ในชีวิตประจําวันของคนเรานั้น จะตองมีติดตอสัมพันธกับผูอื่นหลายดาน ถาตองการใหความ
สัมพันธนั้นมีผลทางกฎหมายก็ตองมีการทํานิติกรรมสัญญาระหวางกัน
ในเรื่องการทํานิติกรรมสัญญาในที่นี้จะกลาวถึงเรื่องตอไปนี้
ก. กูยืมเงิน
ข. ค้ําประกัน
ค. จํานอง
ง. จํานํา
จ. ซื้อ-ขาย
ฉ. ขายฝาก
ช. เชาทรัพย
ซ.
เชาซื้อ
Page 2
ก. กูยืมเงิน
๑. ความหมาย
การกูยืมเงินเปนสัญญาอยางหนึ่ง ซึ่งเกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกวา “ผูกู” มี
ความตองการจะใชเงิน แตตนเองมีเงินไมพอ หรือไมมีเงินไปขอกูยืมจากบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกวา“ผูใหกู”
และผูกูตกลงจะใชคืนภายในกําหนดเวลาใดเวลาหนึ่ง การกูยืมจะมีผลสมบูรณก็ตอเมื่อ มีการสงมอบเงิน
ที่ยืมใหแกผูที่ยืมในการกูยืมนี้ผูใหกูจะคิดดอกเบี้ยหรือไมก็ได
ตัวอยาง นายดํา ตองการจะซื้อรถราคา ๑๕๐,๐๐๐ บาท แตนายดําไมมีเงิน นายดําจึงไปขอยืม
เงินจากนายแดง โดยตกลงจะใชคืนภายใน ๑ ป นับตั้งแตวันที่กูยืม ดังนั้นเมื่อครบกําหนด ๑ ปแลว
นายดํา (ผูกู) ตองใชเงินคืนใหแกนายแดง
๒. ดอกเบี้ย
ในการกูยืมเงินกันนี้ เพื่อปองกันมิใหนายทุนบีบบังคับคนจน กฎหมายจึงไดกําหนดอัตราดอก
เบี้ยขั้นสูงสุดที่ผูใหกูสามารถเรียกได วาตองไมเกินรอยละ ๑๕ ตอป คือรอยละ ๑.๒๕ ตอเดือน (เวนแต
เปนการกูยืมเงินจากบริษัทเงินทุนหรือธนาคาร ซึ่งสามารถเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราดังกลาวไดตาม พ.ร.บ.
ดอกเบี้ยเงินใหกูยืมของสถาบันการเงิน) ถาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราดังกลาวถือวาขอตกลงเรื่องดอกเบี้ยนั้น
เปนอันเสียไปทั้งหมด คือ ไมตองมีการใชดอกเบี้ยกันเลยและผูใหกูอาจมีความผิดทางอาญาฐานเรียกดอก
เบี้ยเกินอัตราดวย คือ อาจตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้ง
ปรับ ตาม พ.ร.บ. หามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗๕
๓. หลักฐานการกูยืม
ในการตกลงทําสัญญากูยืมเงินนั้น ถาหากวากูยืมกันเปนจํานวนเงินเล็กนอยไมเกิน ๕๐ บาท
กฎหมายไมไดบังคับวาตองทําหลักฐานเปนหนังสือ แสดงถึงการกูยืมหรือทําสัญญาไวตอกัน เชน ยืมเงิน
๒๐ บาท หรือ ๓๐ บาทแลวเพียงแตพูดจาตกลงกันก็พอ แตถาหากวากูยืมเปนจํานวนเกินกวา ๕๐ บาท
ตองทําหลักฐานแหงการกูยืมเปนหนังสือหรือทําหนังสือสัญญากูไวตอกัน เพื่อจะไดใชเปนหลักฐานในการ
ฟองรองบังคับคดีในกรณีที่ไมปฏิบัติตามสัญญา ในหลักฐานแหงการกูเปนหนังสือดังกลาวนี้ตองมีขอความ
แสดงวาไดกูยืมเงินเปนจํานวนเทาใดมีกําหนดใชคืนเมื่อใดและที่สําคัญจะตองมีการลงลายมือชื่อผูกู
Page 3
ตัวอยาง หลักฐานการกูยืมเงิน
ขาพเจา นายดํา ไดกูยืมเงินจากนายสมศักดิ์เปนจํานวน ๓,๐๐๐ บาท (สามพันบาทถวน) เมื่อ
วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๐ มีกําหนดใชคืนภายใน ๑ ป ดอกเบี้ยรอยละ ๑๕ ตอป
ลงชื่อ ดํา ผูกู
หากวาในขณะกูยืมเงินกันแตมีการตกลงรับเอาสิ่งของแทนจํานวนเงินที่กูยืมกันนั้น ตองคิดราคา
ของตลาดของสิ่งนั้นเปนจํานวนเงินที่กูจริงนั้น เชน มีการตกลงกูยืมเงินกัน ๕๐๐ บาท แตมีการตกลงให
รับขาวสารแทน ๒ กระสอบ ซึ่งในขณะนั้นขาวสารกระสอบละ ๑๕๐ บาท ดังนั้น เราถือวามีการกูยืมเงิน
กันจริงเพียง ๓๐๐ บาทเทานั้น
๔. อายุความ
การฟองรองเรียกเงินตามสัญญากูจะตองกระทําภายในกําหนดอายุความ ซึ่งกฎหมายกําหนดไววา
จะตองฟองภายใน ๑๐ ปนับแตวันที่ถึงกําหนดชําระเงินคืน
ตัวอยาง แดง กูยืมเงิน ดํา เมื่อ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๐ จํานวน ๑๐,๐๐๐ บาท เปนเวลา ๑ ป
ดังนั้นหนี้รายนี้ถึงกําหนดในวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๑ ผูใหกูตองฟองเรียกเงินที่กูยืมคืน ภายใน
๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๑
๕. ขอควรระมัดระวังในการกูยืม
(๑) อยาไดลงลายมือชื่อในกระดาษเปลาเปนอันขาด
(๒) อยาไดนําโฉนดไปใหเจาหนี้ยึดถือไวเปนประกัน
(๓) จะตองนับเงินใหถูกตองครบถวนตามสัญญา
(๔) ผูยืมจะตองเขียนจํานวนเงินเปนตัวหนังสือดวย
(๕) สัญญาที่กูตองทําอยางนอย ๒ฉบับ โดยใหผูกูยึดถือไวฉบับหนึ่ง และใหผูใหกูยึดถือไว
อีกฉบับหนึ่ง
(๖) ในสัญญากูควรมีพยานฝายผูกูลงลายมือชื่อเปนพยานอยางนอย ๑ คน
๖. ขอปฏิบัติในการชําระเงิน
เมื่อผูกูนําเงินไปชําระไมวาจะเปนการชําระทั้งหมดหรือบางสวนก็ตามผูกูควรทําอยางใดอยาง
หนึ่งดังตอไปนี้ มิฉะนั้นจะอางยันผูใหกูวาชําระเงินกูใหเขาคืนแลวไมได
Page 4
สิ่งที่ผูกูควรกระทําเมื่อชําระเงิน คือ
(๑) รับใบเสร็จเงินหรือหนังสือที่มีขอความวาไดชําระเงินที่กูมาแลวทั้งหมดหรือเพียงบางสวน
และมีลายเซ็นผูใหกูกํากับไวดวย
ตัวอยาง ขาพเจา นายสมศักดิ์ ร่ํารวยทรัพย ไดรับเงินคืนจาก นายดํา เกิดมาก ผูกูเปนจํานวน
๕,๐๐๐ บาท
ลงชื่อ สมศักดิ์ ร่ํารวยทรัพย ผูใหกู
๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๐
(๒) รับหนังสือสัญญากูเงินที่ไดทําไวแกผูใหกูคืนมาในกรณีที่ชําระเงินครบตามจํานวนเงินที่กู
(๓) มีการบันทึกลงในสัญญาก็วาไดนําเงินมาชําระแลวเทาไรและใหผูใหกูเซ็นชื่อกํากับไว ผูให
กูตองเซ็นชื่อกํากับไวทุกครั้งที่มีการชําระเงินจึงจะอางยันไดวาไดชําระเงินไปแลว
Page 5
ข. ค้ําประกัน
คนเราถาขัดสนเงินทองก็ตองกูเปนหนี้เขา แตเขาอาจจะไมยอมใหกูถาไมมีอะไรเปนหลักประกัน
ใหความมั่นใจวาเขาจะไดรับชําระหนี้คืน ค้ําประกันก็เปนหลักประกันอันหนึ่ง ค้ําประกัน คือการที่ใครคน
หนึ่งทําสัญญากับเจาหนี้วาถาลูกหนี้ไมชําระหนี้ ผูค้ําประกันจะชําระหนี้นั้นแทน เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้
เจาหนี้ก็ยอมมีสิทธิเรียกรองหรือฟองใหผูค้ําประกันรับผิดได
การที่จะฟองใหผูค้ําประกันรับผิดตามสัญญาค้ําประกันไดนั้น จะตองมีหลักฐานเปนหนังสือ ลง
ลายมือชื่อผูค้ําประกันเปนสําคัญมิใชตกลงกันดวยปากเปลาซึ่งฟองไมได ตามธรรมดาถาทําสัญญาค้ํา
ประกันตามแบบซึ่งมีขายอยูทั่วไป ก็ไมคอยมีปญหาเพราะเปนแบบซึ่งทําโดยผูรูกฎหมาย แตถาทํากันเองก็
อาจเกิดปญหาได ถาเราเปนเจาหนี้ก็ตองระมัดระวังในขอนี้ ในเอกสารนั้นตองมีขอความอันเปนสาระสําคัญ
วา ถาลูกหนี้ไมชําระหนี้ผูค้ําประกันจะชําระหนี้แทน มิฉะนั้นอาจฟองผูค้ําประกันไมได เพราะไมใชเปน
สัญญาค้ําประกันตามกฎหมาย
ขอบเขตความรับผิดชอบของผูค้ําประกัน
ผูค้ําประกัน จะไมจํากัดความรับผิดหรือจะจํากัดความรับผิดชอบของตนไวในสัญญาค้ําประกัน
ดวยก็ได ถาไมตองการรับผิดอะไรบาง หรือตองการจํากัดขอบเขตความรับผิดไวเพียงใด ก็ตองระบุใน
สัญญาใหชัดเจน เชน ลูกหนี้กูเงินเจาหนี้ ๑๐๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ยรอยละ ๑๕ ตอป ผูค้ําประกันจะ
จํากัดความรับผิดเฉพาะกรณีที่บุคคลนั้น ทําความเสียหายเนื่องจากทุจริตตอหนาที่ไมรวมถึงประมาทเลินเลอ
ดวยก็ได เมื่อจํากัดความรับผิดไวแลวก็รับผิดเทาที่จํากัดไว แตถาไมจํากัดความรับผิดเมื่อลูกหนี้ผิดสัญญา
ตอเจาหนี้ ไมชําระเงินหรือคาเสียหายมากนอยเพียงใด ผูค้ําประกันก็ตองรับผิดจนสิ้นเชิงเชนเดียวกับลูกหนี้
ทุกอยาง เมื่อทําสัญญาประกันแลวผูค้ําประกันตองผูกพันตามสัญญานั้น เจาหนี้มีสิทธิเรียกรองหรือฟองให
รับผิดได เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้ตามกําหนด
สิทธิของผูค้ําประกัน
(๑) เมื่อผูค้ําประกันถูกเรียกรองใหชําระหนี้แทนลูกหนี้ มิใชผูค้ําประกันตองชําระหนี้ทันทีแตมี
สิทธิที่จะเกี่ยงใหเจาหนี้ ไปเรียกรองเอาจากลูกหนี้กอนได ทั้งนี้ภายใตขอยกเวนบางประการและถา เจาหนี้
ฟองเปนจําเลยรวมกับลูกหนี้ก็ยังมีสิทธิพิสูจนตอศาลวาลูกหนี้มีทรัพยสินชําระหนี้ไดและการที่จะบังคับจาก
ลูกหนี้นั้นไมเปนการยาก ถาผูค้ําประกันนําพยานเขาสืบและฟงไดเชนนั้น ศาลก็ตองบังคับเอาจากทรัพยสิน
ของลูกหนี้กอนเพราะหนี้ที่ผูค้ําประกันตองชําระมิใชเปนหนี้ของผูค้ําประกันเอง ผูค้ําประกันเปนลูกหนี้
ชั้นที่สอง
Page 6
บางกรณีเจาหนี้เอาเปรียบลูกหนี้และผูค้ําประกัน ในสัญญาสําเร็จรูป จะมีความวา “ใหผูค้ํา
ประกันยอมรับผิดรวมกับลูกหนี้” คือเปนลูกหนี้รวมเทากับใหผูค้ําประกันรับผิดหนักขึ้น ดังนั้นกอนเซ็น
สัญญาค้ําประกัน จึงตองพิจารณาวาจะยอมรับผิดเชนนั้นหรือไม ถายอมรับผิดรวมกับลูกหนี้ก็ไมมีสิทธิที่
จะเกี่ยวดังกลาวขางตน
(๒) เมื่อผูค้ําประกันชําระหนี้ใหแกเจาหนี้แลว ไมวาชําระแตโดยดี หรือชําระหนี้โดยถูกบังคับ
ตามคําพิพากษา ผูค้ําประกันก็มีสิทธิรับชวงสิทธิของเจาหนี้ ในอันที่จะเรียกเอาเงินชําระใหเจาหนี้ใชแลว
นั้น คืนจากลูกหนี้ไดตามจํานวนที่ชําระไปตลอดจนทั้งคาเสียหายตางๆเนื่องจากการค้ําประกัน
การเปนผูค้ําประกันนั้นมีแตเสีย ตามคําพังเพยที่วาเนื้อไมไดกินหนังไมไดรองนั่ง มีแตเอากระดูกมาแขวน
คอ เพราะฉะนั้นกอนที่จะเซ็นชื่อในสัญญาค้ําประกัน ตองพิจารณาตัวลูกหนี้ซึ่งเปนผูค้ําประกันจะชําระหนี้
แทนใหดีวามีความสามารถชําระหนี้ใหเจาหนี้ไดแคไหน และมีความซื่อสัตยสุจริตเพียงใด ทั้งตองพิจารณา
ขอความในสัญญาใหรอบคอบ บางทีกําหนดใหผูค้ําประกันรับผิดหนักขึ้น หรือสละสิทธิบางอยางอันอาจทํา
ใหไลเบี้ยเอาจากลูกหนี้ไมได เมื่อเขาใจขอความในสัญญาดีแลวจึงคอยลงชื่อในสัญญาค้ําประกัน
การพนความรับผิดของผูค้ําประกัน
เมื่อเซ็นชื่อในสัญญาแลวผูค้ําประกันก็มีภาระจะตองรับผิดตอเจาหนาที่จนกวาหนี้ของลูกหนี้
จะระงับไป ตราบใดที่หนี้ของลูกหนี้ยังมีอยูผูค้ําประกันก็ไมพนความรับผิด แตมีพฤติการณบางอยางที่
กฎหมายกําหนดไวใหผูค้ําประกันพนความรับผิด
(๑) เจาหนี้ผอนเวลาใหแกลูกหนี้ คือถาไดกําหนดวันชําระหนี้ไวแนนอนแลว เจาหนี้ยืดเวลา
ตอไปอีกผูค้ําประกันก็พนความรับผิด
(๒) เมื่อหนี้ของลูกหนี้ถึงกําหนดชําระแลว ผูค้ําประกันเอาเงินไปชําระแกเจาหนี้ไวแนนอนแลว
แตเจาหนี้ไมยอมรับโดยไมมีเหตุอันจะอางกฎหมายไดผูค้ําประกันก็หลุดพนจากความรับผิดเชนเดียวกัน
Page 7
ค. จํานอง
จํานองก็เปนหลักประกันอีกประการหนึ่ง จํานอง คือ การที่ใครคนหนึ่งเรียกวา ผูจํานอง เอา
อสังหาริมทรัพยอันไดแกที่ดินบานเรือนเปนตนไปตราไวแกบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกวาผูรับจํานอง หรือ
นัยหนึ่งผูจํานองเอาทรัพยสินไปทําหนังสือจดทะเบียนตอเจาพนักงานเพื่อเปนการประกันการชําระหนี้ของ
ลูกหนี้โดยไมตองสงมอบทรัพยที่จํานองใหเจาหนี้ผูจํานองอาจเปนตัวลูกหนี้เองหรือจะเปนบุคคลภายนอก
ก็ได เชน นายดํากูเงินนายแดง ๑๐๐,๐๐๐บาท เอาที่ดินของตนเองจํานองหรือนายเหลืองซึ่งเปนบุคคล
ภายนอกเอาที่ดินจํานองจดทะเบียนที่สํานักงานที่ดินเปนประกันหนี้ของนายดําก็ทําไดเชนเดียวกัน เมื่อ
จํานองแลวถาลูกหนี้ไมชําระหนี้เจาหนี้ก็มีอํานาจยึดทรัพยที่จํานองออกขายทอดตลาดเอาเงินชําระหนี้ได
และมีสิทธิพิเศษไดรับชําระหนี้กอนเจาหนี้ธรรมดาทั่วไป
กูเงินแลวมอบโฉนด หรือ น.ส.๓ใหเจาหนี้ยึดไวมิใชจํานอง เจาหนี้ไมมีสิทธิพิเศษเปนเพียง
เจาหนี้ธรรมดาแตมีสิทธิยึดโฉนดหรือน.ส.๓ไวตามขอตกลงจนกวาลูกหนี้ชําระหนี้ฉะนั้นถาจะทําจํานองก็
ตองจดทะเบียนใหถูกตอง
ทรัพยสินที่จํานอง
ทรัพยสินที่จํานองไดคืออสังหาริมทรัพยอันหมายถึงทรัพยที่ไมสามารถเคลื่อนที่ไดเชนที่ดิน
บานเรือน เรือกสวนไรนา เปนตน นอกจากนั้นสังหาริมทรัพยที่เคลื่อนที่ไดบางอยาง เชน เรือกําปน
เรือกลไฟ แพที่อยูอาศัยและสัตวพาหนะถาไดจดทะเบียนไวแลวก็อาจนํามาจํานองไดดุจกันเมื่อเจาของ
ทรัพยนําไปจํานองไมจําเปนตองสงมอบทรัพยที่จํานองใหแกเจาหนี้เจาของยังคงครอบครองใชประโยชน
เชนอาศัยอยูในบานหรือทําสวนไรหาผลประโยชนไดตอไปนอกจากนั้นอาจจะโอนขายหรือนําไปจํานอง
เปนประกันหนี้รายอื่นตอไปก็ยอมไดสวนเจาหนี้นั้นการที่ลูกหนี้นําทรัพยไปจดทะเบียนจํานองก็นับไดวา
เปนประกันหนี้ไดอยางมั่นคงไมจําเปนตองเอาทรัพยนั้นมาครอบครองเอง
ผูจํานองตองระวัง
ผูมีสิทธิจํานองได คือเจาของหรือผูมีกรรมสิทธในทรัพยสิน ถาเจาของจํานองทรัพยสินดวยตน
เองก็ไมมีปญหา แตถามอบอํานาจใหผูอื่นไปทําการจํานองแทน บางกรณีก็อาจเกิดปญหาได ขอควร
ระมัดระวังคือควรเขียนใบมอบฉันทะหรือใบมอบอํานาจใหชัดเจนวาทําการจํานองไมควรเซ็นแตชื่อแลว
ปลอยวางไวอันบุคคลอื่นนั้นอาจกรอกขอความเอาเองแลวนําไปทําประการอื่นอันไมตรงตามความประสงค
ของเรา เชน อาจเพิ่มเติมขอความวามอบอํานาจใหโอนขาย แลวขายเอาเงินไปใชประโยชนสวนตัวเสีย
เปนตนเราผูเปนเจาของทรัพยผูมอบอํานาจอาจจะตองถูกผูกพันตามสัญญาซื้อขายนั้นเพราะถือวาประมาท
เลินเลออยูดวย
Page 8
ผูรับจํานองตองระวัง
ผูรับจํานองทรัพยสินก็ตองระมัดระวังเชนกัน ควรติดตอกับเจาของทรัพยหรือเจาของที่ดินโดย
ตรง และควรตรวจดูที่ดินทรัพยสินที่จํานองวามีอยูจริงตรงกับโฉนด เคยปรากฏวามีผูนําโฉนดที่ดินไป
ประกันผูตองหาหรือจําเลยแตที่ดินตามโฉนดนั้นกลับเปนถนนเหลือจากการจัดสรรหรือที่ดินตามโฉนดนั้น
พังลงน้ําไปหมดแลวดังนั้นผูรับจํานองจึงไมควรรับจํานองหรือติดตอสัญญากับคนอื่นหรือผูที่อางวาเปน
ตัวแทนเพราะถาปรากฏในภายหลังวาบุคคลนั้นทําใบมอบฉันทะหรือใบมอบอํานาจปลอมขึ้นแลวนําที่ดิน
ของผูอื่นมาจํานองโดยชําระหนี้ใหแกเจาหนี้มิฉะนั้นเจาหนี้ก็มีสิทธิที่จะบังคับจํานองยึดทรัพยเอาที่ดินออก
ขายทอดตลาดซึ่งถาผูรับโอนสูราคาไมไดทรัพยหลุดมือไปเปนของคนอื่นดังนั้นที่ซื้อมาก็เสียเงินเปลา
ผูรับโอนและผูรับจํานองซอนก็ตองระวัง
ทรัพยที่จํานองนั้นเจาของจะนําไปจํานองซ้ํา หรือโอนขายตอไปก็ยอมทําได ผูรับจํานองคนหลัง
ตองพิจารณาวาทรัพยนั้นเมื่อขายทอดตลาดจะมีเงินเหลือพอชําระหนี้ของตนหรือไมเพราะเจาหนี้คนแรกมี
สิทธิไดรับชําระหนี้กอน คนหลังมีสิทธิแตเพียงจะไดรับชําระหนี้เฉพาะสวนที่เหลือ ผูรับโอนหรือผูซื้อ
ทรัพยที่จํานองก็ตองระวังเชนเดียวกัน เพราะรับโอนทรัพยโดยมีภาระจํานองก็ตองไถถอนจํานองโดยชําระ
หนี้ใหแกเจาหนี้มิฉะนั้นเจาหนี้ก็มีสิทธิที่จะบังคับจํานองยึดทรัพยเอาที่ดินออกขายทอดตลาดซึ่งถาผูรับโอน
สูราคาไมไดทรัพยหลุดมือไปเปนของคนอื่นดังนั้นที่ซื้อมาก็เสียเงินเปลา
Page 9
ง. จํานํา
สัญญาจํานําคือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกวาผูจํานําสงมอบสังหาริมทรัพยใหแกบุคคลอีกคน
หนึ่งเปนผูครอบครองเรียกวาผูรับจํานําเพื่อประกันการชําระหนี้ทรัพยสินที่จํานําไดคือทรัพยสินที่สามารถ
เคลื่อนที่ไดเชนวิทยุโทรทัศนชางมาโคกระบือและเครื่องทองรูปพรรณสรอยแหวนเพชรเปนตน
ตัวอยางเชนนายกกูเงินนายขจํานวน๕๐,๐๐๐บาทเอาแหวนเพชรหนึ่งวงมอบใหนายขยึดถือ
ไวเปนประกันการชําระหนี้เรียกวานายกเปนผูจํานําและนายขเปนผูรับจํานําผูจํานําอาจเปนบุคคลภาย
นอกเชนถาแทนที่นายกจะเปนผูสงมอบแหวนเพชรใหเจาหนี้กลับเปนนายคก็เรียกวาเปนผูจํานําผูจํานํา
ไมจําเปนตองเปนลูกหนี้เสมอไป
ผูรับจํานําตองระวัง
ผูจํานําตองเปนเจาของทรัพยคือมีกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินที่จํานําใครอื่นจะเอาทรัพยของเขาไป
จํานําหาไดไมเพราะฉะนั้นถายักยอก ยืมหรือลักทรัพยของเขามาหรือไดทรัพยของเขามาโดยไมชอบดวย
กฎหมายประการอื่นแลวเอาไปจํานําเจาของอันแทจริงก็ยอมมีอํานาจติดตามเอาคืนไดโดยไมตองเสียคาไถ
เพราะฉะนั้นผูรับจํานําตองระวังควรรับจํานําจากบุคคลที่รูจักและเปนเจาของทรัพยเทานั้นมิฉะนั้นอาจจะ
เสียเงินเปลาๆ
สิทธิหนาที่ผูรับจํานํา
เมื่อรับจํานําแลวทรัพยสินที่จํานําก็อยูในความครอบครองของผูรับจํานําตลอดไป จนกวาผูรับ
จํานําจะรับคืนไปโดยการชําระหนี้ในระหวางนั้น
ผูรับจํานํามีหนาที่เกี่ยวกับทรัพยสินที่จํานําบางประการ
๑. ตองเก็บรักษาและสงวนทรัพยที่จํานําใหปลอดภัยไมใหสูญหายหรือเสียหายเชน รับจํานํา
แหวนเพชรก็ตองเก็บในที่มั่นคงถาประมาทเลินเลอวางไวไมเปนที่เปนทางคนรายลักไปอาจจะตองรับผิดได
๒. ไมเอาทรัพยที่จํานําออกไปใชเองหรือใหบุคคลภายนอกใชสอยหรือเก็บรักษามิฉะนั้นถาเกิด
ความเสียหายใดๆขึ้นตองรับผิดชอบเชนเอาแหวนที่จํานําสวมใสไปเที่ยวถูกคนรายจี้เอาไปก็ตองใชราคา
ใหเขา
๓. ทรัพยสินที่จํานําบางอยาง ตองเสียคาใชจายในการบํารุงรักษา เชน จํานําสุนัขพันธุดี โค
กระบือหรือมาแขงอาจจะตองเสียคาหญาอาหารและยารักษาโรค ผูจํานําตองชดใชแกผูรับจํานํามิฉะนั้น
ผูรับจํานําก็มีสิทธิยึดหนวงทรัพยที่จํานําไวกอนไมยอมคืนใหจนกวาจะไดรับชําระหนี้ครบถวน
Page 10
การบังคับจํานํา
เมื่อหนี้ถึงกําหนดลูกหนี้ไมชําระหนี้ผูรับจํานําก็มีสิทธิบังคับจํานําไดคือ
๑. เอาทรัพยสินที่จํานําออกขายทอดตลาด คือกระทําไดเองไมตองขออํานาจซึ่งตามธรรมดาก็ให
บุคคลซึ่งมีอาชีพทางดําเนินธุรกิจขายทอดตลาดเปนผูขาย แตกอนที่จะขายทอดตลาดผูรับจํานําจะตองบอก
กลาวเปนหนังสือไปยังลูกหนี้กอนใหชําระหนี้และหนี้ที่เกี่ยวเนื่องกันเชนดอกเบี้ยคารักษาทรัพยที่จํานํา
เปนตนภายในเวลาอันสมควร
๒. ถาผูรับจํานําไมบังคับตามวิธีที่ ๑เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้เพื่อไถถอนทรัพยที่จํานําคืนไป
เจาหนี้ผูรับจํานํายื่นฟองตอศาลใหขายทอดตลาดทรัพยที่จํานําก็ยอมไดไมมีอะไรหาม
ขอสังเกต
(๑) เงินที่ไดจากการขายทอดตลาดตองนํามาชําระหนี้พรอมดวยอุปกรณคือคาใชจายตางๆถามี
เงินเหลือก็คืนแกผูจํานําไปเพราะเปนเจาของทรัพย ถามีเจาหนี้หลายคนผูรับจํานําก็มีสิทธิไดรับชําระหนี้
กอนเจาหนี้อื่น
(๒) เมื่อถึงกําหนดชําระหนี้แลวคูสัญญาจะตกลงกันใหทรัพยสินที่จํานําตกเปนของผูรับจํานําก็
ยอมทําไดถือวาเปนการชําระหนี้ดวยของอื่นแตจะตกลงกันเชนนี้ในขณะทําสัญญาจํานําหรือกอนหนี้ถึง
กําหนดหาไดไม
Page 11
จ. ซื้อขาย
ในชีวิตประจําวันของเราแตละคนนั้น ตองทําสัญญากันวันละหลายๆครั้ง ในบางครั้งเราเองอาจ
จะ ไมรูสึกวาเปนการทําสัญญา เพราะเปนไปในลักษณะของความเคยชินที่เกิดขึ้นในแตละวัน สัญญาที่ทํากัน
บอยมากนั้น ก็ไดแก สัญญาซื้อขาย เพียงแคเราตื่นขึ้นมา เราอาจตองทําสัญญาซื้อยาสีฟน แปรงสีฟน ตอง
ทําสัญญาซื้อขาว รับประทานหรือซื้อเครื่องดื่ม แมแตโคกแกวเดียว ก็ถือวาเราไดทําสัญญาซื้อขายแลว
ดังนั้น เราจะเห็นไดวา การซื้อขายที่ทํากันโดยปกติทั่วไปดังที่ไดยกตัวอยางมานั้นไมไดมีปญหา หรือ
ความสลับซับซอนอะไรมากมาย จนจะทําใหเราตองนึกถึงกฎหมายในเรื่องของสัญญาซื้อขาย แตเนื่องจาก
การซื้อขายทรัพยสินบางอยางในปจจุบันอาจเปนสินทรัพยที่มีราคาคางวด หรือมีความสําคัญตอชีวิตของเรา
อยางมาก กฎหมายจึงกําหนดวิธีการในการซื้อขายทรัพยสินดังกลาวไวเปนพิเศษวา สัญญาซื้อขายทรัพยสิน
ดังกลาวนั้นจะตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ เพื่อที่ผูซื้อหรือผูขายจะไดคิด
ไตรตรองใหรอบคอบกอนที่จะทําการซื้อขายกันใหเสร็จสิ้นไป และเพื่อที่จะไดมีหลักฐานในการซื้อขายกัน
อยางชัดเจน ตลอดทั้งการที่จะรูแนนอนวาใครเปนเจาของทรัพยสิน ดังกลาวนั้น การซื้อขายทรัพยสิน
เหลานี้ก็เชน การซื้อขายบานและที่ดินที่เราใชอยูอาศัย เปนตน
ดังนั้น เราจึงควรทําความเขาใจหลักเกณฑในการซื้อขายทรัพยสินประเภทตางๆ ไวบาง เพื่อ
หลีกเลี่ยงปญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได
สําหรับสัญญาซื้อขายนั้น ก็คือ สัญญาที่ผูขายโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินใหแกผูซื้อ และผูซื้อ
ตกลงวา จะใชราคาทรัพยสินนั้นใหแกผูขาย
การโอนกรรมสิทธิ์ หมายถึง การโอนความเปนเจาของในทรัพยสิน ที่ซื้อขายนั้นไปใหแกผูซื้อ
ผูซื้อเมื่อไดเปนเจาของก็สามารถที่จะใช ไดรับประโยชน หรือจะขายตอไปอยางไรก็ได
สําหรับเรื่องราคาทรัพยสิน จะชําระเมื่อไรนั้นเปนเรื่องที่ผูซื้อผูขายจะตองตกลงกัน ถาตกลงกัน
ใหชําระราคาทันทีก็เปนการซื้อขายเงินสด ถาตกลงกันชําระราคาในภายหลังในเวลาใดเวลาหนึ่งเพียงครั้งเดียว
ตามที่ตกลงกันก็เปนการซื้อขายเงินเชื่อ แตถาตกลงผอนชําระใหกันเปนครั้งคราวก็เปนการซื้อขายเงินผอน สําหรับ
การซื้อขายเงินผอนนั้นเปนที่นิยมมากในปจจุบัน เนื่องจากความตองการในทางวัตถุมีมาก แตรายไดมีนอย
ไมเพียงพอที่จะซื้อสิ่งอํานวยความสะดวกไดทันทีหลายๆอยาง เชน โทรทัศน วิทยุ ตูเย็น วิดีโอ ก็เลย
นิยมที่จะซื้อเงินผอน
อยางไรก็ตาม โดยปกติในการทําสัญญาซื้อขายทรัพยสินนั้นทันทีที่ทําสัญญา กรรมสิทธิ์ในทรัพย
สินชิ้นนั้นก็จะโอนไปยังผูซื้อทันที แมวาจะยังไมไดสงมอบทรัพยสินชิ้นนั้นใหผูซื้อหรือแมผูซื้อจะยังไมไดชําระ
เงินคาทรัพยสินนั้นก็ตาม ผูซื้อก็ไดความเปนเจาของไปแลว ยกเวนแตในกรณีของการซื้อเงินผอนนั้น ผูซื้อ
และผูขายอาจจะตกลงกันวาเมื่อผอนชําระเงินกันเสร็จแลว กรรมสิทธิ์คอยโอนไปเชนนี้ก็ทําได แตเนื่องจาก
การซื้อเงินผอนนี้ ผูซื้อมักไดทรัพยสินไปใชกอน แลวคอยๆผอนใชราคาทรัพยสินที่จะตองจายจึงมักจะ
รวมดอกเบี้ยไปดวย ทําใหผูซื้อซื้อทรัพยสินนั้นในราคาที่แพงกวาทองตลาดหรือเมื่อซื้อเปนเงินสด ดังนั้น
Page 12
หากผูซื้อไมลําบากจนเกินไปในการซื้อเปนเงินสดแลว ก็ควรจะซื้อเปนเงินสด จะไดประหยัดไมตองซื้อ
ของแพง
๑. หลักเกณฑในการทําสัญญาซื้อขาย
(๑) ตองมีบุคคล คือ ตัวผูซื้อและตัวผูขาย ซึ่งทั้งสองคนนั้นจะตองมีความคิด สติปญญาพอสม
ควรที่จะตัดสินใจทําสัญญากันไดเอง ซึ่งก็คือ ตองเปนคนบรรลุนิติภาวะ โดยปกติก็คือมีอายุ ๒๐ ป
บริบูรณ
(๒) ผูซื้อตองมีความตองการที่จะซื้อและผูขายตองมีความตองการที่จะขายทรัพยสินสิ่งนั้นจริง
ๆโดยทั้งสองฝายไดแสดงความตองการของตนใหอีกฝายหนึ่งรูดวย
(๓) ผูซื้อและผูขายตองมีเปาหมายในการทําสัญญาซื้อขาย ซึ่งก็คือ ผูซื้อมีเปาหมายที่จะได
กรรมสิทธิ์หรือความเปนเจาของทรัพยสินนั้น สวนผูขายก็มีเปาหมายที่จะไดเงินหรือราคาของทรัพยสินนั้น
และเปาหมายของทั้งสองฝายนี้จะตองไมมีกฎหมายหาม ไมขัดตอความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของ
ประชาชน และตองเปนเปาหมายที่อาจจะเกิดขึ้นไดดวย ตัวอยาง แดงทําสัญญาซื้อเฮโรอีนจากดํา สัญญา
ซื้อขายนี้บังคับกันไมได เพราะการซื้อขายเฮโรอีนมีเปาหมายที่ผิดกฎหมาย หรือเขียวทําสัญญาซื้อบานจาก
เหลืองเพื่อทําเปนซองโสเภณี สัญญาซื้อขายนี้ก็บังคับไมไดเพราะเปนเปาหมายขัดตอความสงบเรียบรอยของ
ประชาชน หรือขาวทําสัญญาขายเด็กหญิงฟา ซึ่งเปนบุตรสาวใหกับน้ําเงิน สัญญาซื้อขายนี้ก็บังคับไมได
เพราะมีเปาหมายขัดตอศีลธรรมอันดีของประชาชน
(๔) ผูขายตองโอนกรรมสิทธิ์ใหกับผูซื้อ เราตองเขาใจดวยวาการโอนกรรมสิทธิ์นี้ ตัว
กรรมสิทธิ์เปนสิ่งที่ไมมีตัวตนแตเปนสิ่งที่กฎหมายสมมติขึ้น การโอนกรรมสิทธิ์จึงอาจจะเกิดขึ้น แมวาผูซื้อ
จะยังไมไดรับมอบทรัพยไปไวใชสอยหรือไปไวในความครองครองก็ตาม
(๕) ผูซื้อตองตกลงวาจะชําระราคาทรัพยสินนั้นใหกับผูขาย ในกรณีนี้เพียงแตตกลงวาจะชําระ
ก็พอแลว ยังไมจําเปนตองมีการชําระกันจริงๆก็ได
๒. วิธีการในการทําสัญญาซื้อขาย
(๑) วิธีการในการทําสัญญาซื้อขายโดยปกติ คือการที่ผูซื้อและผูขายตางไดแสดงความจํานงวา
ตองการซื้อขายทรัพยสินสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งการแสดงความจํานงนั้นอาจจะทําโดยปากเปลาก็ได หรือทําเปน
ลายลักษณอักษรก็ได หรือโดยวิธีการอยางอื่นก็ได และสําหรับตัวทรัพยสินที่จะซื้อขายกัน โดยวิธีนี้ได คือ
สังหาริมทรัพยธรรมดา ซึ่งก็คือทรัพยสินที่สามารถจะโยกยายเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได เชน
โทรทัศน พัดลม โตะ เกาอี้ รถยนต ปากกา ดินสอ ไมบรรทัด เปนตน สําหรับการซื้อขายทรัพยสิน
ประเภทนี้ เมื่อไมตองทําตามวิธีการเฉพาะอะไร ฉะนั้น เมื่อมีการตกลงซื้อขายกันแลวกรรมสิทธิ์โอนไป
ทันที และการเกิดสัญญาซื้อขายยังเปนการกอใหเกิด “หนี้” ที่ฝาย ผูซื้อและผูขายจะตองชําระใหแกกันอีก
ดวย
Page 13
(๒) วิธีการเฉพาะที่กฎหมายกําหนดไวใหผูซื้อผูขายตองทํา และถาไมทําตามที่กฎหมายกําหนด
ไวแลว สัญญาซื้อขายนั้นแมจะไดตกลงวาจะซื้อจะขายก็ไมอาจบังคับกันได เพราะกฎหมายถือวาเสียเปลา
หรือเปนโมฆะ คือ ใชไมไดนั่นเอง
วิธีการเฉพาะดังกลาวนี้คือ การทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ ซึ่งกฎหมาย
กําหนดไวสําหรับทรัพยสินบางประเภท คือ อสังหาริมทรัพยและสังหาริมทรัพยชนิดพิเศษ ซึ่งขออธิบาย
ใหเขาใจดังนี้
(ก) อสังหาริมทรัพย หมายถึง ทรัพยที่เคลื่อนที่ไมได ไดแก
๑) ที่ดิน
๒) ทรัพยที่ติดกับที่ดินในลักษณะตรึงตราแนนหนาถาวร เชน บานเรือน ตึกแถว อาคาร
สิ่งปลูกสรางซึ่งตรึงตรากับที่ดินอยางถาวร ไมยืนตน เปนตน
๓) ทรัพยซึ่งประกอบเปนอันเดียวกับที่ดิน เชน แมน้ํา ลําคลอง แรธาตุ กรวด ทราย
เปนตน
๔) สิทธิทั้งหลายอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เชน ภาระจํายอม สิทธิอาศัย สิทธิเก็บ
กิน และสิทธิจํานอง เปนตน
(ข) สังหาริมทรัพยชนิดพิเศษ ไดแก
๑) เรือกําปน หรือเรือมีระวางตั้งแต ๖ ตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนตมีระวางตั้งแต
๕ ตันขึ้นไป
๒) แพ หมายความเฉพาะแตแพที่เปนที่อยูอาศัยของคน
๓) สัตวพาหนะ หมายความถึงสัตวที่ใชในการขับขี่ลากเข็ญ และบรรทุก ซึ่งสัตวเหลานี้
ตองทําตั๋วรูปพรรณแลว ไดแก มา ชาง โค กระบือ
สําหรับสถานที่รับจดทะเบียนตามประเภทของทรัพย คือ
๑. ที่ดิน
(ก) ถาเปนที่ดินมีโฉนด ตองไปขอจดทะเบียนตอเจาพนักงานที่ดิน ณ สํานักงานที่ดินจังหวัด
หรือ สํานักงานที่ดินสาขา
(ข) ถาเปนที่ดินมีหนังสือสําคัญอยางอื่น เชน น.ส.๓ ตองไปขอจดทะเบียนตอนายอําเภอ ณ
ที่วาการอําเภอ
(ค) ถาเปนการจดทะเบียนเกี่ยวกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสรางอยางอื่น เชน จดทะเบียนเชาอาคาร
บานเรือน ตองไปขอจดทะเบียนตอนายอําเภอ ณ ที่วาการอําเภอ แตถาจดทะเบียนโรงเรือนรวมกับที่ดินมี
โฉนด ตองไปขอจดทะเบียนที่สํานักงานที่ดินจังหวัด หรือถาจดทะเบียนรวมกับที่ดินที่มี น.ส.๓ ก็ตองไปขอ
จดทะเบียน ณ สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินสาขาดวยเชนกัน
Page 14
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามความดังกลาว สําหรับที่ดินมีโฉนด หรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชน คูกรณีอาจยื่นคําขอตอพนักงานเจาหนาที่ ณ กรมที่ดิน เพื่อใหพนักงานเจาหนาที่ดังกลาว
ดําเนินการจดทะเบียนใหก็ได เวนแตการจดทะเบียนที่ตองมีการประกาศหรือตองมีการรังวัด
๒. เรือ การจดทะเบียน การเปลี่ยนใบอนุญาต และการเปลี่ยนชื่อเจาของเรือตองทําตอ
นายทะเบียน ณ กรมเจาทา
๓. แพ ตองจดทะเบียนตอนายอําเภอ ณ ที่วาการอําเภอ หรือเขต
๔. สัตวพาหนะ ตองจดทะเบียนตอนายอําเภอ หรือผูที่ไดรับมอบหมายจากรัฐมนตรีผูรักษาการ
ณที่วาการอําเภอ
๓. สาระสําคัญของสัญญาซื้อขาย
(ก) ตองมีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินที่ซื้อขาย
ปญหาวากรรมสิทธิ์ในทรัพยสินที่ซื้อขายนั้นโอนไปเมื่อไร
หลัก กรรมสิทธิ์ในทรัพยสินนั้นจะโอนไปยังผูซื้อตั้งแตเมื่อไดตกลงทําสัญญาซื้อขายกัน
ขอยกเวน กรรมสิทธิ์ในทรัพยสินนั้นยังไมโอนไป ในกรณีดังตอไปนี้
๑) สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดที่มีเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ซึ่งกรรมสิทธิ์จะโอนก็ตอเมื่อเกิด
เงื่อนไขหรือถึงกําหนดเงื่อนเวลา
สําหรับสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไขนั้น หมายถึง การที่ผูซื้อผูขายตกลงกันเอาเหตุการณใน
อนาคตที่ ไมแนนอนบางอยางมากําหนดไววา ถาเหตุการณนั้นเกิด กรรมสิทธิ์ก็โอน เพราะฉะนั้น
กรรมสิทธิ์จึงยังไมโอนจนกวาเหตุการณนั้นเกิด ตัวอยางเชน จอยตกลงซื้อเครื่องสีขาวโดยผอนใชเงินกับ
ดวง โดยมีขอตกลงกันวา เครื่องสีขาวยังเปนของดวงอยูจนกวาจะใชเงินเสร็จ เชนนี้ตราบใดที่จอยยังไมใช
เงินจนครบจํานวนก็จะไมไดกรรมสิทธิ์ในเครื่องสีขาวนั้น
สวนสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนเวลานั้น หมายถึง การที่ผูซื้อผูขายตกลงกันใหกรรมสิทธิ์ใน
ทรัพยสินที่ ซื้อขายนั้นโอนไปเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งไดกําหนดไว ตัวอยางเชน นายดําขายขาวให
นายขาว แตตกลงกันวาใหกรรมสิทธิ์ในขาวนั้นโอนไปยังนายขาวเมื่อถึงสิ้นเดือนสิงหาคม เชนนี้ตราบใดที่
ยังไมถึงสิ้นเดือนสิงหาคม กรรมสิทธิ์ในขาวนั้นก็ยังไมโอนไปยังนายขาว
๒) สัญญาซื้อขายทรัพยที่ยังไมเปนทรัพยเฉพาะสิ่ง หมายถึง สัญญาซื้อขายทรัพยสินที่ยัง
ไมไดกําหนดประเภทหรือจํานวนไวแนนอนวาอันไหน สิ่งไหน ตัวไหน ในกรณีเชนนี้กรรมสิทธิ์จะโอนก็
ตอเมื่อไดทําใหเปนทรัพยเฉพาะสิ่งแลว โดยการนับ ชั่ง ตวง วัด หรือคัดเลือกทรัพย เพื่อใหเกิดความ
แนนอนวาชิ้นไหน อันไหน ตัวไหน หรือจํานวนไหน ตัวอยางเชน ตกลงซื้อมะพราว ๕๐ ลูก ซึ่งรวมอยู
ในกองใหญ กรรมสิทธิ์ยังไมโอนจนกวาจะเลือกมะพราว ๕๐ ลูกนั้นออกมาจากกองกอน
๓) สัญญาซื้อขายทรัพยเฉพาะสิ่งที่ยังตองดําเนินการบางอยางเพื่อใหรูราคาแนนอน ใน
กรณีนี้กรรมสิทธิ์ยังไมโอนไปจนกวาจะไดมีการกระทํา เพื่อใหรูราคานั้นกอน ตัวอยางเชน ซื้อมะพราว
Page 15
ทั้งกองในราคาลูกละ ๑ บาท ความจริงมะพราวทั้งกองนั้นก็เปนทรัพยเฉพาะสิ่งแลว เพียงแตยังไมทราบวา
มะพราวทั้งกองนั้น มีกี่ลูกเพื่อที่จะคํานวณราคาเทานั้น เพราะฉะนั้นจะตองรูกอนวามะพราวกองนั้นมีกี่ลูก
กรรมสิทธิ์จึงจะโอน
๔) การซื้อขายอสังหาริมทรัพยหรือสังหาริมทรัพยชนิดพิเศษกรรมสิทธิ์จะโอนก็ตอเมื่อมี
การทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่เรียบรอยแลว
(ข) ตองมีการตกลงวาจะชําระราคา เพียงแตตกลงกันวาจะชําระราคาก็เปนการเพียงพอแลว
ยังไมตองชําระราคากันทันที จะตกลงชําระกันในภายหลัง หลังจากที่สัญญาเกิดขึ้นแลวก็ได
(ค) บุคคลที่มีสิทธิทําสัญญา ดังไดกลาวมาในตอนแรกแลววาทั้งผูซื้อและผูขายจะตองเปนคน
บรรลุ นิติภาวะ คืออายุ ๒๐ ปบริบูรณ หรือบรรลุนิติภาวะโดยการสมรส ถาทั้งชายและหญิงตางมีอายุ ๑๗
ปบริบูรณแลว อยางไรก็ตาม เหตุการณที่เราพบกันอยูในชีวิตประจําวัน จะเห็นวาผูเยาวหรือคนที่ยังไมบรรลุ
นิติภาวะตางก็ไปทําสัญญาซื้อขายตางๆมากมาย เชน ซื้อสมุด ดินสอ ยางลบ หรืออาหารกลางวันรับ
ประทานที่โรงเรียนตรงนี้ปญหาวาเขาจะทําไดหรือไม คําตอบอยูในบทยกเวนในเรื่องการทํานิติกรรมของผูเยาว
ซึ่งในกรณีเหลานี้ถือวาสามารถที่จะทําได เพราะเปนการกระทําที่สมแกฐานานุรูปและจําเปนแกการดํารงชีพ
ดวย
สําหรับผูซื้อนั้น เมื่อมีคุณสมบัติที่กลาวขางตนก็พอเพียงที่จะเปนผูซื้อแลว สําหรับผูขายนั้นเพียง
แตบรรลุนิติภาวะอยางเดียวยังไมพอ ยังตองเปนผูมีสิทธิที่จะขายทรัพยสินนั้น เพื่อที่ผูซื้อจะไดกรรมสิทธิ์โดย
สมบูรณไดอีกดวย
สําหรับผูที่ถือวา “มีสิทธิที่จะขายทรัพยสิน” นั้น ไดแก
๑) เจาของกรรมสิทธิ์ หมายถึง ผูที่เปนเจาของทรัพยสินที่จะขายนั่นเอง ซึ่งตามหลักกฎหมาย
แลว ผูที่เปนเจาของกรรมสิทธิ์ยอมมีอํานาจในการจําหนายจายโอนทรัพยสินของตน ซึ่งคําวา “จําหนาย” ในที่
นี้หมายถึง การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินนั้นไมวาโดยการกระทําใดๆก็ตาม เพราะฉะนั้นในเวลาที่จะทําสัญญา
ซื้อขาย ผูซื้อก็จะตองมีความระมัดระวังพิจารณาดูใหดีวาผูขายเปนเจาของกรรมสิทธิ์หรือไม เพราะถาไมเปน
หากผูซื้อทําการซื้อไปก็จะไมไดกรรมสิทธิ์ ตามหลักเรื่อง “ผูรับโอนไมมีสิทธิดีกวาผูโอน” เพราะถาผูโอนหรือ
ผูขายในกรณีนี้ไมมีกรรมสิทธิ์ ผูรับโอนหรือผูซื้อก็ยอมไมมีกรรมสิทธิ์ไปดวย ตัวอยางเชน นายแดงซื้อเรือมาด
จากนายดําซึ่งเปนเรือมาดที่นายดําขโมยนายขาวมา เมื่อนายดําไมมีกรรมสิทธิ์ ไปขายใหนายแดง นายแดงก็ไมได
กรรมสิทธิ์ไปดวย เพราะเจาของกรรมสิทธิ์ที่แทจริงของเรือมาดลํานี้คือนายขาว
๒) บุคคลอื่นซึ่งมีสิทธิขายไดตามกฎหมาย เชน
๒.๑) ผูจัดการมรดก ซึ่งมีหนาที่ตามกฎหมายที่จะรวบรวมทรัพยสินของเจามรดกผูตาย
เพื่อชําระหนี้ และแบงปนใหแกทายาท
๒.๒) ผูใชอํานาจปกครอง ซึ่งมีสิทธิขายอสังหาริมทรัพยของผูอยูใตอํานาจปกครอง
เชน ของผูเยาว แตจะขายไดก็ตอเมื่อไดรับอนุญาตจากศาลแลว
๒.๓) เจาพนักงานขายทอดตลาดบังคับคดี มีสิทธิขายทอดตลาดทรัพยสินของลูกหนี้
ตามคําสั่งศาล
Page 16
๒.๔) เจาพนักงานพิทักษทรัพย มีอํานาจจัดการทรัพยสินของลูกหนี้ผูที่ถูกศาล
พิพากษาใหลมละลาย และมีอํานาจขายทรัพยสินของลูกหนี้ผูที่ถูกศาลพิพากษาใหลมละลายได
๔. หนาที่และความรับผิดของผูขาย
เมื่อสัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแลว กลาวคือเมื่อมีการแสดงเจตนาที่ประสงคตองตรงกันระหวางผูซื้อกับ
ผูขาย(ที่บรรลุนิติภาวะแลว) ในทรัพยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อที่ผูซื้อจะไดไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพยและเพื่อที่ผูขาย
จะไดรับราคาของทรัพยนั้น ดังนี้ เราเรียกวา สัญญาไดเกิดขึ้นแลว และผูขายก็มี “หนี้” หรือ “หนาที่” ที่จะ
ตองปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายตอไป ถาผูขายบิดพลิ้ว ไมยอมปฏิบัติตามนั้นยอมกอใหเกิด “ความรับผิด” ตามมา
สําหรับ “หนี้” หรือ “หนาที่” ของผูขายนั้น ไดแก
(๑) การสงมอบ ผูขายตองสงมอบทรัพยสินที่ขายใหแกผูซื้อดวยความสมัครใจ ซึ่งจะสงมอบดวยวิธี
การใดๆ ก็ได ขอเพียงใหทรัพยสินนั้นเขาไปอยูในเงื้อมมือของผูซื้อก็พอแลว เชน การสงมอบหนังสือ อาจใช
วิธียื่นใหการสงมอบรถยนต อาจใชวิธีสงมอบกุญแจก็ได แตที่สําคัญคือวาจะตองสงมอบภายในเวลาและ ณ สถาน
ที่ที่ตกลงกันไว ถาไมมีการตกลงกันและทรัพยที่ซื้อขายนั้นเปนทรัพยเฉพาะสิ่งแลว ตามกฎหมายผูขายตอง
สงมอบ ณ สถานที่ที่ทรัพยนั้นอยูในเวลาที่ทําสัญญาซื้อขาย แตถาไมใชทรัพยเฉพาะสิ่ง ตองสงมอบ ณ
ภูมิลําเนาปจจุบันของผูซื้อ
ผูขายตองสงมอบทรัพยสินตามจํานวนที่ตกลงกันไวไมมากเกินไป หรือไมนอยเกินไป และตอง
ไมนําทรัพยอื่นมาปะปนดวย เพราะถาสงมอบนอยเกินไปสําหรับสังหาริมทรัพย ผูซื้อมีทางเลือก ๒ ทาง
คือ (ก) ไมรับมอบไวเลย หรือ (ข) รับมอบไว แตใชราคานอยลงตามสวนของทรัพยสินที่สงมอบ แต
ถาสงมอบมากเกินไปสําหรับสังหาริมทรัพย ผูซื้อมีทางเลือก ๓ ทางคือ (ก) อาจจะรับไวเฉพาะตาม
จํานวนที่ตกลงกันในสัญญา และสวนที่เกินก็ไมรับเลยได (ข) ไมรับทั้งหมดเลย หรือ (ค) รับไวทั้งหมด
แตตองใชราคาสําหรับสวนที่รับเกินไวดวย สวนกรณีที่ผูขายสงมอบทรัพยสินตามสัญญาปะปนกับทรัพยสิน
อื่นๆ มาดวย ผูซื้อมีทางเลือก ๒ ทางคือ(ก) รับมอบเฉพาะทรัพยสินตามที่ตกลงในสัญญา และไมรับ
มอบ ทรัพยสินสวนที่ปะปนมา หรือ (ข) ไมรับมอบไวเลยไมวาสวนที่เปนไปตามสัญญาหรือสวนที่ปน
เขามา ก็ตาม
แตถาการสงมอบทรัพยสินที่มากเกินไปหรือนอยเกินไปนั้นเปนอสังหาริมทรัพย ผูซื้อมีทางเลือก
๒ ทางคือ (๑) รับมอบเฉพาะทรัพยตามจํานวนที่สัญญากันไว แลวใชราคาตามจํานวนที่รับไวจริง หรือ
(๒) ไมรับมอบไวเสียเลย
(๒) ผูขายตองสงมอบทรัพยสินที่ไมชํารุดบกพรอง ซึ่งความชํารุดบกพรองในที่นี้หมายถึง
ลักษณะที่ทรัพยสินที่ซื้อขายในตัวของมันเองมีความชํารุดหรือมีความบกพรองอยูจนเปนเหตุใหทรัพยนั้น
ราคาตกหรือไมเหมาะแกการใชประโยชนตามปกติหรือตามสภาพของทรัพยสินนั้น และความชํารุดหรือ
ความบกพรองนี้จะตองมีอยูกอนหรือในเวลาที่ทําสัญญาซื้อขายเทานั้น ตัวอยางเชน นายเขียวซื้อแจกันจาก
นายเหลืองหนึ่งใบในราคา ๕๐ บาท ปรากฏวากอนสงมอบหรือขณะสงมอบนั้นแจกันเกิดราวขึ้นมา
Page 17
นายเหลืองผูขายก็จะตองรับผิดไมวาจะรูหรือไมรูวามีความชํารุดบกพรองอยูก็ตาม ยิ่งถารูหรือเปนคนทําให
ทรัพยสินที่ซื้อขายนั้นชํารุดบกพรองเองดวยแลวยิ่งตองรับผิดเลยทีเดียว
อยางไรก็ตาม ในบางกรณีแมทรัพยสินที่ซื้อขายนั้นจะชํารุดบกพรองมากอน หรือในขณะที่ซื้อ
ขายกัน ผูขายอาจจะไมตองรับผิด ในกรณี
๑) ถาผูซื้อไดรูอยูแลวในเวลาซื้อขายวามีความชํารุดบกพรองหรือควรจะไดรู ถาเขาใช
ความระมัดระวังตามปกติ ตัวอยางเชน ผูซื้อเห็นทุเรียนเนาอยูแลวในเวลาซื้อขาย หรือผูขายเจาะไวใหดู
ควรจะดูก็ไมดู กลับซื้อไป ผูขายก็ไมตองรับผิด
๒) ถาความชํารุดบกพรองนั้นไดเห็นอยูแลวในเวลาสงมอบและผูซื้อรับไวโดยมิไดทัก
ทวงประการใด
๓) ถาผูซื้อทรัพยสินนั้นจากการขายทอดตลาด เพราะในการขายทอดตลาดนั้นเปนการ
ขายที่เปดเผยตอสาธารณะ ผูซื้อนาจะไดมีโอกาสตรวจสอบกอนแลว
๔) ทั้งผูซื้อและผูขายไดตกลงกันไววา ผูขายไมตองรับผิดในความชํารุดบกพรองของ
ทรัพยสินที่ซื้อขาย
(๓) ผูขายมีหนาที่ตองสงมอบทรัพยสินที่ปลอดจากการถูกรอนสิทธิ กลาวคือเมื่อผูขายสงมอบ
ทรัพยสินที่ซื้อขายไปแลว ผูซื้อจะตองไมถูกคนอื่นมารบกวนขัดสิทธิในการครองทรัพยสินนั้นโดยปกติสุข
ตัวอยางเชนนายแดงซื้อเรือมาดจากนายดํา ตอมานายขาวอางวาตนเปนเจาของเรือมาดที่แทจริง เพราะนายดํา
ไดขโมยเรือมาดของตนไป ดังนี้ ถือวาเปนกรณีที่บุคคลภายนอกเขามาอางวาตนมีสิทธิดีกวาผูซื้อ เทากับผูซื้อ
คือนายแดงถูกรอนสิทธิแลว
อยางไรก็ตาม มีบางกรณีที่ผูขายไมตองรับผิดเมื่อผูซื้อถูกรอนสิทธิ คือ
๑) ผูซื้อรูอยูแลวในเวลาซื้อขายวาบุคคลภายนอกมีสิทธิดีกวาเทากับสมัครใจยอมรับผลที่จะ
เกิดตามมา
๒) ถาการรอนสิทธิเกิดจากความผิดของผูซื้อเอง ในกรณีดังตอไปนี้
๒.๑) เมื่อไมมีการฟองคดีและผูขายพิสูจนไดวาสิทธิของผูซื้อไดสูญไปเพราะผูซื้อเอง
ตัวอยางเชน ผอมซื้อของมาจากอวน ตอมาโองมาบอกวาของนั้นเปนของโอง ผอมก็เชื่อและใหของนั้นแกโอง
ไปโดยไมถามอวน เชนนี้อวนไมตองรับผิด
๒.๒) เมื่อมีการฟองคดี และผูซื้อไมไดเรียกผูขายเขามาในคดี ทั้งผูขายยังพิสูจนได
วาถาไดเรียก เขามาในคดี คดีฝายผูซื้อจะชนะดังนี้ ผูขายก็ไมตองรับผิด
๒.๓) เมื่อมีการฟองคดี และผูขายไดเขามาในคดีแลว แตศาลยกคํารองเพราะความ
ผิดของผูซื้อเอง เชน ผูซื้อขาดนัด (ไมมาศาลตามเวลาที่ศาลนัดไว) หรือไมนําพยานมาสืบ
๓) มีขอตกลงในสัญญาวาผูขายไมตองรับผิดในการรอนสิทธิ แตขอตกลงไมใหผูขายตอง
รับผิดนี้ไมคุมครองผูขาย ถาการรอนสิทธิเกิดเพราะความผิดของผูขายเอง หรือผูขายรูอยูแลววามีการรอนสิทธิ
แตปกปดเสีย
Page 18
๕. สิทธิของผูซื้อ
เมื่อกลาวถึง “หนี้” หรือ “หนาที่” ของผูขายแลว ยอมตองมีสิทธิของผูซื้ออยูดวยซึ่งไดแก
(๑) สิทธิที่จะไดตรวจตราดูทรัพยสินที่ผูขายสงมอบ
(๒) สิทธิที่จะไมรับมอบทรัพยสินจากผูขาย เมื่อผูขายสงมอบทรัพยสินนั้นนอยเกินไป (ขาดตก
บกพรอง) กวาที่ไดตกลงกัน หรือมากเกินไป (ล้ําจํานวน) กวาที่ไดตกลงกัน
(๓) สิทธิที่จะเรียกใหผูขายปฏิบัติการชําระหนี้หรือปฏิบัติการชําระหนี้ใหถูกตองตรงตามที่ไดตก
ลงกันไว
(๔) สิทธิที่จะยึดหนวงราคา ในกรณีดังตอไปนี้
(ก) ผูซื้อพบเห็นความชํารุดบกพรองในทรัพยสินที่ซื้อ ผูซื้อมีสิทธิที่จะไมชําระราคา จน
กวาผูขายจะหาประกันอันสมควรให
(ข) ผูซื้อถูกผูรับจํานองหรือคนที่จะเรียกรองเอาทรัพยสินที่ขายนั้นขูวาจะฟองเปนคดีหรือมี
สาเหตุที่เชื่อไดวาจะถูกขู ผูซื้อจะชําระราคาใหตอเมื่อผูขายหาประกันให หรือตอเมื่อผูขายไดแกไขใหเปนที่
เรียบรอยแลว
(ค) เมื่อผูขายผิดนัดไมสงมอบทรัพยสินที่ขายให ผูซื้อก็จะยังไมชําระราคาจนกวาผูขายจะ
จัดการสงมอบทรัพยสินที่ขายให
(๕) สิทธิในการไดรับการชดใชคาสินไหมทดแทนความเสียหายเมื่อผูขายปฏิบัติการชําระหนี้ไม
ถูกตอง เชน สงมอบทรัพยที่ชํารุดบกพรอง หรือทรัพยที่บุคคลอื่นมีสิทธิเหนือทรัพยนั้นดีกวาผูซื้อ
(ถูกรอนสิทธิ)
(๖) สิทธิในการเลิกสัญญาและเรียกคาเสียหายไดอีก ตามหลักทั่วไป
๖. หนาที่และความรับผิดของผูซื้อ
ผูซื้อมี “หนี้” หรือ “หนาที่” ที่เกิดจากสัญญาซื้อขายเชนเดียวกับผูขาย ซึ่งถาผูซื้อไมปฏิบัติตาม
“หนี้” หรือ “หนาที่” ดังกลาวแลวยอมกอใหเกิด “ความรับผิด” ตามมาในทํานองเดียวกัน
สําหรับหนาที่หลักของผูซื้อ ไดแก
(๑) หนาที่ในการรับมอบทรัพยสินที่ซื้อขายตามเวลา ตามสถานที่และดวยวิธีการตามที่ตกลงกัน
ในสัญญาซื้อขาย เวนแตผูซื้อจะมีสิทธิบอกปดในกรณีที่เปนสังหาริมทรัพยเมื่อผูขายสงมอบทรัพยสินใหมาก
เกินไปหรือนอยเกินไปกวาที่ไดตกลงกัน หรือผูขายสงมอบทรัพยสินตามที่ตกลงกันปะปนกับทรัพยสินอยาง
อื่น หรือในกรณีที่เปนอสังหาริมทรัพย ผูขายสงมอบอสังหาริมทรัพยนั้นมากเกินไปหรือนอยเกินไปจากที่ได
ตกลงกันไว
(๒) หนาที่ในการชําระราคาทรัพยสินที่ซื้อขายตามราคาที่กําหนดไวในสัญญา หรือตามทางการที่
คูสัญญาเคยประพฤติปฏิบัติตอกัน แตถาไมไดกําหนดราคาไวเปนที่แนนอน ผูซื้อก็ตองชําระราคาตามสมควร
Page 19
และการชําระราคาก็ตองชําระภายในเวลาที่กําหนดตามสัญญาดวย แตถาหากไมไดกําหนดเวลาไว ใหชําระ
ราคาในเวลาเดียวกับเวลาที่สงมอบทรัพยสินที่ซื้อขายนั้น
(๓) หนาที่ในการชําระคาธรรมเนียมในการซื้อขาย หากตกลงกันไวในสัญญาวาใหผูซื้อชําระคน
เดียวทั้งหมด แตถาไมไดตกลงกันไว ผูซื้อก็มีหนาที่ตองชําระคาธรรมเนียมครึ่งหนึ่ง
๗. สิทธิของผูขาย
เมื่อกลาวถึง “หนี้” หรือ “หนาที่” ของผูซื้อแลว ยอมตองมีสิทธิของผูขายเคียงคูมาดวย ซึ่งได
แก
(๑) สิทธิที่จะยึดหนวงทรัพยสินนั้นไวจนกวาจะไดรับการชําระราคาจากผูซื้อ ซึ่งการยึดหนวงจะมี
ไดก็ตอเมื่อ ทรัพยสินที่ซื้อขายนั้นยังอยูในความครอบครองของผูขายเทานั้น
(๒) สิทธิที่จะยึดหนวงทรัพยสินนั้นไว ในกรณีที่ผูซื้อกลายเปนคนลมละลายภายหลังการซื้อขาย แต
กอนการสงมอบทรัพยสิน หรือในกรณีที่ผูซื้อลมละลายอยูแลวในเวลาที่ทําการซื้อขายโดยที่ผูขายไมรูถึงการลม
ละลายนั้น หรือผูซื้อทําใหหลักทรัพยที่ใหไวเปนประกัน การชําระราคานั้นเสื่อมเสีย หรือลดนอยถอยลง เชน
นายแสดซื้อตูจากนายสมในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๓๖ กําหนดสงตูกันในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๖ ชําระราคา
วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๓๖ ตอมาในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๓๖ นายแสดถูกศาลสั่งใหเปนคนลมละลาย ดังนี้นาย
สมไมตองสงตูใหนายแสดในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๖
(๓) สิทธิที่จะเรียกใหผูซื้อชําระหนี้ ซึ่งถาผูซื้อไมชําระ ผูขายอาจนําทรัพยสินที่ยึดหนวงไวออกขาย
ทอดตลาดก็ได
(๔) สิทธิในการริบมัดจํา (ถาไดมีการใหมัดจํากันไว) และเรียกคาเสียหาย
(๕) สิทธิในการเลิกสัญญา และเรียกคาเสียหายไดอีก
๘. อายุความในการฟองรอง
เมื่อผูขายปฏิบัติการชําระหนี้ หรือปฏิบัติหนาที่ตามสัญญาซื้อขายไมถูกตอง ผูซื้อมีสิทธิที่จะฟองรอง
ตอศาลภายในอายุความตามกรณี ดังตอไปนี้
(๑) ในกรณีที่ผูขายสงมอบทรัพยสินใหมากเกินไปหรือนอยเกินไปกวาที่ตกลงกันในสัญญา ผูซื้อจะ
ตองฟองรองภายใน ๑ ป นับแตเวลาที่สงมอบทรัพยสิน
(๒) ในกรณีที่ผูขายสงมอบทรัพยสินที่ชํารุดบกพรอง ผูซื้อจะตองฟองรองภายใน ๑ ป นับแตเวลาที่
พบเห็นความชํารุดบกพรองนั้น เชน นายดําทําสัญญาซื้อโทรทัศนจากนายเหลือง โดยสงมอบโทรทัศนกัน ใน
วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๓๖ และนายดําก็รับมอบไวแลว ตอมาวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๓๖ จึงพาชางมาตรวจสอบดู
ปรากฏวา หลอดภาพเสียใชไมได ดังนี้ นายดําก็ตองฟองคดี เพื่อความชํารุดบกพรองภายในวันที่ ๒๐ เมษายน
๒๕๓๗ การที่ไปตอวาทวงถามเรียกคาเสียหายจากผูขายไมใชการฟองคดี
Page 20
(๓) ในกรณีที่มีการรอนสิทธิ ผูซื้อตองฟองรองภายใน ๓ เดือน นับแตคําพิพากษาเดิมถึงที่สุด หรือ
นับตั้งแตวันที่มีขอตกลงยอมความกันหรือวันที่ยอมตามบุคคลภายนอก
คําวา “คดีเดิม” หมายถึง คดีที่เปนความกันระหวางผูซื้อกับบุคคลภายนอก โดยที่ผูซื้อไมไดเรียก
ผูขายเขามาเปนโจทกรวมกับตนในคดีนั้นดวย ดังกลาวมาแลว
ตัวอยาง (ก) ผูซื้อถูกบุคคลภายนอกซึ่งเปนเจาของที่แทจริงฟองเรียกทรัพยสินคืน ผูซื้อไมได
เรียกผูขายเขามาในคดี ศาลพิพากษาใหผูซื้อแพคดี คดีถึงที่สุดเมื่อใดผูซื้อตองฟองผูขายภายใน ๓ เดือน
(ข) ผูซื้อซึ่งถูกเจาของที่แทจริงฟองเรียกทรัพยสินคืน ผูซื้อทําสัญญาประนีประนอม
ยอมความสงทรัพยสินคืน เชนนี้ ผูซื้อตองฟองผูขายภายใน ๓ เดือน นับแตวันประนีประนอมยอมความ
(ค) ผูซื้อถูกเจาของทรัพยสินเรียกรอง โดยอางวามีคนรายลักทรัพยนั้นมาแลวก็โอน
ใหผูซื้อ ผูซื้อ จึงยอมโอนทรัพยสินนั้นให ก็ตองฟองคดีภายใน ๓ เดือน นับแตวันที่ยอมตามขอเรียกรองของ
เจาของที่แทจริง
Page 21
ฉ. ขายฝาก
๑. ความหมาย
สัญญาขายฝากเปนสัญญาซื้อขายซึ่งสิทธิแหงความเปนเจาของในทรัพยสินตกไปยังผูซื้อ โดยผูซื้อ
ตกลงในขณะทําสัญญาวาผูขายมีสิทธิไถทรัพยสินนั้นคืนไดภายในกําหนดเวลาเทาใด แตตองไมเกินเวลาที่
กฎหมายกําหนดไว เชน ขายที่ดินโดยมีขอตกลงวา ถาผูขายตองการซื้อคืน ผูซื้อจะยอมขายคืน เชนนี้ถือวา
เปนขอตกลงใหไถคืนได
ตัวอยาง นายสีนําสวนทุเรียนไปขายกับผูใหญผิน โดยมีขอตกลงในขณะทําสัญญาวา ผูใหญผิน
ยินยอมใหนายสีไถที่สวนทุเรียนนั้นคืนไดภายในกําหนด ๑ ป นับแตวันที่ซื้อขายที่สวนกัน สัญญาชนิดนี้
เรียกวาสัญญาขายฝาก
ขอตกลงที่วา “ผูขายอาจไถทรัพยคืนได” ขอตกลงนี้จะตองมีขึ้นในขณะที่ทําสัญญาซื้อขายกัน
เทานั้น ถาทําขึ้นภายหลังจากที่ไดทําสัญญาซื้อขายกันแลว สัญญาดังกลาวไมใชสัญญาขายฝาก แตเปนเพียง
คํามั่นวาจะขายคืนเทานั้น
๒. ทรัพยสินที่สามารถขายฝากได
ทรัพยสินทุกชนิดไมวาจะเปนประเภทใดก็ตาม เชน ที่ดิน ที่สวน ไรนา บาน รถยนต เรือ เกวียน
โทรทัศน ฯลฯ ยอมสามารถขายฝากไดเสมอ
๓. แบบของสัญญาขายฝาก
(๑) ถาเปนการขายฝากอสังหาริมทรัพย (คือ ทรัพยที่เคลื่อนที่ไมได) เชน ที่ดิน ที่นา บาน
ฯลฯ ตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ ในกรณีที่เปนที่ดินตองจดทะเบียนตอเจา
พนักงาน ที่ดิน ถาเปนบานก็จดทะเบียนตอที่วาการอําเภอที่บานนั้นตั้งอยู ถาไมทําตามนี้แลวถือวาสัญญาขาย
ฝากนี้เสียเปลาเปนอันใชไมได เทากับวาไมไดทําสัญญากันเลย
ตัวอยาง นายทุเรียนตองการขายฝากที่ดิน ๑ แปลงแกนายสมโอ ก็ตองทําสัญญาขายฝากที่ดินและ
จดทะเบียนการขายฝากที่ดินนี้ตอเจาพนักงานที่ดิน ถาไมทําเชนนี้แลว ถือวาสัญญาขายฝากรายนี้เสียเปลาใช
ไมไดมาแตแรก
(๒) ถาเปนการขายฝากสังหาริมทรัพยชนิดพิเศษ (คือ ทรัพยเคลื่อนที่ได ซึ่งกฎหมายกําหนดไว
เปนพิเศษวาจะตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอเจาหนาที่) เชน แพ เรือยนต สัตวพาหนะ ฯลฯ ตองทํา
เปนหนังสือและจดทะเบียนที่อําเภอ ถาไมทําตามนี้แลวถือวาสัญญาขายฝากจะเสียเปลาใชบังคับไมไดเลย
(๓) ถาเปนการขายฝากสังหาริมทรัพยชนิดธรรมดา (คือ ทรัพยที่เคลื่อนที่ไดแตกฎหมายไดกําหนด
ไววาตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่) ที่มีราคาตั้งแต ๕๐๐ บาทขึ้นไป เชน รถยนต
Page 22
ตูเย็น แหวน สรอย นาฬิกา โทรทัศน ฯลฯ การขายฝากชนิดนี้ตองมีหลักฐานเปนหนังสือลงลายมือชื่อฝายที่
ตองรับผิดเปนสําคัญหรือตองมีการวางมัดจําหรือจําตองมีการชําระหนี้บางสวน อยางใดอยางหนึ่งก็ได ถาไมทํา
ตามนี้แลว กฎหมายถือวา สัญญาขายฝากรายนี้ตองหามมิใหมีการฟองบังคับคดี
๔. ขอตกลงไมใหผูซื้อฝากจําหนายทรัพยสินที่ขายฝาก
ในการตกลงฝากคูสัญญาจะตกลงกันไมใหผูซื้อฝากจําหนายทรัพยสินที่ขายฝากก็ได แตถา
ผูซื้อฝากฝาฝนขอตกลงที่กําหนดในสัญญา โดยนําทรัพยสินที่ขายฝากไปจําหนายใหผูอื่น ผูซื้อฝากจะตอง
รับผิดชดใชความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นแกผูขายฝาก
ตัวอยาง นางดํา นําแหวนแตงงานของตนซึ่งมีราคา ๗๐,๐๐๐ บาท ไปขายฝากตอเถาแกเฮงใน
ราคา ๕๐,๐๐๐ บาท โดยในสัญญาตกลงวา “หามเถาแกเฮงนําแหวนไปขายใหแกบุคคลอื่น” ตอมาเถาแก
เฮงนําแหวนไปขายใหแกนางจิ๋ว โดยนางจิ๋วไมทราบวาแหวนนี้เปนของผูใด เปนเหตุใหนางดําไมสามารถ
ติดตามเอาแหวนคืนได เชนนี้ เถาแกเฮงตองชดใชคาเสียหายอันเปนราคาแหวน ๒๐,๐๐๐ บาท ใหแก
นางดํา
๕. กําหนดเวลาในการไถทรัพยสินคืน
(๑) ถาเปนการขายฝากอสังหาริมทรัพย ตองกําหนดเวลาในการใชสิทธิไถคืนไมเกิน ๑๐ ป
นับแตวันที่มี การซื้อขายฝากกัน แตถาไมไดกําหนดเวลาในการไถเอาไว หรือกําหนดเวลาไวเกินกวา ๑๐
ป กฎหมายใหลดเวลาลงเหลือแค ๑๐ ปเทานั้น
(๒) ถาเปนสังหาริมทรัพยชนิดพิเศษและชนิดธรรมดา ตองกําหนดเวลาไถคืนไมเกิน ๓ ป
นับแตวันที่มีการซื้อขายฝากกัน แตถาไมไดกําหนดเวลาในการไถคืนเอาไว หรือกําหนดเวลาไวเกินกวา ๓
ป ใหลดเวลาลงเหลือ ๓ ป เทานั้น
กฎหมายกําหนดไววา “หามมิใหมีการขยายเวลาไถถอนออกไป” (คือ การที่คูกรณีทั้ง ๒ ฝาย
ตกลงกัน เลื่อนกําหนดเวลาในการไถทรัพยสินคืนออกไปจากระยะเวลาเดิม) ถาคูกรณีตกลงใหมีการขยาย
เวลาไถออกไป กฎหมายใหถือวา ขอตกลงนี้มีผลเสียเปลาใชบังคับไมได
ตัวอยาง นายแขก ทําสัญญาขายฝากควาย ชื่อวา เผือก ตอมานายไข กําหนดเวลาในการใชสิทธิ
ไถไว ๖ เดือน เมื่อถึงกําหนดไถ นายแขกยังหาเงินมาไมไดจึงไปตกลงกับนายไขวา “ตนขอเวลาในการใช
สิทธิไถออกไป ๓ เดือน” ขอตกลงนี้แมวานายไขจะตกลงก็ตามแตกฎหมายถือวาขอตกลงนี้เสียเปลาใช
บังคับไมได ดังนั้นเมื่อเลยกําหนดเวลา ๖ เดือนแลวนายแขกยังไมมาไถ ถือวาเลยกําหนดเวลาไถ
ทรัพยสินที่ขายฝากจะตกเปนของนายไขทันที ดังนั้นเมื่อนายแขกนําเงินมาไถในภายหลัง นายไขจึงมีสิทธิ
ไมใหไถควายคืนได
Page 23
ช. เชาทรัพย
๑. ทรัพยที่ใหเชาได
ทรัพยสิ่งของใด เจาของยอมนําออกใหผูอื่นเชาไดเสมอไมวาทรัพยนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ
เคลื่อนยายไดหรือไมไดก็ตาม ทรัพยที่เชานี้แบงได ๒ ประเภท
(๑) อสังหาริมทรัพย คือ สิ่งที่ยึดติดอยูกับพื้นดินเคลื่อนยายไมได เชน ที่ดิน สวน บาน
ตึกแถว เปนตน
(๒) สังหาริมทรัพย คือ สิ่งที่สามารถเคลื่อนยายได เชน ชาง มา วัว ควาย รถยนต เรือ
เกวียน เปนตน
๒. หลักฐานการเชา
การเชาอสังหาริมทรัพย ตองมีการทําหลักฐานเปนหนังสือลงลายมือชื่อฝายที่ตองรับผิด (ผูเชาหรือ
ผูใหเชา) ถาไมมีหลักฐานเปนหนังสือ จะฟองรองใหปฏิบัติตามสัญญาเชาไมได
๓. หลักฐานเปนหนังสือ
ไมจําเปนจะตองเปนรูปหนังสือสัญญาเชาอสังหาริมทรัพยทั้งฉบับแตจะเปนหนังสือใดๆ ก็ยอม
ได เชนจดหมายที่ผูใหเชาหรือผูเชาเขียนถึงกันเพื่อตกลงราคาคาเชา หรือใบเสร็จรับเงินคาเชา เปนตน
ดังนั้นหลักฐานเปนหนังสือจะเปนในลักษณะใดก็ได สําคัญอยูที่วา ขอความในหนังสือนั้นแสดงใหเห็นวา
ไดมีสัญญาเชาอสังหาริมทรัพยก็พอจะใชยันผูใหเชาหรือผูเชาแลว หลักฐานเปนหนังสือนี้ ไมจําเปนจะตอง
มีอยูในขณะตกลงทําสัญญาเชาอสังหาริมทรัพยนั้น แมจะมีขึ้นภายหลังจากการตกลงทําสัญญาเชา
อสังหาริมทรัพยแลวก็ใชได
ถามีการเชาอสังหาริมทรัพยเกินกวา ๓ ป (กฎหมายหามเกิน ๓๐ ป) หรือมีกําหนดตลอดอายุ
ของผูเชาหรือผูใหเชาจะตองนําสัญญานั้นไปจดทะเบียนการเชาตอพนักงานเจาหนาที่ ถาเปนการเชาบาน
หรือตึกแถวตองไปจดทะเบียน ณ ที่วาการอําเภอ ที่บาน หรือตึกแถวนั้นตั้งอยู ถาเชาที่ดิน (รวมทั้งบาน
ดวยก็ได) ตองไปจดทะเบียนที่สํานักงานที่ดินประจําจังหวัด
การเชาสังหาริมทรัพย แมวาไมมีหลักฐานเปนหนังสือ เชน ตกลงทําสัญญาเชาดวยวาจาก็ฟองรอง
บังคับกันได
Page 24
๔. การโอนความเปนเจาของ
(๑) ในอสังหาริมทรัพยที่เชา ไมทําใหสัญญาเชาที่ทําไวเดิมสิ้นสุดลง เจาของคนใหมตองยอม
รับรูและผูกพันตามสัญญาเชาที่เจาของเดิมทําไว เจาของคนใหมจึงกลายเปนผูใหเชา
(๒) ในสังหาริมทรัพย ทําใหสัญญาเชาสิ้นสุดลง เจาของคนใหมเรียกเอาทรัพยที่เชาคืนได ถา
ผูเชาเสียหาย เชน ใหคาเชาลวงหนา ๒ เดือนก็ตองไปทวง คือ เอาจากเจาของเดิม
๕. เชาชวง
คือ การที่ผูเชาเอาทรัพยที่ตนเชาใหคนอื่นเชาตอ ไมวาจะทั้งหมดหรือแตบางสวน เชน ก เชาเรือ ข
แลว ก เอาเรือที่ตนเชาไปให ค เชาตอ
การเชาชวงถือเปนการผิดสัญญาเชา ผูใหเชามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเรียกเอาทรัพยที่เชาคืนได เวนแต
ผูใหเชาอนุญาต ในกรณีเชนนี้เมื่อมีการเชาชวง ผูเชาชวงตองรับผิดชอบโดยตรงตอผูใหเชา
๖. สัญญาตางตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือไปจากสัญญาเชาธรรมดา
คือ การที่ผูเชาตกลงทําการอยางหนึ่งอยางใดใหเกิดประโยชนในทรัพยที่เชา เชน ผูเชารับ
ซอมแซมและตอเติมบานเชาปลูกตนไมลงในที่ดินที่เชา หรือออกเงินชวยคากอสรางตึกที่เชา เปนตน
สัญญาชนิดนี้มีผลผูกพันและฟองรองบังคับกันได แมไมมีหลักฐานการเชาหรือแมวาเปนการเชา
อสังหาริมทรัพยเกินกวา ๓ ป ก็ไมตองทําหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ นอกจากนี้ผูเชา
ยังสามารถฟองบังคับผูใหเชาใหจดทะเบียนการเชาไดดวย
เมื่อผูเชาตายสัญญาชนิดนี้ไมระงับ ทายาทของผูเชา (พอ แม ลูก หลานของผูเชา) มีสิทธิเชา
ไดตอไป จนกวาจะครบอายุสัญญา
๗. การสิ้นสุดแหงสัญญาเชา
(๑) ถาเปนสัญญาเชามีกําหนดเวลาการเชาไว เมื่อสิ้นเวลาที่ไดตกลงกันไวแลว สัญญาเชาก็หมด
อายุ
(๒) สัญญาเชายอมระงับลงเมื่อทรัพยสินซึ่งใหเชาสูญหายไปทั้งหมด เชน บานที่เชาถูกไฟไหม
(๓) สัญญาเชาระงับลงเมื่อผูเชาถึงแกความตาย
(๔) วิธีการบอกเลิกสัญญาเชาชนิดที่ไมกําหนดระยะเวลาที่ใหเชานั้น ทั้งฝายผูใหเชาและผูเชาตาง
มีสิทธิบอกเลิกสัญญาไดโดยการใหคําบอกกลาวเลิกสัญญา ซึ่งตองบอกกลาวลวงหนาในระยะเวลาไมนอย
กวากําหนดชําระคาเชาระยะหนึ่ง เชน กําหนดชําระคาเชาเปนรายเดือน ใหบอกกลาวลวงหนา ๑ เดือน
(๕) ถาผูเชาผิดนัดไมชําระคาเชา ผูใหเชาสามารถบอกเลิกสัญญาเชาไดทันที ถาการเชานั้นมีการ
ตกลงชําระคาเชากันนอยกวารายเดือน เชนชําระเปนรายวัน รายสัปดาห หรือ ๒ สัปดาห เปนตน
แตหากมีการตกลงชําระคาเชากันเปนรายเดือน หรือกวารายเดือน ผูใหเชาตองบอกกลาวแกผูเชาใหชําระ
คาเชาภายในเวลา อยางนอย๑๕วัน หากผูเชาไมชํารําคาเชาในเวลาที่กําหนด ผูใหเชาบอกเลิกสัญญาเชาได
Page 25
ซ. เชาซื้อ
๑. ความหมาย
สัญญาเชาซื้อ คือ สัญญาที่เจาของทรัพยสินเอาทรัพยสินของตนออกใหผูอื่นเชาเพื่อใชสอยหรือ
เพื่อใหไดรับประโยชน และใหคํามั่นวาจะขายทรัพยนั้น หรือจะใหทรัพยสินที่เชาตกเปนสิทธิแกผูเชาซื้อ
เมื่อไดใชเงินจนครบตามที่ตกลงไวโดยการชําระเงินเปนงวดๆจนครบตามขอตกลง
สัญญาเชาซื้อมิใชสัญญาซื้อขายผอนสง แมวาจะมีลักษณะคลายคลึงกันเรื่องชําระราคาเปนงวดๆ
ก็ตาม เพราะการซื้อขายผอนสงนั้นกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินเปนของผูซื้อทันทีขณะทําสัญญา ไมตองรอให
ชําระราคาครบแตประการใด สวนเรื่องสัญญาเชาซื้อ เมื่อผูเชาบอกเลิกสัญญาบรรดาเงินที่ไดชําระแลว ให
ริบเปนของเจาของทรัพยสิน และเจาของทรัพยสินชอบที่จะกลับเขาครอบครองทรัพยสินที่เชาได
๒. แบบของสัญญาเชาซื้อ
สัญญาเชาซื้อจะตองทําเปนหนังสือ จะทําดวยวาจาไมได มิฉะนั้นจะเปนโมฆะเสียเปลา ทําให
ไมมีผลตามกฎหมายที่จะผูกพันผูเชาซื้อกับผูใหเชาซื้อได การทําสัญญาเปนหนังสือนั้น จะทํากันเองก็ได
ไมจําเปนตองทําตอพนักงานเจาหนาที่ ผูเชาซื้อจะเขียนสัญญาเอง หรือจะใชแบบพิมพที่มีไวกรอกขอความ
ลงไปก็ได หรือจะใหใครเขียนหรือพิมพใหทั้งฉบับก็ได แตสัญญานั้นจะตองลงลายมือชื่อของผูเชาซื้อ และ
ผูใหเชาซื้อทั้งสองฝาย หากมีลายมือชื่อของคูสัญญาแตเพียงฝายใดฝายหนึ่ง เอกสารนั้นหาใชสัญญาเชาซื้อ
ไม
๓. สิทธิและหนาที่ของคูสัญญา
ผูเชาซื้อมีสิทธิไดรับมอบทรัพยสินที่เชาซื้อในสภาพที่ปลอดจากความชํารุดบกพรองหรือในสภาพ
อันซอมแซมดีแลว เพราะผูใหเชาซื้อมีหนาที่และความรับผิดชอบในเรื่องทรัพยสินที่ชํารุดบกพรอง แมวาผูให
เชาซื้อจะทราบถึงความชํารุดบกพรองหรือไมก็ตาม
ดังนั้น เวลาทานไปทําสัญญาเชาซื้อทีวีสีเครื่องหนึ่ง เจาของรานมีหนาที่ตองสงมอบทีวีสีใน
สภาพที่สมบูรณ ไมมีสวนที่ผิดปกติแตประการใด ถาทานตรวจพบวาปุมปรับสีหลวมหรือปุมปรับเสียง
หลวมก็ดี ทานตองบอกใหเจาของรานเปลี่ยนทีวีสีเครื่องใหมแกทาน เพราะในเรื่องนี้เปนสิทธิของทานตาม
กฎหมายและเจาของรานไมมีสิทธิที่จะบังคับทานใหรับทีวีสีที่ชํารุดได
ผูเชาซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาในเวลาใดก็ไดดวยการสงมอบทรัพยสินกลับคืนใหแกผูใหเชาซื้อ
โดยตนเอง จะตองเสียคาใชจายในการสงคืน การที่กฎหมายบัญญัติเชนนี้ ก็เพราะเงินที่ผูเชาซื้อไดชําระให
แกผูใหเชาซื้อเปนงวดๆเปรียบเสมือนการชําระคาเชา ดังนั้น ผูเชาซื้อจะบอกเลิกสัญญาก็ได การแสดง
เจตนาบอกเลิกสัญญาจะตองสงมอบทรัพยสินคืนใหแกเจาของ ถามีการแสดงเจตนาวาจะคืนทรัพยสินให
Page 26
ในภายหลัง หาเปนการเลิกสัญญาที่สมบูรณไม การบอกเลิกสัญญาจะตองควบคูไปกับการสงคืนใน
ขณะเดียวกัน
ผูเชาซื้อผิดนัดไมชําระเงินสองคราวติดกันหรือกระทําผิดสัญญาในขอที่เปนสาระสําคัญ เจาของ
ทรัพยสินที่ใหเชาซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได สวนเงินที่ชําระราคามาแลวแตกอน ใหตกเปนสิทธิของ
เจาของทรัพยสินโดยถือเสมือนวาเปนคาเชา ผูเชาซื้อไมมีสิทธิเรียกคืนจากเจาของได และเจาของทรัพยสินก็
ไมมีสิทธิเรียกเงินที่คางชําระได การผิดนัดไมชําระจะตองเปนการไมชําระสองงวดติดตอกัน หากผิดนัดไม
ใชเงินเพียงครั้งเดียว หรือหลายครั้งแตไมติดๆกัน เชน ผิดนัดไมใชเงินเดือนกุมภาพันธ, เมษายน,
มิถุนายน, สิงหาคม ฯลฯ แตชําระคาเชาซื้อสําหรับเดือนมกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, กรกฎาคม
ฯลฯ สลับกันไปเชนนี้ แมจะผิดนัดกี่ครั้งกี่หน ก็ตาม ผูใหเชาซื้อหาอาจใชสิทธิบอกเลิกสัญญาไดไม
ในการผิดสัญญาในสวนที่เปนสาระสําคัญ หมายความวาสัญญาเชาซื้อนั้นมีวัตถุประสงคใหผูเชา
ซื้อมีสิทธิใชสอยทรัพยสินาและเคารพในกรรมสิทธิ์ของผูใหเชาซื้อจนกวาจะชําระราคาครบตามขอตกลง
ถาผูเชาซื้อนําทรัพยสินไปจํานําและไมชําระเงิน ถือวาผิดสัญญาเชาซื้อ เจาของมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและผู
เชาซื้อมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพยไดอีก เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินยังเปนของผูใหเชาซื้ออยู
อนึ่ง ในกรณีผูเชาซื้อกระทําผิดสัญญา เพราะผิดนัดไมใชเงินซึ่งเปนงวดสุดทายนั้น เจาของ
ทรัพยสิน มีสิทธิจะริบบรรดาเงินที่ชําระมาแลวแตกอน และยึดทรัพยกลับคืนไปไดตอเมื่อรอใหผูเชาซื้อมา
ชําระราคาเมื่อถึงกําหนดชําระราคาในงวดถัดไป ถาไมมาผูใหเชาซื้อริบเงินได
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น