คำว่า"อนิจจัง" คือความแปรปรวนนั้น มีอยู่รอบตัวทั่งสรรพางค์ร่างกาย ไตร่ตรองไปตามสภาวะซึ่งมีอยู่ในตัวอย่างสมบูรณ์ให้เห็นชัด แม้ "ทุกข์" ความบีบคั้นก็มีอยู่ทั้งกลางวันก ลางคืน ไม่เพียงแต่ทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจที่เกิดขึ้น เพราะอารมณ์ต่างๆ ก็มีอยู่เช่นเดียวกัน จงกำหนดให้เห็นชัด คำว่า "อนัตตา" ก็ปฏิเสธความเป็นสัตว์เป็นสังขาร เป็นเรา เป็นเขาอยู่ทุกขณะ เมื่อพิจารณาจนมีความชำนาญ กายก็จะรู้สึกว่าเบา ใจก็มีความอัศจรรย์และสว่างกระจ่างแจ้งไปโดยลำดับ
เมื่อสติกับปัญญากำกับความเพียร จิตจะได้รับความสงบสุขไม่เนิ่นนาน เมื่อใจสงบลงได้แล้ว จงเร่งความเพียรในบทธรรมของตน ตามแต่ถนัดด้วยสติ จนเป็นความสงบได้ทุกโอกาศที่ต้องการ เมื่อจิตถอนขึ้นมา จงเริ่มพิจารณาในทางปัญญา โดยถืออาการของกายเป็นที่ท่องเที่ยวของปัญญา ในอาการของกาย เราจะพิจารณาไปหมดหรือเฉพาะแล้วแต่จริตของเรา ไตร่ตรองดูส่วนแห่งกายลงในไตรลักษณ์ใด มากน้อยแล้วแต่ความถนัด แต่ให้เห็นชัดด้วยปัญญาเป็นใช่ได้
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น