++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ธรรมดากับสามัญนอกจอ facebook ของไอออนกับใบบอน - รสชาติกับข้าวหนึ่งมื้อ



            ช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็วอย่าง facebook ไม่มีใครปฏิเสธว่า สิ่งนี้มันเชื่อมโยงคนทั่วโลกได้อย่างไร แม้จะอยู่ไกลแสนไกลเพียงใด แต่ทำให้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น หลายคนมักจะแสดงความรู้สึก และทำหลายสิ่งหลายอย่างผ่าน facebook และบอกว่าแค่สื่อสารกันทาง facebook ก็เพียงพอแล้ว

            แต่ในความธรรมดากับสามัญ มีหลายสิ่งที่ facebook ทำไม่ได้ และไม่สามารถสัมผัส ไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกได้เหมือนในโลกของความเป็นจริง แม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเช่น การกินข้าว ของ น้องไอออนกับพี่ใบบอน ที่เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย ไม่สามารถเข้าถึงความธรรมดา สามัญที่เข้าถึงส่วนลึกของหัวใจกันได้


            การนั่งทานข้าวด้วยกัน เป็นความพิเศษที่แสนจะธรรมดา ที่ไม่สามารถส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารทันสมัยใดๆได้ การเห็นเพียงภาพถ่าย ภาพนิ่ง หรือ เป็นภาพเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กินข้าว เคี้ยวข้าว ภาพนั้น ดูแล้ว อาจไม่เหมาะสมในการเผยแพร่ในที่สาธารณะ กับการเคี้ยวข้าว เม็ดข้าวติดที่มุมปาก ปากที่มีคราบมัน ถ้ามานั่งดูด้วยภาพนิ่ง มันคงเป็นภาพที่ไม่น่าดู เมื่อดูภาพที่นิ่งในลักษณะแบบนั้น แต่ถ้าเป็นในบรรยากาศจริง นั่งกินข้าวกันจริงๆ ที่เคี้ยวข้าว ทานกันไปด้วยความเอร็ดอร่อย กลับกลายเป็นความสุข ความอิ่ม อร่อย ที่แสดงออกมาทางสีหน้า การทานข้าวกับคนที่รู้ใจ ไว้ใจกัน สามารถกินได้อย่างเต็มที่ ความอร่อย แสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้าแววตา ความสุขที่ได้เห็นอีกฝ่าย กินอย่างมีความสุข ภาพนิ่ง ไม่สามารถที่จะสื่อความรู้สึกเหล่านี้ออกมาได้ ...  บางคนอาจจะมองภาพนิ่งในลักษณะนี้ว่า เป็นอาการมูมมาม ไม่สุภาพ ไม่เป็นผู้ดี ไม่มีมารยาท...

            แต่ความจริงแล้ว การมีความสุข ความสบายใจส่วนตัว มันจะต้องมีพิธีรีตรอง มีมารยาทสังคมอะไรกันอีก กินข้าวกับคนรู้ใจกัน ไว้ใจกันนะ ไม่ได้กินข้าวโชว์ใครๆ ไม่ได้กินเพื่อสร้างภาพในสังคมใดๆทั้งนั้น

            แต่ความตั้งใจเล็กๆ แค่การนั่งกินข้าวด้วยกัน บางครั้ง ดูเป็นเรื่องยากจริงๆ เมื่อต่างคน อยู่ห่างไกลกันคนละจังหวัด คนละภูมิภาค ไม่มีโอกาสได้มาพบเจอกันง่ายๆ แต่เมื่อไอออนกับใบบอน มีโอกาสได้มาเจอกัน สิ่งเล็กๆ อย่างเช่น การนั่งกินข้าวด้วยกัน เรื่องธรรมดาสามัญแค่นี้ เรื่องที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้น จึงเกิดขึ้นมาได้

            ใน facebook เมื่อถึงเวลาต้องไปกินข้าว ก็แค่บอกว่า ไปกินข้าวก่อนนะ ก็แค่นั้น ไม่มีโอกาสได้รับรู้ ได้เห็นว่า ที่ไปกินข้าวน่ะ มันอร่อยแค่ไหน การได้รับรู้ ได้เห็นว่า มันอร่อยมั้ย ก็คือ กินข้าวด้วยกันนั่นแหละ แล้วก็จะรู้ทันทีว่า กับข้าว มันอร่อยมากแค่ไหน

            การได้เห็นไอออน กินข้าวอร่อย แล้วมีความสุข ออกมาให้เห็นทางใบหน้า มันมากกว่าคำบรรยายใน facebook ว่า ไปกินข้าวกับอะไรมา อร่อยแค่ไหนยังไง ให้บรรยายออกมายาวแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับการได้นั่งกินข้าวด้วยกัน อร่อยด้วยกัน
       
            แค่เรื่องธรรมดา สามัญแค่การกินข้าว หลายคนมองข้ามไป คิดแต่ว่า facebook มันส่งต่อความรู้สึกได้ทุกอย่างแล้ว

            ถ้าคนเรามีความทุกข์ การกินข้าว จะกินได้ในแบบหนึ่ง คนที่รักและห่วงใยจะสังเกตได้ทันที การกินข้าวก็บอกความรู้สึกได้เช่นกัน แม้ว่า เรื่องบางเรื่อง มันยากที่จะบอกออกมาจากปาก แต่ก็สามารถสื่อสารให้อีกฝ่ายรับรู้และสังเกตได้

            ใบบอนและไอออน เป็นคนอีสาน กินข้าวเหนียวได้ การปั้นข้าวเหนียวกินกัน ก็มีความหมายเช่นกัน เรื่องเล็กๆที่อยากทำ พี่ใบบอนอยากปั้นข้าวเหนียวให้น้องไอออนกิน แล้วอยากให้น้องไอออนปั้นข้าวเหนียวคำเล็กให้กินมั่ง

            บางที พี่ใบบอนอยากจะป้อนข้าวเหนียว 1 ปั้นใส่ปากน้องไอออนซะเลย จะได้รู้ว่าพี่ใบบอนรักน้องคนนี้ขนาดไหน

            เรื่องการกินข้าว หลายคนก็ต้องนึกถึง สถานที่กิน .. ความจริง จะกินที่ไหนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญ อยู่ที่คนที่นั่งกินด้วยต่างหาก ในระหว่างนั่งกินในร้านอาหารสุดหรู กับ กินที่ร้านริมถนน ราคาย่อมเยาว์ บางที นั่งกินร้านเล็กๆ กินกับน้องสาวคนดีกลับได้รสชาติมากกว่า ร้านอาหารใหญ่ ที่ต้องเกร็ง รักษามารยาทสังคมจนเกินไป

            สุดยอดบรรยากาศของการกินข้าว คือ กินข้าวป่า ปูเสื่อ นั่งเหยียดแข้งขากันแบบสบายๆ แบบกันเอง แต่เมื่ออยู่ในเมือง อาจจะนั่งปูเสื่อ ปูกระดาษรองกันในสวนสาธารณะใต้ร่มไม้ในบรรยากาศสบายๆ ริมสระน้ำในสวนร่มรื่น นั่งคุยกับน้องสาวตัวดี... แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว สำหรับวันหยุดพักผ่อนสบายๆ

            สุดยอดของอาหารอีสาน ที่หลายคนติดใจ แน่นอน ส้มตำ.. การนั่งกินส้มตำ เผ็ดๆ แล้วซู๊ดปาก ออกอาการเผ็ด แม้จะดูทรมาน แต่นั่นถือว่า เข้าถึงรสชาติของส้มตำ แซบ เผ็ด สะใจ คนบ้านเดียวกัน กินของชอบด้วยกัน มันเหนือคำบรรยาย

            แม้จะมีเวลาได้พบเจอกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาพิเศษกับการนั่งกินข้าวด้วยกัน กินด้วยกัน 1 มื้อ 2 มื้อ หรือ 3 มื้อ  ช่วงเวลาสั้นๆ แต่จะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีๆต่อไป รอวันเวลาที่จะได้มานั่งกินข้าวด้วยกันในแบบกันเองอีกในคราวต่อไป หรือหากไม่ว่าง ไม่มีโอกาสได้มาเจอกันอีกเลย เพราะว่างไม่ตรงกันสักที ช่วงเวลาพิเศษที่ได้กินข้าวด้วยกัน ก็ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษของชีวิตได้เหมือนกัน

            จากการนั่งกินข้าวด้วยกันนี่แหละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น