++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

“กรมส่งเสริมฯ” เตือนระวัง “โรค-ศัตรูพืช” ระบาดหลังน้ำลด - เร่งสำรวจ พท.เกษตรสังเวยน้ำท่วม

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรระวังโรค-ศัตรูพืชระบาดหนักหลังน้ำลด เผย เร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรสังเวยน้ำท่วมทั่วประเทศ เตรียมเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลาย ระบุ ภาคเหนือน่าห่วงมากสุด ด้านเกษตรจังหวัดฯโคราชสั่งเกษตรอำเภอทุกแห่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะลุ่มน้ำ “ลำเชียงไกร” เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ห้องประชุมการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร (พืชสวน) ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายอรรถ อินทรลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาสาสมัครเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2553 โดยมีตัวแทนเกษตรกรจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน

นายอรรถ อินทรลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมต่อพืชผลทางการเกษตร ว่า โดยภาพรวมทั่วประเทศจากรายงาน พบว่า มีพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือเกิดน้ำท่วมมากถึง 13 จังหวัด ส่วนภาคกลางตอนบนและภาคอีสานประสบปัญหาน้ำท่วมในบางจังหวัด ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้วางมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไว้แล้ว เพื่อลดผลการกระทบจากน้ำท่วมต่อพืชผลของเกษตรกร

โดยได้ประกาศแจ้งเตือนให้เกษตรกร ดูแลป้องกันไม้ให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูก พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรจังหวัด และเกษตรอำเภอเจ้าของพื้นที่ลงให้ความรู้เกษตรกร ในการดูแลพืชผลทางการเกษตรช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง

รวมทั้งให้เฝ้าระวังโรคพืชที่จะตามมาหลังภาวะน้ำท่วมคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะพืชไร่ เช่น ข้าว ซึ่งจะประสบปัญหาโรคระบาด แมลงศัตรูพืชกัดกินต้นข้าว เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล, หนอนมวนใบ และ โรคใบไหม้ รวมไปถึงพืชไร่อื่นๆ เช่น มันสำปะหลัง ที่ต้องประสบกับปัญหาโรครากเน่า และราสนิมกัดกินส่วนใบและลำต้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและแฉะเป็นตัวกระตุ้นให้มันสำปะหลังเกิดโรค ต่างๆ ได้ง่าย วิธีที่ดีที่สุด คือ เกษตรกรต้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้น้ำท่วมขังนานเกินไป

นายอรรถ กล่าวอีกว่า มาตรการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมนั้นมีระเบียบกำหนด ไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสำรวจความเสียหายของเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ที่ จะได้รายงานเข้ามายังส่วนกลาง ซึ่งคงต้องรอให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายก่อนจึงสามารถรวบรวมข้อมูลความเสีย หายแต่ละพื้นที่ได้

“การช่วยเหลือจะพิจารณาตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เช่น หากนาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายจากอุทุกภัยอย่างสิ้นเชิง จะได้รับเงินชดเชยความเสียหายไร่ละ 606 บาท มันสำปะหลัง ได้รับเงินชดเชยไร่ละ 837 บาท เป็นต้น คาดว่า อีกสักระยะจะสามารถสรุปความเสียหายและเข้าเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ได้” นายอรรถ กล่าว

ด้าน นายสวัสดิ์ บึงไกร เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานพื้นที่ทางการเกษตรของ จ.นครราชสีมา ได้รับผลกระทบ หรือเกิดความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมแต่อย่างใด เพียงได้เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรที่ติดลุ่มน้ำลำเชิงไกร ในเขตพื้นที่ อ.โนนไทย, พิมาย, ชุมพวง และ อ.เมืองยาง เป็นต้น ซึ่งได้สั่งกำชับไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอให้ติดตามสถานการณ์น้ำ อย่างใกล้ชิด และหากพบว่ามีพื้นที่ของเกษตรกรได้รับความเสียหาย หรือเกิดน้ำท่วม ให้เร่งรายงานมายังเกษตรจังหวัด เพื่อดำเนินการเข้าให้การช่วยเหลือต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น