เหตุการณ์เมืองสยามมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ บรรพชนสร้างเมืองโดยพิธีกรรม ให้อยู่ในพลังคุ้มครองแห่งพุทธานุภาพ และ เทวานุภาพ ได้สร้างรูปสัญลักษณ์บูชา เป็นทั้งพระพุทธรูป และ พระสยามเทวาธิราช ประดิษฐานไว้ พลังลึกลับที่ยากวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ถึง แต่ครั้งใด คนในเมืองนั้น ๆ เกิดกลียุคมิคสัญญี มนุษย์มีภาวะกึ่งคนกึ่งสัตว์ ความศักดิ์สิทธิ์ลึกลับก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน ภาวะที่ว่านี้เป็นต้นว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างมโหฬารหน้าด้าน ๆ แตกสามัคคีเป็นเสี่ยง ๆ ฯลฯ ท่านจะบันดาลให้เกิดอาเพศปรากฏ ตัวอย่างกรุงศรีฯแตกเมื่อวันอังคารขึ้น 9 ค่ำเดือน 5 ปี 2310 หลวงพ่อพนัญเชิงมีน้ำพระเนตรไหลเป็นสายเลือดมาถึงนาภี พระศรีสรรเพชรในวังหลวง พระอุระแตก พระเนตรหลุดหล่นตกมาที่พระเพลา ได้ยินเสียงรูปพระนเรศวรในโรงแสง กระทืบพระบาทสะนั่นไปทั้งสี่ทิศในค่ำคืนนั้น รุ่งสางนกกาจากวัดท่าการ้องบินถล่าเอาอกเสียบตรีศูลตายคาอยู่บนยอดปรางค์ อากาศวิปริตมืดมิด บอกลางว่ากรุงจะแตก พม่าข้าศึกยกปืนใหญ่ขึ้นเชิงเทินสูงยิงเข้าในวัง แตกทำลาย เผาผลาญเมืองกรุงพินาศ เหลือแต่ซาก ไปดูรอยบาดแผลได้ทุกวันนี้
ร.4 ทรงสร้างรูปพระสยามเทวาธิราชไว้คู่พุทธานุภาพ เป็นช่วงที่ ประเทศนี้รอดพ้นจากการล่าเป็นเมืองขึ้นเหลืออยู่เมืองเดียวในย่านเอเชียอา คเณย์ ตะวันออกเหนือ เวียตนาม ลาว เขมร เชียงตุง เชียงรุ้ง ฝรั่งเศสยึด ใต้ ตะวันตก พม่า มาเลเซีย ลังกา อินเดีย อังกฤษยึดหมด
ร.4 ร.5 ทรงนำประเทศชาติรอดมาได้ ทรงเชื่อมั่นว่ามีสิ่งศักดิสิทธิ์ดังกล่าวช่วยดลบันดาล ให้เกิดสติปัญญาแสงสว่างในการแก้ปัญหาต่าง ๆ มาได้ คิดว่าทุกวันนี้วิญญาณบรรพชน และ บุรพมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ ร่วมเป็นพลังเทพดังกล่าวคุ้มครองบ้านเมือง ในช่วงที่รอดเป็นเมืองขึ้นเขานั้น เป็นช่วงที่คนไทย ยิ่งด้วยคุณธรรมและศีลธรรม ไม่แตกสามัคคี มีจิตวิญญาณอยู่ในศูนย์รวมเดียวกันคือ ชาติ - ศาสน์ - กษัตริย์
ปัจจุบัน 4 -5ปี มานี้ คน 65 ล้าน มีเพียงหยิบยมือหนึ่ง ที่ถูกบางคนป่วยทางจิต อวดร่ำอวดรวย ใฝ่สูง ลืมตัว ลืมชาติกำเนิด ชักจูง มอมเมา ให้เกิดการปั่นป่วน ถึงกับเผาบ้านเผาเมืองเป็นบางส่วน ยิ่งกว่านั้นยังจะซักศึกเข้าบ้าน จะทำให้เหมือนกรุงศรีอยุธยาแตก จึงได้แต่สำนึกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเอาอยู่ จึงกำหนดให้กรรมสนอง รับกรรมชั่วไป ระวังไม่ให้คนชั่วมีอำนาจครองเมือง ฯ
ไทยไม่ใช่ทาส/somket.@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น