มทร.ธัญบุรี เสริฟ์อาหารเช้า “ปลานิลนึ่งน้ำมะกรูด”…เมนูจากปลาพันธุ์พระราชทาน
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ผ่านมา พวกเราชาวไทยต่างก็รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทยเสมอมา ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลเล็งเห็นความ
สำคัญของความยั่งยืนทางด้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยได้มีอาหารโปรตีนทั้งบริโภคทั้งช่วยยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว
ปลานิล...พันธุ์ปลาที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอากิฮิโตแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวมาทูลฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ทรงโปรดเกล้าให้ปล่อยเลี้ยงในบ่อบริเวณตำหนักสวนจิตรดา
พระราชวังสวนดุสิต เมื่อครบ 1 ปี จึงทรงโปรดเกล้าพระราชทานลูกปลานิลให้กรมชลประทานเลี้ยงขยายพันธุ์และแจกจ่ายเกษตรกร พร้อมกับปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นแหล่งอาหารให้ชาวบ้าน จนกระทั่งทุกวันนี้ประชาชน
ชาวไทยได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง
ดังนั้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นการส่งเสริมการบริโภคปลานิลที่ เป็นอาหารโปรตีนชั้นดี และเพิ่มความหลากหลายในการนำปลานิลไปรับประทานอย่างกว้างขวาง ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำ
สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงได้คิดเมนูปลานิลที่สามารถเปลี่ยนจากเนื้อปลาธรรมดา มาเป็นเมนูที่สุดพิเศษเทียบเท่ากับเมนูปลาราคาแพงเลยทีเดียว
อ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า เมนู ที่คิดขึ้น มีอยู่ 2 เมนู คือ "เมนูปลานิลนึ่งมะกรูด" และ "เมนูข้าวกล้องปั้นไส้ปลานิลปรุงรสสมุนไพร" โดยทั้งสองเมนูมีวิธีการทำที่ไม่ได้ยุ่งยาก สามารถทำรับประทานกันเองได้ในครอบครัวซึ่งนอกจาก
จะอร่อยแล้วยังได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน
ทั้งนี้หลายๆคนอาจคิดว่าเนื้อปลานิลมีกลิ่นคาว หากแต่จริงๆแล้วปลาทุกชนิดล้วนก็มีกลิ่นคาวทั้งนั้นเพียงแต่ในการนำไปประกอบอาหาร จะต้องมีวิธีการและเคล็ดลับเพื่อดับกลิ่นคาว ซึ่ง ในสองเมนูที่นำเสนอในวันนี้ได้ใช้ มะกรูด
ซึ่งเป็นผักและเครื่องปรุงที่เป็นสมุนไพรของไทยมาใช้ดับกลิ่นคาวได้อย่างดี
สำหรับ ปลานิลนึ่งน้ำมะกรูด นั้นส่วนผสมประกอบด้วย ปลานิลแล่เอาแต่เนื้อ 300 กรัม,หน่อข่าอ่อน 10 หน่อ,น้ำมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ,เกลือป่น ½ ช้อนชา วิธีทำ เริ่มจาก ปลอกหน่อข่าอ่อนใช้มีดซอยที่หัวข่าบางๆ จากนั้นแล่ปลา
นิลเอาแต่เนื้อให้เป็นชิ้นยาวบางๆ แล้วนำไปพันที่ข่าอ่อน เสร็จแล้วผสมน้ำมะกรูดกับเกลือให้เข้ากัน ราดลงไปที่เนื้อปลาที่พันข่าอ่อนแล้วจึงนำไปนึ่ง 10 นาที ก็พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้ม รับประทานกับผักนึ่งเช่นถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี
ฟักทองบวบ
ส่วนน้ำจิ้ม ส่วนผสมมี พริกชี้ฟ้าแดงสับ 1 ช้อนชา,ต้นผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ,น้ำต้มสุข 2 ช้อนโต๊ะ,น้ำมะกรูด 3 ช้อนโต๊ะ,น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ,เกลือ 1 ช้อนชา วิธีทำ นำน้ำตาลทราย เกลือ น้ำทะกรูด มาผสมคนให้เข้ากันใส่
พริกชี้ฟ้าแดง ต้นผักชี น้ำต้มสุขเล็กน้อยชิมให้ได้สามรสเปรียวเค็มหวาน จากนั้นก็นำไปราดกับ เนื้อปลาพันข่าอ่อนที่นึ่งเสร็จแล้วเสร็จรับประทานได้เลย
ข้าวกล้องปั้นไส้ปลานิลปรุงรสสมุนไพร ส่วนผสมประกอบด้วย ข้าวกล้องหุงสุก 2 ถ้วย,เนื้อปลานิลนึ่งเอาแต่เนื้อ ½ ถ้วย,หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ,ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ,ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ,พริกชี้ฟ้าซอย 1 เม็ด,ใบ
มะกรูดซอย 2 ใบ,ผักชีเด็ดใบ 1 ต้น,น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ,น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ,น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ,น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม น้ำปลา ตั้งไฟพอเดือดยกลงใส่น้ำมะนาว จากนั้น ผสมเนื้อปลานิล หอมแดง ตะไคร้ ขิง พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด และน้ำปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากันโรยใบผักชี แล้วตักข้าวใส่พิมพ์ให้ทั่ว ตักไส้เกลี่ย
ให้ทั่วบนข้าว ตักข้างทับอีกครั้งกดพอแน่น รับประทานกับผักสด ถั่วฝักยาว ยอกกระถิน แตงกวา
อ.พงษ์ศักดิ์ ยังได้บอกเคล็ดลับในการเตรียมปลาไม่ให้มีกลิ่นคาวว่า ควรนำปลาไปทาเกลือก่อน จากนั้นเช็ดให้แห้ง ส่วนมีดก็ต้องเป็นมีดที่คม และตอนแล่เนื้อปลาก็ต้องคอยเช็ดมีดตลอดจะทำให้ได้เนื้อปลาที่ออกมาสวยงามและ
ไม่มีกลิ่นคาว น่ารับประทาน "สำหรับปลานิล ปลาที่สามารถนำมาเป็นทั้งอาหาร และประโยชน์อีกนานับปการแก่ประชาชน ล้วนเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราปวงชนชาวไทยของเรานั่น
เอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น