++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความสับสนในหมู่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

โดย สุรวิชช์ วีรวรรณ 4 พฤศจิกายน 2553 16:27 น.


หลังจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดหมายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นในหมู่พันธมิตร เพราะหลังจากพล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกให้ประชาชนสลายการชุมนุมได้มีการตั้งเวทีด่าทอพล.ต.จำลองและแกนนำพันธมิตรฯคนอื่นๆว่าหลอกลวงประชาชน และประกาศว่าต้องชุมนุมยืดเยื้อจึงจะได้ชัยชนะ

คุณไพศาล พืชมงคล ได้เขียนในทวิตเตอร์และเฟซบุ้คหนึ่งว่า อันการต่อสู้นั้นไม่เคยปรากฎว่าจะชนะได้ด้วยต่อสู้ 2-3 ครั้ง เครือข่ายสู้เรื่องดินแดนมา 2 ปี ชุมนุมในกรุง 3 ครั้ง ถูกคนไว้ใจสลายเสียเอง ฯลฯ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณไพศาลทวิตเตอร์ทำนองนี้

แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องนั้น ผมขอพูดถึงชายชาติทหารที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่หาช่องทางเอาผิดพันธมิตรฯ ผมว่าฟังแล้วแปลกๆ นะครับ เพราะการชุมนุมวันนั้น ภายใต้การนำของพันธมิตรฯ แกนนำได้มีมติให้ดำเนินการประชุมภายใต้กรอบกฎหมายที่ทำได้ ไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียง แต่ใช้โทรโข่ง ไม่รุกล้ำถนน นอกจากเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งสะท้อนการยอมรับการเคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง

ที่สำคัญประเด็นที่ผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องเป็นการแสดงออกถึงการปกป้องดินแดนและผลเสียที่จะตามมาถ้าหากมีการลงมติรองรับข้อตกลงร่วม ปชป.-เขมร(ผมไม่อยากเรียกว่ามติร่วมไทย-เขมร)พล.อ.ประวิตรซึ่งเป็น รมว.กลาโหม และเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกควรจะชื่นชมการแสดงออกของคนไทย กลับสั่งการให้ไปหาช่องทางเอาผิด ผิดวิสัยของคนไทยและชายชาติทหาร

มาถึงประเด็นของพันธมิตรฯ ผมอยากชี้แจงว่า การดำเนินการหลังจากที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สั่งยุติการชุมนุมนั้น เป็นการดำเนินการต่อเนื่องของสมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่นำโดยคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และเครือข่ายที่นำโดยคุณวีระ สมความคิด การดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมาของทั้งสองกลุ่มนั้น ไม่ขึ้นกับมติของพันธมิตรฯ และดำเนินการเป็นเอกเทศ แต่ก็เป็นกลุ่มพี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมต่อสู้กันมา

และหลายครั้งวิธีการของทั้งสองกลุ่มไม่สอดคล้องกับแนวทางของพันธมิตรฯ ซึ่งผมคิดว่า "เป็นสิทธิของเขาที่จะทำได้" แม้ว่าเมื่อไม่สอดคล้องกับพันธมิตรฯ ประชาชนจำนวนหนึ่งก็ไม่อาจแยกแยะได้ สื่อมวลชนก็มักเหมารวมว่าเป็นการกระทำของพันธมิตรฯ ผมก็ถือโอกาสแจ้งให้ทราบว่า การกระทำของบุคคลเหล่านั้นเป็นการกระทำตามแนวทางและสิทธิของพวกเขา ซึ่งผมไม่พูดว่า ดีหรือไม่ดี ผิดหรือถูก

แต่หลังจากพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมในวันที่ 2 พ.ย.เครือข่ายดังกล่าวได้ส่งคนมาประสานว่า จะขอเข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่มีเงื่อนไข เมื่อแกนนำพันธมิตรฯ ทราบก็ไม่มีใครมีเงื่อนไขอะไร บอกว่ายินดีเข้าร่วมชุมนุม แต่เรารู้อยู่แล้วว่า จริงแล้วเขามีเงื่อนไข คือต้องการให้มวลชนชุมนุมต่อเนื่องยืดเยื้อ แต่แกนนำพันธมิตรฯ ไม่เห็นด้วย เพราะครั้งนี้พันธมิตรฯ เป็นแกนนำและควรเคารพต่อมติของแกนนำ

เพราะถ้าหากว่า ทุกคนประกาศว่า ผมเป็นพันธมิตรฯ ร่วมต่อสู้กันมา แต่ถ้าจะทำอะไรไม่ต้องฟังใคร แม้แต่แกนนำ ถามผมทำได้ไหม ผมตอบว่าทำได้ครับ ใครก็ตามย่อมมีสิทธิกระทำในนามของตัวเอง แต่เมื่อผิดแผกจากแนวทางที่แกนนำได้มีมติไป การกระทำของคุณต้องไม่ใช่การกระทำในนามของพันธมิตรฯ

ซึ่งไม่ใช่ผมไปกล่าวหาว่าการกระทำนั้นผิดหรือถูก แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วย แต่ประเด็นของผมคือ หากคุณกระทำในนามอื่นหรือนามของตัวเองก็ว่าไป แต่อย่าอ้างในนามพันธมิตรฯ ถ้าการกระทำนั้นสวนทางกับมติแกนนำ

ถ้าถามผมว่า ใครเป็นเจ้าของพันธมิตรฯ? ใครมีสิทธิมาบอกว่า ใครเป็นพันธมิตรฯ ไม่เป็นพันธมิตรฯ? ผมตอบว่า การกระทำของตัวคุณเองครับ เพราะถ้าคุณไม่เคารพมติของแกนนำคุณก็ไม่ใช่พันธมิตรฯ เพราะถ้าต่างคนต่างเดินจะเรียกว่าพันธมิตรได้อย่างไร ส่วนถ้าคุณคิดว่าการกระทำของคุณนั้นถูกต้อง เพื่อประเทศชาติและประชาชน ก็เป็นสิ่งที่ดีไงครับ ดีต่อประเทศชาติแล้วยังดีต่อกรรมดีที่ตัวเองได้กระทำด้วย

พันธมิตรฯ ไม่ได้มีบัตรแบบ นปช.หรือคนเสื้อแดง แต่ความเป็นพันธมิตรซึ่งผมสะท้อนมาจากการร่วมต่อสู้กันมาว่า การมีเป้าหมายร่วมกันทั้งวิธีการและแนวทางในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้องทั้งมวล ต้องมีวิธีการและแนวทางร่วมกันด้วยครับ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตร เพราะถ้าต่างคนต่างทำก็ไม่ใช่พันธมิตร

แต่ผมก็ไม่ได้ตำหนิวิธีการของเครือข่ายที่นำโดยคุณไชยวัฒน์และคุณวีระ แม้ว่าผมอาจจะไม่เห็นด้วย ผมคิดว่า ถ้าทางนั้นคิดว่าแนวทางของตัวเองถูกต้องก็เดินไป แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นหลังการชุมนุมในวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งอีกฝ่ายพยายามจะยื้อให้คนอยู่ต่อ (ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องของเขา) คนจำนวนมากโทร.มาแจ้งว่า กลุ่มที่ขึ้นเวทีปราศรัยได้ด่าทอต่อว่าแกนนำพันธมิตรฯ

ผมก็ชี้แจงว่า เขาด่าทอต่อว่าทางนี้มานานแล้วครับ ถ้าใครเปิดรับฟังโทรทัศน์ช่องนั้นก็จะได้ยินชัดเจนและรับรู้กันโดยทั่วหน้า แต่สังเกตว่าจะไม่ได้ยินเอเอสทีวีด่าทอตอบโต้กลับไปเลย ก็เพราะเราไม่ต้องการเอาความขัดแย้งที่ต่างกันที่วิธีการมาด่าทอกัน ไม่ต้องพูดถึงในเฟซบุ้ค ทวิตเตอร์ของบางคนที่เหน็บแนมเสียดสีมาทางพันธมิตรฯ ตลอดเวลา และเราได้แต่อดทน

มีคนถามว่า ทำไมไม่ต่างคนต่างเดิน ถ้าคิดว่าตัวเองมีเป้าหมายร่วมกัน และถ้าเรื่องไหนเป็นสิ่งที่ถูกต้องมวลชนเขาพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับความคิดนี้นะครับ ไม่เข้าใจว่า ทำไมจะต้องมาเสียดสีกันในกลุ่มคนที่ร่วมต่อสู้กันมา หากคุณอยากสร้างแนวทางของตัวเองก็เดินไป สร้างศรัทธาให้ประชาชนเห็น เรื่องมันก็แค่นั้นเอง

มีคนถามอีกว่า ทำไมสองฝ่ายไม่หันหน้ามานั่งคุยกัน ผมเล่าให้ฟังก็ได้ว่า เคยมีผู้ใหญ่ที่ทั้งพล.ต.จำลอง คุณสนธิให้ความเคารพและทางคุณไชยวัฒน์และคุณวีระให้ความเคารพเรียกทั้งสองฝ่ายมาคุยกัน แล้วขอให้ฝ่ายนั้นยุติการโจมตีแกนนำพันธมิตรฯ แต่ผลเป็นว่า พอลับหลังผู้ใหญ่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ซึ่งตรงนี้แหละครับที่เป็นปัญหา แต่ทางแกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่ตอบโต้อยู่ดี

จนกระทั่งส่งตัวแทนมาแจ้งว่า จะเข้าร่วมชุมนุมอย่าง "ไม่มีเงื่อนไข" แต่กลายเป็น “เงื่อนไข”นั่นแหละ

แม้ผมจะไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรในฝ่ายพันธมิตรฯ แต่หลายคนถามประเด็นนี้มายังผมจำนวนมากที่ผมคิดว่า ผมควรจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจจากข้อมูลที่ผมมีอยู่ ผมไม่ได้เป็นฝ่ายขยายความขัดแย้ง แต่ผมคิดว่า ถ้าไม่ชี้แจงเสียบ้าง เราก็ถูกกล่าวหาฝ่ายเดียว และความขัดแย้งจะยิ่งลุกลาม

คุณไชยวัฒน์ คุณวีระ คุณสมบูรณ์ ทองบุราณ คุณการุณ ใสงาม ล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมา โดนแจ้งข้อหาคดีความด้วยกัน ผมคิดว่า ถ้าพวกพี่จะต่อสู้และมีแนวทางของตัวเองก็สู้กันไปไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ ยิ่งถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นทำเพื่อความถูกต้อง เพื่อชาติบ้านเมือง

ผมคิดว่า ถึงเวลาถ้าเรายึดมั่นในความถูกต้อง เราคงได้ต่อสู้ร่วมกันอีก

****

คุณสุรวิชช์เขียนบทความได้ดีค่ะ พยายามที่จะไม่ตำหนิอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็พยายามอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนตัวมีความเคารพในตัวแกนนำโดยเฉพาะคุณลุงจำลอง ทำให้วางใจในการตัดสินใจทุกเรื่องของพธม ว่าจะกระทำโดยพิจารณาไตร่ตรองอย่างดี
thomas2006

ผมเลือกที่จะเชื่อคุณสุรวิชช์ และแกนนำพันธมิตร
ผมเลือกที่จะเชื่อ นั่นหมายความว่าโดยส่วนลึกแล้ว
ผมเชื่อหรือไม่ นั่นมันอยู่ในใจ
แต่เลือกที่จะเชื่อ เพราะยังคิดว่า โดยมโนธรรมแล้ว
มิตร แม้นจะไม่พอใจกัน มิตรก็ไม่ควรทำลายกัน
พฤติกรรมของคุณ วีระ และคุณไชยวัฒน์นั้นเป็นพฤติกรรมของคนที่ทำลายมิตร
เห็นชัดเจนหลายครั้ง
ผมยังคงเลือกที่จะเชื่อ 5 แกนนำและจะยอมเดินออกจากบ้าน ก็ต่อเมื่อ มีการนำโดย 5 แกนนำพันธมิตรเท่านั้น
คนศรีวิชัย


เราคนหนึ่งที่เชื่อ 5 แกนนำและวิทยากรที่ให้ความรู้แก่เราอย่างให้ปัญญาจริงๆ
*พันธมิตรแท้ๆจริงๆ* จะเชื่อแกนนำแบบมีเหตุมีผล ไม่มี *อ้ตตา* หรือ ตัวกรูของกรู
จนไม่รู้จักแยกแยะ *ดีชั่ว*
แต่สำหรับ *บางพวก* ที่คิดว่าตัวเอง เจ๋ง แล้วไปตั้งกลุ่มใหม่ ขอโทษพวกคุณมัน
ก็แค่ *พวกตีกิน* เอาเปรียบหากินกับคนที่เขาทำเพื่อประโยชน์ *ส่วนรวม* มากกว่าพวกคุณ
*บางพวก* คิดว่าพวกตัวเองแน่ แล้วเป็นไง จิตใจพวกคุณไม่บริสุทธิ์ ฟ้าดิน ไม่เข้าข้างหรอก
เราก็เกือบไปแล้วเกือบไปซื้อ หุ้น ของพวกเขาเหมือนกัน แต่โชคดี ที่เราเป็น พันธมิตร
จะตัดสินใจอะไร ก็ต้องพิจารณา และ วิเคราะห์ก่อน ก็เลยทำให้เห็น *ธาตุแท้*ของกลุ่ม
คน *บางพวก* ก็ต้องยกผลประโยชน์ให้ 5 แกนนำที่ให้ปัญญาเรา
และที่สำคัญคนอย่างพวกคุณ *บางพวก*เป็นประเภท คนที่ *ไม่รักษาสัจจะ* ก็อย่าหวัง
ว่าพวกคุณจะ *เจริญ*
เมื่อคืนดูรายการ คอคนคอข่าว โคตรชอบ คุณเพชรกับคุณดีน พูดมากเลยโดนใจมาก
เรื่องคน*ไม่รักษาสัจจะ" เมื่อก่อนก็เคยดูไอ้ช่องที่ตั้งขึ้นมาใหม่นั่นนะ แต่ไม่เห็นจะให้
ความรู้อะไรมากเลย มีแต่ให้คนโทรเข้ามาด่าไร้สาระสิ้นดี คนอย่าง *สิริอัญญา* กับ
*เปลวสีเงิน* ก็ไม่ต่างกันหรอก เก่งแต่กับอยู่หน้าคอมกับจับปากกาเขียนว่าคน
ที่เขาทำเพื่อ *ส่วนรวม* แต่ตัวคุณเองกรูขออยู่หลังสุดว่ะ*555+++
อ้อ! เราก็รู้จักน่ะนามปากกา สิริอัญญากับเปลวสีเงินนะ แต่ไม่อยากเอ่ยชื่อจริง
ก็อยากจะบอก *พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรทั่วโลก* ถ้าเราทำดี คิดดี ไม่ต้องกลัวหรอกว่า อะไร
หรือ ใคร มาทำร้ายเราได้ หนักแน่น เชื่อมั่นในตัวของเราเอง เอาธรรมนำหน้า ชนะทุกอย่าง
**รักพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรทั่วโลกทุกๆท่าน**
พธม.ชลบุรี


ไม่มีคำว่า "อดีตพันธมิตร"....มีแต่ "ไม่ได้เป็นพันธมิตร"..... ถ้าไม่ศรัทธาอุดมการณ์และไม่ยอมรับในแกนนำ ก็ไม่ได้เป็นพันธมิตร...แค่นั้นเอง - ถ้าเคยมาร่วมกลุ่มเป็นพันธมิตรในช่วงหนึ่ง แล้วตอนนี้ไม่อยากเป็น ก็ไม่ต้องมาเหน็บแนมอะไรกัน...ไม่ต้องมาคืนบัตร เพราะไม่เคยมีบัตร ไม่ต้องมาทวงบุญคุณ เพราะเป็นพันธมิตรต้องไม่หวังบุญคุณ....ใครบังคับให้เป็นหรือเปล่า ต้องถามตัวเอง....

เสาร์ที่ 30 ก่อนการชุมนุม (ซึ่งผมไม่ได้ไป เพียงติดตามข่าวเท่านั้น) นั่งดูทีวีรายการหนึ่งของคนกลุ่มที่เคยร่วม..... มีอดีต สว.ชื่อ ส. ร่วมจัด อธิบายเสียงระรื่นอยู่หน้าจอว่า...."เขาพูดกันไปเองว่าเราขัดแย้งกับเอเ้อสทีวี กับพันธมิตร ...ไม่มีอะไรหรอกครับ เข้าใจผิดกันไปเอง....ฯลฯ" ผมกับแฟนมองหน้ากัน.....แต่ผมคิดว่า เออ เลิกขัดแย้งกันก็ดี เพราะได้ข่าวว่ากลุ่มนี้จะไปร่วมด้วย...... (แต่ก็คิด....งั้นที่ผ่านมาที่เคยดูเคยฟังพวกคุณจัดรายการ... แสดงว่าตอนนั้นเล่นละครกันหรือไง ยังจำได้ติดหูติดตามีอยู่วันหนึ่งคนฟังโฟนอินเข้ามาว่า.. อย่าไปดูทีวีช่องนั้นเลยมันของปลอม เอเอสทีวีน่ะ....พวกพิธีกรที่จัดรายการอยู่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนหัวร่อซะด้วยซ้ำ) เวลาว่างเสาร์,อาทิตย์ผมจะหมุนไปดูว่า วันนี้จะมีรใครเหน็บแนมพันธมิตรหรือเอเอสทีวีบ้าง...โดยไม่ได้สนใจประเด็นที่จัดกันอยู่ตอนนั้น

พันธมิตรไม่ได้ใส่สีเหลืองสีเดียว ฉะนั้นไม่มีเหลืองจริงเหลืองเทียม....พันธมิตรมีเพียงหัวใจสีเดียวกันและรู้อยู่ในในใจแต่ละคนเท่านั้น เมื่อยามที่ต้องรวมพลัง....ใจมันจะพาตีนเดินออกไปเอง.....

อาทิตย์ 31 อดีตเด็กขับรถของออฟฟิศที่อยู่บางบ่อ โทร.มาบอกเสียงตื่นเต้น.....ลุง ลุง พันธมิตรจะชุมนุมกันวันที่ 2 รู้รึยัง พอดีเมื่อกี้ผมไปเติมน้ำม้นที่ปั๊มหลอดแถวบ้าน เจ้าของบอกว่าจะไปกันตอนเจ็ดโมงเช้า ขึ้นรถข้างกสิกรฯ.. ผมบอกว่ารู้แล้ว แต่ติดธุระ ไปช่วยกันหน่อยละกัน...

หลังวางสาย ผมยิ้มและรำพึงในใจ....นับถือพวกคุณว่ะ นึกว่าจะลืมกันไปตามกาลเวลาซะแล้ว......นึกถึงชื่อหนังสือ เล่มหนึ่งขึ้นมาฉับพลัน... ช่างตั้งชื่อได้ความหมายจริงๆ.......

"พันธะแห่งมิตรแท้"......ใช่เลย พันธมิตร...พันธะแห่งมิตรแท้.....
uncle

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น