++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

กลเกม “นิรโทษกรรม” การเมือง!

โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย 14 กันยายน 2553 17:09 น.
อาชญากรมักทิ้งร่องรอยอาชญากรรมที่ก่อเสมอ!

ร่องรอยการเมืองแบบเก่าที่ไม่สร้างสรรค์ หรือการเมืองชั่วๆ ที่สุมหัวกันโกงบ้านโกงเมืองมักกระทำเรื่องสามานย์ให้ผู้คนจับร่องรอยได้ เสมอ

ดังคำแถลงของอดีตหัวหน้าพรรค พท.นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ว่า..การลาออกจากหัวหน้าพรรคของตน ไม่มีคำบงการใดจากนักโทษหนีคุก ถึงขั้นวิงวอนผู้คนอย่าใส่ความให้มหาเศรษฐีทักษิณ กลายเป็นถ้อยคำที่ไร้ความน่าเชื่อชั่วข้ามคืนไปโดยปริยาย

เมื่อ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน และนายประชา ประสพดี กับพลพรรค พท.ดอดไปพบทักษิณถึงประเทศรัสเซีย ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า นักโทษชายหนีคุกทักษิณได้เลิกหนุน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ให้เป็นหัวหน้าพรรค พท.แล้ว

อีกทั้งจะให้ “ยุทธ-หลักปักขี้ควาย” กลับมาเป็น “หุ่นเชิด” ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท.อีกครั้ง ส่วน “ยงยุทธ” จะฝ่าด่าน ส.ส.บางกลุ่มขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคได้หรือไม่..ต้องตามไปดูครับ

เพราะขาใหญ่หลายคนก็กระสันจะเป็นหัวหน้าพรรคนี้ เช่น “บิ๊กจิ๋ว-หวานเจี๊ยบ”และ “ดร.เฉลิม” รวมทั้ง “เจ๊วูบ” เอ๊ย..“เจ๊มิ่งขวัญผวา” ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนมี ส.ส.แอบหนุนก้นทั้งสิ้น

สรุป..ปาหี่การเมืองเปลี่ยนหัวหน้าพรรค พท.กลายเป็นเกม “มวยล้มต้มคนดู” และ “ต้มเฮียโก” จนสุก ทว่า..เห็นร่องรอยชัดเจนเลยว่า ทักษิณที่เคยเป็นคนไทยแต่หนีคุกไปเป็นชาวมอนเตเนโกร ยังเป็นเจ้าของพรรค พท.ตัวจริงเสียงจริง ที่สำคัญยังคงบงการพรรคนี้อยู่ตลอดเวลาครับ

อีกเรื่องที่ไร้ความยุติธรรมซึ่งส่อพิรุธในตอนนี้ หนีไม่พ้นเรื่อง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยัดเยียดข้อหาเกินจริงให้บรรดาพันธมิตรฯ ที่ออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลทักษิณและนอมินีของเขา ซึ่งบริหารชาติบ้านเมืองด้วยความฉ้อฉล..

ถึงขั้นพธม.ชุมนุมกันอย่างสงบ-สันติ-อหิงสา ที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับสถานที่ราชการดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีเฉพาะแกนนำ พธม.เพียง 10 กว่าคนเท่านั้น อีกทั้งไม่มีการแจ้งความกล่าวหาว่า แกนนำพธม.เป็นผู้ก่อการร้ายสากลแต่ประการใดเลย

ทว่า..การณ์กลับกลายเป็นฝ่ายตำรวจ โดย พล.ต.ท.สมยศ ผู้เป็นหัวหน้าคกก.สอบสวนฯ ได้แอบเพิ่มผู้ต้องหาขึ้นมาอีกกว่าร้อยคน รวมทั้งยัดเยียดข้อหาร้ายแรงเกินจริง ให้พธม.บางคนว่า..เป็นผู้ก่อการร้ายสากลไปเสียฉิบ

แถมการกล่าวหาส่วนใหญ่ก็กระทำแบบมั่วซั่วไร้ความเป็นธรรม เช่น ประชาชนบางคนแค่มาดูการแสดงบนเวที และได้ใช้ฝาหม้อมาตบตามจังหวะเพลงแทนฉาบ หรือดารา-นักร้อง-นักดนตรี-นักแสดง พลอยโดนยัดเยียดข้อหาร้ายแรงให้ระนาว บางรายถึงขั้นโดนตำรวจขอให้ศาลออกหมายจับกันเลย!

ซึ่งต่างจากการชุมนุมจาบจ้วงสถาบันสำคัญของชาติ และก่อการร้ายด้วยอาวุธสงครามเข่นฆ่าทหารของชาติ และประชาชนผู้บริสุทธิ์จนบาดเจ็บล้มตายนับพันคน รวมทั้งยังเผาบ้านเผาเมืองกันอย่างขนานใหญ่ แต่รัฐบาลและตำรวจกลับจับเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดง ไปดำเนินคดีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง

แผนชั่วในการยัดเยียดข้อหาเกินจริงให้พธม.ครั้งนี้ ส่อให้เห็นถึงพิรุธมากมาย อีกทั้งยังบ่งบอกถึงกระแสทางการเมือง ที่เต็มไปด้วยคำถามตัวโตว่า พรรคภูมิใจไทยรับงานจากใครบางคนมาทำหรือเปล่า? อะไรทำให้พรรคภูมิใจไทยทำตัวเป็นหัวหอก หรือร้อนรนในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเร่งด่วนเช่นนี้?

ทำไมจึงมีการเปลี่ยนหัวหน้าคณะกก.สอบสวน คดีของพธม.ให้พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามารับผิดชอบ? เพราะนายพลตำรวจคนนี้สนิทสนมเป็นพิเศษ กับ “ยี้ห้อย” ถึงขนาดไปร่วมงานวันเกิดภรรยาของ “วิชัย รักศรีอักษร” นายทุนใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่ “ยี้ห้อย” แผ่อิทธิพลอยู่ แถม “สมยศ” ยังได้เป็นประธาน คกก.สรรหาผู้ว่าฯ รฟม.ที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบอีกด้วย

การยัดเยียดข้อหาร้ายแรงเกินจริง ให้กับแกนนำและบรรดาพธม.เป็นผู้ก่อการร้าย เฉกเช่นเดียวกับขบวนการ “คนเสื้อแดง-เสื้อดำ” ที่เป็นผู้ก่อการร้ายตัวจริงเสียงจริงของ“คนหน้าเหลี่ยม” เพียงหวังให้บรรลุถึงข้ออ้าง “ปรองดอง” อันแสนกำมะลอว่า..

การนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่ายทุกสี พ้นความผิดจากความขัดแย้งทางการเมือง ในเหตุการณ์ “สงกรานต์เลือด-ปี 52” และ “สงกรานต์เลือด-พฤษภาเลือด-ปี 53” ไงล่ะครับ

จิ้งจกข่าวบอกความลับครั้งนี้ว่า มี “ใครบางคน” พร้อมจ่ายเงินเต็มที่ให้กับ “ใครบางคน” ที่สามารถ “เนรมิต” ให้เกิดการนิรโทษกรรม จน “นายหญิงเพิงหมาแหงน” กับลูกๆ พ้นจากความผิดทั้งปวง

ส่วน “นายใหญ่หน้าเหลี่ยม” นั้น..ย.ห. “อย่าห่วง” เมื่อศาลได้ตัดสินจำคุก 2 ปีไปแล้ว จึงเป็นเรื่องช่วยกันบ่ได้จริงๆ จำต้องตัดใจ “ตัดหางปล่อยวัด” ไปก่อน ค่อยหาลู่ทางแก้ปัญหาให้ “คนหน้าเหลี่ยม” กันภายหลัง

งานนี้ “นายใหญ่หน้าเหลี่ยม” ต้องยอมหนีคุกตะรางไปอยู่ต่างประเทศจนกว่าจะหมดอายุความ และเรื่องทั้งหมดได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่าง “อดีตผัว” กับ “อดีตเมีย” อ้อ..เรื่องเงินที่โดนยึดไปกว่า 4 หมื่นล้านบาทน่ะหรือ? ไม่ติดใจเลยครับ..ขอแค่พรรคของมหาเศรษฐีหนีคุก ได้เข้าร่วมตั้งรัฐบาลแค่ครั้งเดียว เงินแสนล้านบาทนั้น..หาได้ในพริบตาคร๊าบ..จริงไหม..?

นี่แหละ..กลเกมเล่ห์ “นิรโทษกรรม” ทางการเมืองให้คนชั่วไงล่ะครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น