เวลาดั่งสายน้ำ โอกาสดั่งสายลม
เวลาไม่เคยหวนกลับ เปรียบได้ดั่งสายน้ำที่ไหลไป
ไม่มีวันที่จะหวนกลับมา
คนเราเมื่อยังมีเวลา ควรใช้เวลาให้คุ้มค่า
ไม่ปล่อยผ่านไปวันๆ โดยไม่ได้ทำอะไร
เช่นเดี่ยวกับโอกาส ที่ผ่านมาดั่งสายลม นานครั้งจะหวนกลับคืนมา
เราไม่เคยรู้ว่าเมื่อไร มันจะกลับมาอีกครั้ง
หากมีลมหายใจ ก็ยังมีเวลา
หากมีวาสนา ก็ต้องมีโอกาส
การใช้ชีวิตทุกนาทีให้คุ้มกับเวลา ใช้ทุกโอกาสที่มาถึง
เป็นการเพิ่มคุณค่าและกำไรให้กับตัวเอง
ทุกลมหายใจมีความหมาย อย่าใช้ไปกับสิ่งที่ไม่คู่ควร
เมย์
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
ถ้าเปรียบชีวิตกับเงินทุน คงทำให้เรามองเห็นภาพความจริงได้ชัดเจนขึ้น
สมมุติว่าเรามีเงินก้อนใหญ่อยู่ในมือ และเงินนั้นคือต้นทุนทางธุรกิจ
แต่เพราะความเสียดายเพราะความกลัว ว่าถ้าเอาเงินนั้นไปต่อยอด แล้วมีอะไรผิดพลาด
เงินก้อนนั้นก็จะไม่อยู่กับเราอีก แล้วก็เฝ้าเก็บกอดเงินก้อนนั้นไว้โดยไม่แตะต้อง
ในความรู้สึกเราอาจจะคิดว่าการเก็บเงินไว้เฉยๆ น่าจะปลอดภัยกว่า...
ทั้งๆ มีความจริงที่เราไม่อาจคาดคิดก็คือ
วันเวลาผ่านไปนับวันค่าของมันยิ่งลดน้อยลงไป
แต่ถ้าเอาไปต่อยอดด้วยวิธีที่ชาญฉลาด เงินนั้นก็จะพอกพูนเพิ่มขึ้น
คนทุกคนเกิดมาบนโลกนี้ ล้วนมีต้นทุนพกมาเท่ากัน เพียงแต่มันไม่ใช่ตัวเงิน
ต้นทุนนั้นก็คือการได้เกิด ได้เติบโต ได้มีชีวิต
และมีลมหายใจไปตามทิศทางของตนเอง
การเก็บชีวิตไว้ในที่ที่ปลอดภัย
และเดินไปในทิศทางที่ถูกกำหนดไว้ด้วยความรัก
แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้เรามีชีวิตที่สวยงาม
แต่โลกนี้ไม่ได้สวยงามไปหมดอย่างที่คิด
การที่ชีวิตจะแข็งแรงและอยู่ได้นั้นมีอยู่ทางเดียว
นั่นคือการใช้มันอย่างเหมาะสมตามวันเวลา
ให้ตัวเองได้ออกไปผจญภัยบ้าง เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้ชีวิต
ต่อไปในวันข้างหน้าเราจะได้มีเรื่องราวดีๆ เก็บไว้ต่อทุนให้ตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น