++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตที่สวยงาม ( life is beautyful )

ชีวิตที่สวยงาม ( life is beautyful )

หากใครเจอข้อความตามหัวข้อแก่นธรรมตอนนี้ทางอินเตอร์เน็ท แล้วเปิดดูทันที สิ่งเลวร้ายจะตามมาในทันทีคือจะโดนเจ้าไวรัสวายร้ายตัวฉกาจจัดการกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ของท่าน จนไม่มีอะไรเหลือให้ดูอีกต่อไป เพราะเครื่องที่เปิดอยู่จะถูกมันปิดอย่างถาวรให้ แล้วไม่สนใจที่จะเปิดต่อไปอีกเลย
แต่ความเลวร้ายนั้น ก็ถูกเหล่าอัศวินผู้กล้าป้องกันโดยประกาศเตือนว่า อย่าได้ยุ่งกับมันแค่นั้น ภัยพิบัติทางอินเตอร์เน็ทก็จะเยื้องกายมาเล่นงานเราไม่ได้่ เหมือนชีวิตที่มีสองด้านหรือเหมือนกับเหรียญกลมที่มีสองหน้า คือมันมีทั้งดีและเลว มันมีทั้งทุกข์และสุข มีทั้งเศร้าโศกและรื่นเริง มีทั้งเสียใจและดีใจ อย่างไรก็ตาม
ชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงาม ตั้งแต่ลืมตาดูโลก มีความรักโอบอุ้มกายและใจ จากอ้อมอกแม่ ที่ตามประคบประหงมจนลมหายใจสุดท้ายของเธอ
ชีวิตเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆแปลกๆอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เดินดิน ซิ่งด้วยรถยนต์ เหินหาวด้วยเครื่องบิน
ความสนุกสนานตื่นใจรออยู่อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ต้องมัวถามว่าทำไมหรอก เรียนรู้ไปกับมัน และคล้อยตามไปกับมัน แต่ต้องไม่ลืมที่จะรู้ตามความเป็นจริงที่มันเป็น
ความจริงที่ว่า เกิด แก่เจ็บ ตายเป็นทุกข์ ได้พบกับสิ่งที่ไม่รักเป็นทุกข์ พลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ ไม่ได้สิ่งที่ปรารถนาเป็นทุกข์ นี่คือความจริงที่พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนเราเกี่ยวกับทุกข์ในอริยสัจ
แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทรงสอนให้เรารู้แต่เพียงด้านเดียว พระองค์ทรงชี้แนะสาเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง ภาวะแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ และหนทางแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเหลือจะกล่าว เพราะว่าหากท่านได้พิจารณาแบบในทางโลกๆแล้ว ทุกอย่างมีทางแก้ไขทั้งสิ้น มันจึงมีสองด้านของสัจธรรมเสมอ มีทุกข์แล้วมีสุข มีทุกข์แล้วก็มีทางแห่งการพ้นทุกข์
หากเราได้รู้ความจริง ความทุกข์น้นมันก็เป็นเพียงอารมณ์หนึ่งที่แทรกเข้ามาสู่หัวใจของเรา เพียงแต่ว่าเราจะตระหนักรู้หรือไม่ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง หลายๆเรื่องต้องใช้เวลาเรียนรู้และฝึกฝน เพื่อให้เราทวนกระแสแห่งทุกข์ทั้งหลายได้
หากเราเรียนรู้การเกิดจากความรัก อยู่ด้วยความรัก เจ็บแบบมีความรัก พลัดพรากจากสิ่งที่รักด้วยความรัก และไม่ได้สิ่งที่ตัวเองมุ่งมาดปรารถนาด้วยความรักแล้ว เราจะมองเห็นชีวิตอีกมุมหนึ่งชีวิตที่เต็มไปด้วยรักแท้และมีพลัง แต่ชีวิตแบบนั้นจำเป็นต้องเคลือบด้วยความรัก
และต้องเป็นความรักในธรรมอย่างน้อยก็มีอิทธิบาทสี่ ที่เริ่มต้นด้วยฉันทะ คือความพอใจใคร่รู้ในธรรมทั้งหลาย วิริยะคือความเพียรแห่งธรรมนั้นๆ จิตตะคือความมุ่งมั่นในธรรมเหล่านั้นอย่างตั้งใจหรือจดจ่อ วิมังสาคือความใคร่ครวญในธรรมนั้นอย่างถี่ถ้วน ท่านจึงเรียกว่าอิทธิบาทสี่ เป็นธรรมะที่เป็นหนทางสู่ความสำเร็จ และเป็นหนทางแห่งการตะหนักรู้สูงสุดในการสิ้นสงสัยหรือสิ้นทุกข์จนสุ่กระแสะพระนิพพาน โดยเริ่มต้นจากการเป็นพระโสดาบัน
พระโสดาบันยังมีครอบครัวที่เป็นสุขได้อย่างนางวิสาขา ที่บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุได้เพียงเจ็ดปี มีลูก ชายหญิงอย่างละสิบคน ชีวิตของท่านล้วนสวยงามทั้งทางโลกและทางธรรม เพราะท่านตระหนักรู้ในธรรมทั้งหลาย แม้จะไม่เข้าสู่ความเห็นแจ้ง แต่ก็อยู่บนทางแห่งความเห็นแจ้งแล้ว อย่างน้อยก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ชีวิตที่เห็นธรรมเป็นชีวิตที่สงบเย็น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเห็นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ยิ่งเห็นมากยิ่งเย็นมาก ชีวิตทางโลกจึงเรียกว่าสุข เพราะเข้าใจในธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ธรรมชาติอันเป็นสิ่งธรรมดาและปกติสุข ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าธรรมชาติที่มีพลังเช่นนี้แล้ว แม้กระทั่งพลังของความว่าง
ครูบาจารย์ผู้บรรลุธรรมยังเ้ล่าให้ฟังว่า การบรรลุธรรมถึงความว่าง มันดังสนั่นปานโลกและจักรวาลแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็ยังเป็นชีวิตที่ปกติสุข สงบ สะอาด สว่าง สบาย เพราะห่อหุ้มด้วยศีล สมาธิ ปํญญาหรือมีศีลเป็นความปกติ สมาธิเป็นความตั้งใจมั่นในสิ่งทั้งปวง และปัญญาคือความรู้รอบหรือรู้ความจริงทั้งมวล
ชีวิตที่เห็นธรรมเป็นชีวิตที่ร่มเย็นจากภายใน มีความสุขอันประณีตที่ตนนเองค้นพบ มิได้เที่ยวไล่ลาหาแต่ความสุขภายนอกจากวัตถุ อารมณ์หลากหลาย ที่ตอบสนองความพึงพอใจ สุดท้ายพอมันเบื่อมันก็ทุกข์
เหมือนหมาคาบเนื้อที่มองเงาในน้ำ แล้วไม่พอใจในเนื้อที่มันคาบอยู่เพราะมันชิ้นเล็กกว่าเงาในน้ำ ก็ไล่งับเงานั้นแล้วก็สูญเสียชิ้นเนื้อที่คาบอยู่ในปากไป เพราะมันไม่มันไม่มีสติสัมปชัญญะเช่นคนเรา
ชีวิตแม้จะเปรียบกับแท่งเทียนที่จุดไฟให้ความสว่าง แต่แล้วไฟก็เผาไหม้ตัวฐานของแท่งเทียนจนหมด แม้จะดูเวลาในการเผาผลาญของมันไม่นานและแสนสั้น แต่หากมองมันด้วยปัญญา ความปกติสุขมันก็ครองใจและครอบแท่งเทียนให้โชติช่วงสว่างไสวดุจปัญญาแห่งการใช้ชีวิต ชีวิตจึงสวยงามด้วยศีล สมาธิ ปัญญาอย่างแท้จริง เพราะเป็นชีวิตที่ขาดความทุกข์ เอว้ัง

ธรรมะสวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น