++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มานพหนุ่มช่างทอง

กาลต่อมาพระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นบุตรของช่างทอง และเป็นมานพหนุ่มช่างทองมีรูปสิริ เลิศงดงาม ในเมื่องแห่งนั้น มีฝีมือในการทำทองนั้นยอดเยียม ชื่อเสียงในการทำทองขจรไปไกล เพราะความมีฝีมือนี้เอง ได้มีเศรษฐีของเมื่องมาทำการว่าจ้างให้ทำทองรูปพรรณ ให้บุตรสาวที่จะเข้างานวิวาห์มงคล เมื่อเห็นรูปร่างของหนุ่มช่างทองก็เกิดรังเล แต่ไม่สามารถหาช่างทองที่ฝีมือดีกว่านี้ได้อีกเลย จึงกล่าวกับหนุ่มช่างทองว่า ถ้าท่านเห็นมือ และเท้าของบุตรสาวของเราอย่างเดียวท่านสามารถทำทอง ได้สวยสดงดงามหรือไม่? หนุ่มช่างทองก็บอกว่าทำได้ เหตุผลของท่านเศรษฐีทำแบบนี้ เพราะบุตรสาวเป็นหญิงที่สวดสดงดงาม เมื่อเห็นหน้าตากันจะทำให้ทั้งสองเกิดหวั่นไหว มีปัญหาในการแต่งงานของลูกสาวกับบุตรชายของเพื่อนเศรษฐี ที่หมั่นหมายไว้แล้วเป็นการตัดไฟเสียต้นลม

เมื่อถึงวันที่หนุ่มช่างทอง ทำการตรวจวัดมือและเท้าของบุตรสาวเศรษฐี ที่บ้านของเศรษฐี ท่านเศรษฐีได้ทำฉากกั่น ให้บุตรสาวยื้นเฉพาะมือและเท้าออกมาเท่านั้น แต่บุตรสาวเกิดความสงสัยว่าทำไม่บิดาจึงทำอย่างนี้ ในขณะที่หนุ่มช่างทองกำลังตรวจวัดอยู่ บุตรสาวเศรษฐี ก็แอบดูตามช่องที่มองเห็นได้ เมื่อเห็นรูปร่างหนุ่มช่างทองเกิดหลงรักทันที จึงทำการเขียนอักษร นัดแนะหนุ่มช่างทองทันที่ ว่าในค่ำคืนนี้นัดเจอกันที่ส่วนหลังบ้านที่เป็นต้นไม้ใหญ่ ฝ่ายหนุ่มช่างทองเมื่อเสร็จภารกิจ ก็กลับไปยังเรือนของตน ทำงานทำทองตลอด

เมื่อตกค่ำก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปตามนัด ที่ กาญจนวดีกุมารีบุตรสาวเศรษฐีได้เขียนอกษรไว้ แต่มานพหนุ่มช่างทองมาถึงต้นไม้ใหญ่ก่อน นั่งรออยู่ เพราะทำงานมาทั้งวัน เมื่อเจอบรรยากาศร่มรื่นจึงเผลอหลับไป เมื่อนางกาญจนวดีกุมารีมาถึงก็เห็นหนุ่มช่างทองหลับไปแล้ว ซึ่งในสมัยนั้นมีการถือกันว่า ถ้าผู้ใดนอนหลับอยู่ห้ามปลุกขึ้นมา เพราะจะเป็นบาป นางจึงนั่งรอเป็นเวลาพักใหญ่ เห็นว่าไม่ตื่น จึงว่าขันใส่ดอกไม้ไว้ แล้วเขียนอักษรไว้ว่า นางได้มาแล้วแต่ท่านหลับอยู่ จึงว่างขันดอกไม้ไว้ให้ทราบ และในราตรีต่อไปขอนัดเจอที่เดิม แล้วจากไป เมื่อหนุ่มช่างทองตืนขึ้นมาเห็นขันดอกไม้ จึงรู้ว่านางได้มาแล้วและได้อ่านข้อความที่นางเขียนไว้

ตกค่ำวันต่อมาหนุ่มช่างทองก็ออกไปตามนัดเหมือนเดิม ก็ไปถึงต้นไม้ใหญ่ก่อนอีก ด้วยความอ่อนแรงจากการงานจึงเผลอหลับไปอีก นางกาญจนวดีกุมารีเมื่อมาถึงก็เห็นหลับเหมือนเดิม จึงเขียนอักษรนัดแนะเหมือนเดิม หนุ่มช่างทองเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบอักษรที่นัดแนะ ก็ให้นึกโกรธตนเองที่เผลอหลับมาสองวันแล้ว
พอตกค่ำวันที่ 3 ครั้งนี้หนุ่มช่างทองพยายามเตือนตนเองอย่างเต็มที่ไม่ให้เผลอหลับ แต่ต้านไว้ไม่อยู่เลยเผลอหลับไปอีก เมื่อกาญจนวดีกุมารี มาเห็น ก็คิดว่า บุญไม่ต้องกันที่จะได้อยู่ร่วมกัน เพราะตนจะเข้างานวิวาห็ นางจึงวางขันดอกไม้ไว้อย่างเดียว ให้รู้ว่านางได้มาตามนัดแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอักษนัดแนะประการใด เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมา ก็โกรธตนเองที่เผลอหลับ จึงกลับบ้านด้วยความผิดหวังที่จะดูหน้าและรูปร่างเพียงสักครั้ง

แล้วนางกาญจนวดีกุมารี ก็เข้าวิวาห์กับบุตรชายเศษรฐี ตามกำหนดการ ฝ่ายหนุ่มช่างทองก็คล่ำครวญถึงนางกาญจนวดี ว่าสมควรจะอยู่ร่วมภิรมณ์กับตนและควรเป็นของเรา เพราะหญิงก็มีใจกับตน จึงคิดหาอุบาย ได้ทำเครืองทองที่ดีเลิศขึ้นมาชุดหนึ่ง แล้วนำไปถวาย มหาอุปราช มหาอุปราชทรงพอพระทัย จึงทรงถามหนุ่มช่างทองว่า มีประสงค์อันใดที่นำเครื่องทองอันดีเลิศมาถวาย หมุ่นช่างทองจึงบอกจุดประสงค์ มหาอุปราชจึงรับปากและจะออกอุบายช่วยเหลือ หลังจากนั้นก็ให้หนุ่มช่างทองแต่ตัวเป็นสตรี ปลอมเป็นน้องหญิงของมหาอุปราช แล้วทรงกระบวนช้างผ่านไปยังบ้านเศรษฐีแล้วตรัสบอกกับท่านเศษรฐีว่า จะเอาน้องหญิ่งมาฝาก ที่บ้านเศรษฐี เพราะออกไปปราบข้าศึกที่ชายแดน และห็นว่าท่านได้สร้างเรื่อนใหม่ ที่พอจะฝากน้องหญิงได้

แล้วมหาอุปราชถามอีกว่า "เรือนนั้นเป็นเรื่อนของใครของใครหรือ? "
เศรษฐีจึงตอบว่า "เป็นเรือนของบุตรสาวที่พึ่งแต่งงาน"

มหาอุปราชกล่าว "อย่างนั้นก็ดีสิ ! จะได้ให้น้องหญิงพักอยู่ที่นั้น และจะได้ให้บุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อนของน้องหญิง ให้นางงดการอยู่ร่วมกับสมามีชั่วคราว ห้ามผู้ชายแม้กระทั้งสามีของบุตรสาวท่านเข้าไปในส่วนของชั้นเรือนที่น้อง หญิงพักอยู่ โดยมีบุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพือน แล้วเราจะกลับมารับหนึ่งหญิงในภายหลัง"

เศรษฐีด้วยความเกรงในอำนาจของอุปราช และเห็นว่าท่านอุปราชทรงห่วงใยน้องหญิงคนนี้มาก จึงรับทำตามที่มหาอุปราชกับชับด้วยความเต็มใจ

หลังจากนั้นหนุ่มช่างทองได้อยูร่วมกับนางกาญจนวดี เป็นเวลา 3 เดือนโดยไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนมหาอุปราชมารับกลับไป

ด้วยผลกรรมที่พระโพธิสัตว์ ผิดลูกผิดเมียของผู้อื่นเมื่อสิ้นอายุขัยของตกนรกทันที่ เวียนเกิดตายระหว่างอบายภูมิ(ภพต่ำ)เป็นเวลานาน แล้วเกิดเป็นกระเทยและเป็นผู้หญิง เป็นพันชาติ รวมเวลา ถึง 14 มหากัป

เมื่อทำกรรมหนักเพียงชีวิตเดียว ก็ตกลงในภพภูมิที่ต่ำจะทำให้สร้างบุญกุศลนั้นยาก เพราะใจจะตกต่ำไปด้วย ย่อมกระทำกรรมเล็กๆ น้อยๆ ไปเรี่อยกว่าจะหลุดพ้นมาได้ก็ใช้เวลาหลายมหากัป นับประสาอะไรกับผู้ที่ไม่ปรารถนาสร้างบารมี(อย่างใดอย่างหนึ่งในพุทธศาสนา) จะวนเวียนอยู่โดยไม่รู้ทิศรู้ทางเป็นเวลานานนับแสนแสนอสงไขย จนประมาณไม่ได้


ต่อมาได้เกิดเป็นเจ้าหญิงสุมิตตาเทวี (หรือพระนางวิสุทธาเทวี ในหนังสือ พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นผู้หญิง ของ อ.บารมี) ชีวิตในชาตินี้ของพระโพธิสัตว์เป็นอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น