต่อมาวันที่ ๑๓ ก . ย . ๒๕๔๔ มีใบปลิวเถื่อนโจมตีว่าโกงพรรษา ท่านจึงประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งต่อหน้าพระสังฆาธิการในจังหวัดนครปฐมที่มาประชุมกันที่วัดวังตะกู จ . นครปฐม และยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการกับเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ในวันที่ ๑๖ ก . ย . ๒๕๔๔ และได้รับการอนุมัติในวันที่ ๑๘ ก . ย . ๒๕๔๔

ขณะนี้หลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่มีตำแหน่งใดๆ ในคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม




ความเป็นมา ของวัดอ้อน้อย ( ธรรมอิสระ )

วัดอ้อน้อย ( ธรรมอิสระ ) เป็นวัดในโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 72 พรรษา ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 125/1 หมู่ที่ 17 ถนนมาลัยแมน ( กม . 17) ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

เดิมเป็นสำนักสงฆ์ธรรมอิสระ เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2532 และสำนักสงฆ์ธรรมอิสระได้รับพระราชทานวิสุงคามวาสีมายกฐานะขึ้นเป็นวัดอ้อน้อย ( ธรรมอิสระ ) ในปีพ . ศ .2535 โดยคุณ โยมทองห่อ วิสุทธิผล ผู้มีจิตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ได้บริจาคเงินซื้อที่ดินเริ่มแรก จำนวน 9 ไร่ พร้อมกันนี้ก็ยังได้บริจาคเงินกองทุนในเบื้องต้น สำหรับการก่อสร้างวัด พร้อมได้จัดการขออนุญาตสร้างวัด ต่อกรมศาสนาให้อีกด้วย

การพัฒนาวัด

ที่ดินเดิมเป็นที่ลุ่มมีน้ำท่วมขังสูงท่วมศีรษะ และ มีที่ดินดอนอยู่เพียง 1 ไร่เศษ ซึ่งได้เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อต้นปี 2533 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระได้เป็นผู้นำ พัฒนาบุกเบิกสร้างวัดขึ้น โดยวางรูปแบบตามตำราโบราณ และ ตามหลักพิชัยณรงค์สงคราม การพัฒนาและจัดสร้างทุกขั้นตอนได้ใช้แรงงานของพระภิกษุและสามเณรภายในวัดเป็นส่วนใหญ่ ในระยะเริ่มแรกมีพระภิกษุสองรูปและสามเณรสามรูป ทั้งได้ช่วยกันปลูกสร้างกุฏิ ปลูกต้นไม้

ปัจจุบันเนื้อที่ของวัดได้ขยายเพิ่มขึ้นรวมจำนวนแปดสิบไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้บรรดาสาธุชน ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา จัดซื้อที่ดินบริจาค จนถึงปัจจุบันรวมการใช้จ่ายปัจจัย ในการพัฒนาวัดเป็นเงินประมาณ แปดสิบล้านบาทเศษ ทั้งนี้ทางวัดมิได้จัดให้มีการเรี่ยไร หรือตั้งตู้รับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น รวมเวลาการพัฒนา ทั้งหมดประมาณเก้าปี

สถานที่สำคัญ

สถานที่สำคัญภายในวัดประกอบด้วย อุโบสถ รูปทรงจตุรมุขงดงามมีคูน้ำล้อมรอบ , ศาลาเอนกประสงค์ ใช้เป็นที่ทำกิจกรรมในพระศาสนา , หอพระกรรมฐาน ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ , " ต้นศรีมหาโพธิ์ " ซึ่งได้ปลูกขึ้นที่หน้าหอพระกรรมฐานโดยหลวงปู่พุทธอิสระได้บรรจุอัฐิฐาตุของหลวงปู่ทวดไว้ที่โคนต้น , กุฏิสงฆ์ , พร้อมกับมีการปลูกต้นร่มรื่นงดงาม และจัดแบ่งเนื้อที่ให้มี " สวนเกษตรเพื่อชีวิต " คือนาข้าว แปลงผักสวนครัว สวนไม้ผลเพื่อใช้ในโรงทานและบริจาคผู้ยากไร้เอาไว้ด้วย

ปฏิปทาของพระสงฆ์ในอาราม

สำหรับความเป็นอยู่ของพระภิกษุและสามเณรภายในวัด ใช้หลักการปกครองโดยสามัคคีธรรม มีกิจน้อยใหญ่จะขอฉันทานุมัติ และร่วมกันจัดกิจกรรมนั้นๆ โดยพร้อมเพรียงกัน คณะสงฆ์ได้กำหนดข้อปฏิบัติเรื่องความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ในอารามนี้ว่า พระสงฆ์สามารถจะมีปัจจัยติดตัวได้ไม่เกิน 100 บาท เมื่อมีเอกลาภเกิดขึ้นทุกสิ่งจะสละให้เป็น กอง กลาง พระภิกษุและสามเณรจะมีของใช้ได้ไม่เกินหนึ่งชิ้นถ้ามีเกินกว่านี้ให้สละให้กับกองคลัง เมื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้ของสิ่งนั้นจะขอเบิกใช้ได้จากกองคลัง

จารึกเหตุการณ์สำคัญ

สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญานสังวร สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในพิธีพุทธาภิเษกในงานผูกพัทธสีมาปิดทองลูกนิมิตร วัดอ้อน้อย ( ธรรมะอิสระ ) อ . กำแพงแสน จ . นครปฐม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2542 เวลา 17.00 น . โดยก่อนหน้านี้ ได้ทรงเสด็จเยี่ยมชมวัดอ้อน้อย เป็นการส่วนพระองค์ถึง 2 ครั้ง และ ได้รับสั่งว่าวัดอุโบสถของวัดเป็นอุโบสถที่มีความงดงามไม่มีใครเหมือน







โครงการถวายพระบรมฉายาลักษณ์

โครงการถวายพระบรมฉายาลักษณ์ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะทรงผนวชให้แก่วัดทั่วประเทศ และร่วมบริจาคเงินเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี และจะทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา มูลนิธิธรรมอิสระ วัดอ้อน้อย ขอเชิญประชาชนไทยร่วมใจกันเป็นเจ้าภาพในการถวายภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงผนวชให้แก่วัดทั่วประเทศ และร่วมกันทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี และจะทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา

วัตถุประสงค์

• เพื่อเป็นการเทิดพระเกีบรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม และทรงเป็นเอกอัครศาสนูปภัมภก ทรงอุปถัมภ์บำรุงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงมีพระราชศรัทธาทรงผนวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการแสดงถึงพระราชศรัทธาที่ทรงมีต่อพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวด

• เพื่อร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระพุทธศาสนา และแผ่นดินไทย ตามรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยให้วัดทุกแห่งได้มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทรางผนวชประดิษฐานให้ประชาชนไทยได้เคารพสักการะ ทดแทนพระบรมฉายาลักษณ์ในขณะที่ทรงฉลองพระองค์ปกติเป็นฆราวาส ซึ่งถ้าหากว่าพระภิกษุ สามเณรกราบไหว้ก็จะเป็นการผิดพระธรรมวินัยของสงฆ์

• เพื่อร่วมกันทูลเกล้าฯ ถวายเงินบริจาคจากการถวายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ โดยเสด็จพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี และจงทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น