ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ป๋าเปรม” มอบทุนการศึกษาบุตรขรก.ทหาร-ตร. ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่-เด็กยากจน 19 จังหวัดอีสาน วอนผู้ใหญ่ตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยการดูแลเด็กให้ได้รับการศึกษาเติบโตเป็นคนดี ของประเทศชาติ พร้อมฝากให้กรรมการมูลนิธิฯ คิดการประกวดเด็กชิงรางวัลด้านคุณธรรม จริยธรรม การแสดงความดี ชี้คุณธรรมจริยธรรมทำบ้านเมืองสงบสุข ย้ำ “พระสยามเทวาธิราช” ศักดิ์สิทธิ์คอยดูแลประเทศเรา ปกป้องคุ้มครองคนดี คอยสาปแช่งคนไม่ดี
วันนี้( 11 ก.ย. ) ที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิเปรมติณสูลานนท์ ประจำปี 2553 และ มอบรางวัลการประกวดโครงการนักเรียน ระดับภาค ประจำปี 2553 โดยมี พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) , พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3(ผบช.ภ.3) , นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยผู้ว่าราชจังหวัดในภาคอีสาน หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ครูและนักเรียน จาก 19 จังหวัดภาคอีสานให้การต้อนรับและร่วมพิธีมอบทุนการศึกษา
หลังจากรับมอบเงินจากบรรดาผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคเงินเข้า มูลนิธิฯ แล้ว พล.อ.เปรม ได้มอบโล่รางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาค ครั้งที่ 8 ประจำปีการศึกษา 2553 รวมทั้งสิ้น 75 รางวัล เป็นเงิน 435,000 บาท พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจ-ทหารที่เสียชีวิตและ ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ และมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนนักศึกษาที่มีความประพฤติดี เรียนดี แต่มีฐานะยากจนในพื้นที่ 19 จังหวัดอีสานรวมจำนวน 1,798 ทุน เป็นเงิน 5,239,500 บาท โดยนักเรียนที่เข้ารับการมอบทุนได้ กล่าวคำปฏิญาณตนที่จะปฏิบัติตนเป็นคนดีของประเทศชาติต่อไป
พล.อ.เปรม กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ที่เข้าร่วมงานว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการที่จัดให้มีงานนี้ขึ้น โดยมูลนิธิฯ เราเริ่มต้นด้วยเงิน 3 ล้านบาท สมัยนายสมบูรณ์ ไทยวัชรมาศ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จาก 3 ล้านบาทจนถึงวันนี้เป็น 79 ล้านบาท ในเวลา 25 ปี เป็นอัตราเพิ่มที่ค่อนข้างจะไม่มาก แต่พวกเราสามารถทำงานกันได้ วันนี้ผมตั้งใจจะพูดกับบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายในชาติบ้านเมืองมากกว่าที่จะพูด กับเด็ก จากที่พูดเริ่มต้น เรื่องผู้ว่าฯ สมบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ ในตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี การที่นำเรื่องของผู้ว่าฯ สมบูรณ์ มาพูดเพื่อให้ผู้ว่าฯ ทั้งหลายใน 19 จังหวัด หรือจะเป็น 20 จังหวัดในอนาคต ได้ตระหนักถึงความมีน้ำใจอันดีงามของท่านทั้งหลายที่มีต่อเด็กในภาคอีสาน
"ผมอยากจะเห็นมูลนิธิฯ เติบใหญ่อย่างมีความเลิศทางวิชาการ มีความดีทางวิชาการ และมีความมั่นคง ฉะนั้นผมถึงอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายที่มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กของเราในภาค อีสานได้กรุณาพร้อมเพรียงกันที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการดูแลเด็กให้ เป็นเด็กที่ดีที่สุดให้จงได้ ผมดีใจมากที่เห็นผู้ที่รักเด็ก และเสียสละเงินให้กับมูลนิธิฯ ถึงแม้จำนวนไม่มาก แต่ผมขอสรรเสริญน้ำใจอันดีงามของทุกคน" ประธานองคมนตรี กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่ตนย่างเข้ามาในหอประชุมฯนี้ มีความสุขมาก มีความสุขที่เห็นท่านทั้งหลายล้วนแต่เป็นผู้มีน้ำใจงดงามรักเด็ก คิดว่า พวกเราทุกคนน่าจะถือว่า เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องดูแลเด็กให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ต้องถือว่า เด็กที่เราดูแลอยู่นี้ เป็นเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองเขาดูแลได้ไม่พอ เราถึงต้องเข้าไปยื่นมือช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่ตนอยากจะเรียนพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ให้เข้าใจว่า เราเห็นจะต้องถือเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูแล และหลายสถาบันการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและระดับต่างๆ ภาคอีสาน ล้วนแต่มีส่วนร่วมมือช่วยเหลือเด็กกันทั้งนั้น วันนี้ตนจะไม่เตือนเด็กๆ ทั้งหลาย แต่ขอให้ครูบาอาจารย์ที่นำเด็กมาไปสอนเด็กว่า เด็กทั้งหลายได้รับประโยชน์จากมูลนิธิฯ เพราะอะไร เพื่อเอาไปทำอะไร เมื่อสักครู่ตนนั่งคิดคนเดียว และอยากจะปรึกษาท่านทั้งหลายว่า เราจะประกวดเด็กในเชิงคุณธรรม จริยธรรม หรือประกวดการแสดงความดีของตัวเอง พอจะมีวิธีการทำอย่างนั้นได้หรือไม่ อันนี้เพียงแต่คิดอะไรขึ้นได้ก็บอกไป ส่วนท่านทั้งหลาย คณะกรรมการจะไปทำกันอย่างไร ตนไม่ทราบ ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ แต่ตนคิดว่า สิ่งที่เราจะต้องทำให้คนไทยทุกคนในประเทศของเรานี้ มีคุณธรรม และมีจริยธรรม ท่านทั้งหลายคงทราบว่า คุณธรรมเป็นเรื่องของจิต เป็นเรื่องภายในตัวของเรา แต่จริยธรรมก็คือการปฏิบัติ การทำความดี ถ้าเรามีสองอย่างพร้อมบ้านเมืองก็จะมีความสงบสุขและเด็กทุกคนก็จะเข้าใจโลก นี้ ตนไม่ทราบว่าหากเราจะจัดประกวดกัน จะทำได้หรือไม่
พล.อ.เปรม กล่าวในตอนท้ายว่า นี่คือความสุขส่วนหนึ่งของตน ที่คิดว่าจะเป็นความสุขของพวกเราทุกคนที่ได้มีโอกาสดูแลเด็กด้วย นอกจากขอบคุณท่านทั้งหลายแล้ว ก็อยากจะให้ท่านทั้งหลายภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจในการที่เราเกิดมาได้ดูแลเด็ก ภูมิใจที่เรามีส่วนที่จะทำให้เด็กได้รับการศึกษา และเติบโตเป็นคนดีของชาติบ้านเมืองของเรา ภูมิใจที่ได้มีได้ใช้วิชาความรู้ ได้ใช้ความสามารถของตนเองเพื่อเผยแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้เขาได้มีความ รู้ความสามารถ เท่าที่เขาสามารถจะรับได้ ซึ่งตนเคยพูดกับเด็กที่ไปพบที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ กรุงเทพฯ และ อยากเล่าให้ฟังก็คือ ผมขอให้เขาเอาความดีนี้เป็นมรดกตกทอดไปให้กลุ่มเด็กรุ่นหลังๆ และวันนั้นตนพูดถึงพระสยามเทวาธิราช เพราะตนเชื่อของว่า พระสยามเทวาธิราช มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ท่านจะดูแลประเทศของเรา และท่านจะปกป้องคนดีเหมือนพวกคุณ และท่านจะคอยสาปแช่งคนไม่ดี
“ วันนี้ผมก็ขออาราธนา ขออัญเชิญพระสยามเทวาธิราชมาช่วยปกป้องพวกเราซึ่งกระทำความดีให้กับชาติบ้าน เมือง ขอให้พระยามเทวาธิราชได้ปกป้องคุ้มครองให้เรามีแต่ความสุขร่มเย็น และให้มีแต่ความสวัสดีโดยทั่วกัน” พล.อ.เปรม กล่าวก่อนเดินทางกลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น