ตัวเราและประเทศชาติประกอบด้วยธาตุสี่ที่จำเป็นเช่นเดียวกัน นั่นคือ ดิน น้ำ ลมและไฟ หากอะไรขาดไปสักอย่างเราไม่มีทางอยู่รอดแน่ ถ้าแต่ละอย่างไม่อยู่ในสภาพที่ดี หรือไม่มีความสมดุล เราย่อมเดือดร้อน แผ่นดินรูปขวานทองเป็นของชาวไทยมาหลายร้อยปี แต่มีคนอื่นอยากได้เสมอ ปัจจัยที่ทำให้พวกเขาอยากได้คือ นอกจากเนื้อดินจะมีลักษณะดีแล้ว ยังมีธาตุอีกสามอย่างประกอบอยู่ครบถ้วนอีกด้วย
เนื้อดิน มีลักษณะทางชีวะและเคมีที่พืชต้องการ มีไส้เดือน มีแมลง มีแหล่งน้ำ มีอากาศอบอุ่นตลอดปีและมีแสงแดดจ้ายังผลให้เกิดป่าและอาหารสารพัดอย่าง ยิ่งกว่านั้น แผ่นดินรูปขวานผืนนี้ยังตั้งอยู่ตรงกลางของทางติดต่อค้าขายสำคัญของบรรดาชาว โลกอีกด้วย ในสมัยก่อน ประเทศอื่นยกกองทัพมาโจมตีชาวไทยเพื่อหวังจะยึดเอาไปดื้อๆ แต่ในสมัยนี้พวกเขาใช้วิธีแยบยลกว่านั้น ในขณะเดียวกันคนไทยมักให้ความร่วมมือ หรือไม่ก็ทำไปแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำแบบไหน มันล้วนเป็นไส้ศึกให้ผู้อื่นทั้งสิ้น
ในด้านการยึดครองพื้นที่ พวกเขาใช้วิธีซื้อ หรือไม่ก็เช่า หากทำตามกฎหมายไม่ได้ พวกเขาก็ใช้คนไทยบังหน้า คนไทยบางคนทำด้วยความสมัครใจเพราะได้อามิสสินจ้าง แต่บางคนก็ทำไปเพราะไม่รู้เท่าทัน นอกจากนั้น คนไทยมักใช้เนื้อดินแบบทำลายโดยเฉพาะการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบในทางลบต่อ สิ่งมีชีวิตจำพวกไส้เดือนและแมลงซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการขยายพันธุ์ของพืช ประเด็นนี้มักไม่ค่อยมีใครใส่ใจ ไม่เฉพาะในหมู่คนไทย หากในหมู่ชาวโลกโดยทั่วไปด้วย
ฉะนั้น นานๆ จึงจะมีงานวิเคราะห์บทบาทของธาตุดินลึกๆ พิมพ์ออกมาสักครั้ง ในช่วง 10 ปีมานี้มีหนังสือน่าอ่านอยู่ 2 เล่มคือ Fateful Harvest : The Story of a Small Town, a Global Industry, and Toxic Secret และ Dirt: The Erosion of Civilizations (ทั้ง 2 เล่มมีบทคัดย่อเป็นภาษาไทยอยู่ในหนังสือชื่อ “ธาตุ 4 พิโรธ” ซึ่งตอนนี้ไม่มีวางขาย หากผู้ใดจะนำไปพิมพ์แจก ผู้เขียนยินดีส่งต้นฉบับที่ปรับปรุงแล้วให้)
ด้านธาตุน้ำ ในช่วงนี้คงมีผู้เบื่อระอากับภาวะน้ำท่วมกันมากจนยากที่บอกว่าเราโชคดีและ ชาวต่างชาติอิจฉาที่เรามีน้ำจืดมาก เนื่องจากหลายส่วนของโลกขาดแคลนน้ำถึงกับทำสงครามแย่งน้ำกันแล้ว การขาดแคลนน้ำจะหนักหนาสาหัสยิ่งขึ้นเนื่องจากภาวะโลกร้อนและจำนวนประชากร โลกที่เพิ่มขึ้นและเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ชาวตะวันออกกลางหวังจะเข้ามาฮุบ ที่ดินไทย ส่วนทางเราโชคดีมีน้ำขายปีละหลายล้านล้านลิตรผ่านการขายข้าวและพืชอื่น
ทั้งนี้เพราะการผลิตข้าว 1 กิโลกรัมต้องใช้น้ำถึง 940-2,450 ลิตร และการผลิตพืชอื่นใช้น้ำลดหลั่นกันลงมา แต่เราไม่ค่อยตระหนักว่ากระบวนการผลิตต่างๆ ทั้งเพื่อใช้ในการยังชีวิตของเราและเพื่อขายให้ชาวต่างชาตินี้มีการทำลาย ธาตุน้ำอย่างต่อเนื่อง เรื่องสีของน้ำที่ดำปี้และมีกลิ่นเหม็นที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปนั้นเป็นส่วน หนึ่งของการทำลาย นอกจากน้ำจืดปริมาณมหาศาลที่ฝนนำมาให้ตามฤดูกาลแล้ว เรายังมีน้ำทะเลที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย แต่เราก็ใช้น้ำทะเลแบบทำลายไม่ต่างกับการใช้น้ำจืด ทั้งในด้านการทำลายคุณภาพของน้ำด้วยความสกปรกและการจับสัตว์น้ำเกินพอดีจน พวกมันไม่มีเหลือให้จับ
ด้านธาตุลม ทั่วโลกมีมากมายแต่ชาวต่างชาติก็อยาก ได้ของเราเนื่องจากของพวกเขาบางทีมีความหนาวแฝงอยู่จนทำให้คนตาย เมื่อชาวต่างชาติเข้ามาก็นำวัฒนธรรมของพวกเขาเข้ามาด้วย หลายๆ อย่างไม่เหมาะสมกับสภาพลมฟ้าอากาศของเรา แต่เรากลับทำตามเขา ไม่ว่าจะเป็นการเอาผ้าที่เรียกว่าเนกไทมารัดคอให้อึดอัด หรือการกอดรัดกันเต้นรำทั้งที่ร้อนจนเหงื่อท่วม นอกจากนั้น ยังมีการทำลายคุณภาพของอากาศอย่างแพร่หลายจนทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ประเด็นนี้มีอยู่ในหนังสือชื่อ “เมื่ออากาศเป็นฆาตกร”
ด้านธาตุไฟ เรามีพร้อมทั้งจากแสงแดด จากพืชพลังงานที่ปลูกได้ จากสายน้ำที่นำมาทำกระแสไฟฟ้า และจากน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ เฉกเช่นธาตุอื่น ธาตุนี้ก็มีต่างชาติอยากได้และคนไทยมักเป็นไส้ศึกให้พวกเขาโดยเฉพาะเกี่ยว กับพลังงานในอ่าวไทยการขายหุ้นและการทำกิจการของ ปตท.
การขาย การทำลาย และการเป็นไส้ศึกให้ต่างชาติเข้ามายึดธาตุทำให้ชาติล่มสลายมาหลายต่อหลาย ครั้งในอดีต ประเด็นเหล่านี้มีผู้ศึกษาและนำมาใส่พานไว้ให้เราอ่านกันอย่างสะดวกแล้ว เช่นเรื่อง “ป่ากับอารยธรรม” (A Forest Journey: The Story of Wood and Civilization) และเรื่อง “ล่มสลาย” (Collapse: How Societies Choose to Fail or Succeed) ซึ่งได้ถูกนำมาย่อเป็นภาษาไทยและพิมพ์ไว้ในหนังสือชื่อ “กะลาภิวัตน์”
จากมุมมองของธาตุสี่คงจะเป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดแล้วว่า ความเดือดร้อนของชาวไทยในขณะนี้มีที่มาจากธาตุสี่ไม่อยู่ในสภาพดี และไม่อยู่ในภาวะสมดุลซึ่งส่วนใหญ่เราทำให้เกิดขึ้นเอง ความเดือดร้อนจะวิวัฒน์ต่อไปอย่างไรในภายภาคหน้าขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำอะไร กับธาตุสี่ที่ชาติไทยมีอยู่อย่างครบถ้วน หากเราสูญอะไรไปเพียงธาตุเดียว หรือธาตุทั้งสี่มีความไม่สมดุลแสนสาหัส เราจะสูญชาติไม่ต่างกับชาติอื่นดังที่เล่าไว้ในหนังสือดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น