ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “สมศักดิ์” เผยบนเวที “ก้าวที่กล้ากับการเมืองใหม่” ไม่ทรยศประชาชน ชูนโยบายพรรคต้องตอบสนองประชาชน ยึดพระราชดำรัสให้คนดีปกครองบ้านเมือง ด้านเลขาธิการพรรค ชี้หาก กมม.สลายความเป็นสีถือว่าแจ้งเกิดสำเร็จ มั่นใจนโยบายพรรคการเมืองใหม่จะโดดเด่นที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า เหตุเป็นอิสระ ประชาชนกำหนด ยกนโยบายเบื้องต้น ต้องทวงคืน ปตท./ดินแดนเขาพระวิหาร และปฏิรูปตำรวจ
วันที่ 11 ก.ย. ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น คณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่นได้จัดเวทีสัมมนา “พันธมิตรอีสานกับก้าวที่กล้าของการเมืองใหม่” จัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นสะท้อนปัญหาในด้านต่างๆ ทั้งปัญหาเกษตรกรรม ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาค้าปลีกรายย่อย รวมถึงการเมืองใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นแนวนโยบายของพรรคการเมืองใหม่ ให้มีความแหลมคม แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ตรงประเด็น
กิจกรรมช่วงบ่ายในเวทีดังกล่าว นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ร่วมบรรยายถึงทิศทางพรรคการเมืองใหม่ โดยก่อนบรรยาย หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เชิญชวนผู้สัมมนาร่วมร้องเพลง “เทียนแห่งธรรม” รำลึกถึงการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะก้าวมาถึงการจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งผู้ร่วมสัมมนาต่างยืนร่วมร้องเพลง เทียนแห่งธรรม ดังกึกก้องห้องสัมมนา
“สมศักดิ์” ยันไม่ทรยศประชาชน
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ที่มาของพรรคการเมืองใหม่ มาจากพี่น้องประชาชนเป็นผู้สร้างพรรค ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่มีนายทุนสนับสนุนจัดตั้งพรรค นโยบายของพรรคการเมืองใหม่ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้กำหนด ไม่ใช่มาจากนักวิชาการหรือผู้รู้เพียงไม่กี่คนกำหนด ที่สำคัญนโยบายพรรคการเมืองใหม่ จะต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศได้ประโยชน์
“พันธมิตรฯ เป็นผู้สร้างพรรคการเมืองใหม่ นโยบายพรรคจะไม่ทรยศประชาชน การระดมความคิดเห็นวันนี้ จะนำไปกำหนดเป็นแนวทางขับเคลื่อนที่สำคัญของพรรคการเมืองใหม่ โดยจะมีเวทีระดมความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ในลักษณะเดียวกับที่จัดขึ้นในภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น”
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ระบบการเมืองแบบเก่าที่ก่อเกิดมาจากนายทุน ใช้เงินซื้อพรรค ซื้อ ส.ส.กรุยทางเข้าสู่สภา จนได้อำนาจบริหารบ้านเมือง แล้วเข้าไปโกงกินในสภา กระทั่งถูกทหารยึดอำนาจ และทหารก็กลับมาโกงกินบ้านเมืองอีก ระบบการเมืองของไทยวนเวียนอยู่ในลักษณะนี้มาตลอดระยะเวลา 60-70 ปี
การเมืองต้องเหมือนกับการปฏิบัติธรรม นักการเมืองจะต้องไม่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมเท่านั้น โดยมีตัวอย่างนักการเมืองชั้นนำของโลกเป็นแบบอย่าง เช่น อับราฮัม ลินคอล์น ประธานธิบดีของสหรัฐอเมริกา หรือมหาตมะ คานธี ที่ช่วยเหลือคนในประเทศ ปลดแอกจากการเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตถูกลอบสังหาร
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองใหม่จะยึดแนวทางตามพระราชดำรัสในหลวง ในการส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง โดยขอให้พี่น้องประชาชนในภาคอีสาน ช่วยกันเฟ้นหาคนดี มาเป็นตัวแทนพรรคการเมืองใหม่แข่งขันในเวทีการเมืองระดับท้องถิ่นจนถึงระดับ ประเทศ ซึ่งพรรคการเมืองใหม่จะสนับสนุนคนเหล่านี้ให้มีบทบาทบริหารบ้านเมือง จะทำให้ประเทศเกิดความสงบสุข
ในการบรรยายช่วงสุดท้าย นายสมศักดิ์ได้กล่าวย้ำว่า ชัยชนะของพรรคการเมืองใหม่นั้น ต้องมาด้วยความโปร่งใส เน้นอุดมการณ์ ไม่ซื้อเสียงเด็ดขาด แม้ว่าในทางปฏิบัติหากการเลือกตั้ง พรรคการเมืองใหม่ได้ตัวแทนเข้ามาเพียง 1 คน ก็ถือว่ามีความหมายมาก
“สุริยะใส” ชูสลายสีหาจุดร่วมสร้างบ้านเมือง
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวบนเวทีด้วยภาษาท้องถิ่นอีสานว่า งานท้าทายพรรคการเมืองใหม่นั้นจะสลายความเป็นสีได้อย่างไร หากสลายสีไม่ได้ พรรคการเมืองใหม่ย่อมไม่มีวันเกิด หากพรรคการเมืองใหม่สามารถนำเอาทุกกลุ่มทุกสี มาพูดคุยกันได้ ถือเป็นความสำเร็จและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของพรรค
เวทีระดมความคิดเห็นนำปัญหาต่างๆ ของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานวันนี้ ทั้งแก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมของธุรกิจค้าปลีก และปัญหาอื่นๆ โดยมุ่งผลประโยชน์ของส่วนรวมนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และตนจะเดินหน้าไประดมความคิดเห็นในจังหวัดอื่นต่อไป ถือเป็นกระบวนการสร้างบ้านสร้างเมือง เป็นจุดร่วมที่ดี
บทบาทการทำงานจะสื่อสารกับประชาชนให้มากที่สุด และต้องสร้างพรรคการเมืองใหม่ให้เข้มแข็ง โดยกล้าฟันธงว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า การกำหนดนโยบายพรรคการเมืองใหม่ จะโดดเด่น แหลมคมที่สุด เหนือกว่านโยบายพรรคการเมืองอื่น เพราะเป็นอิสระไม่ผูกขาดกับนายทุน อีกทั้งนโยบายกำหนดมาจากประชาชน ยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นตัวตั้ง
ทั้งนี้ เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่กล่าวถึงนโยบายพรรคการเมืองใหม่เบื้องต้นว่า จะต้องมีการทวงคืนบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ให้กลับมาเป็นของประชาชน พร้อมกับทวงคืนดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร ที่เกิดปัญหากับประเทศกัมพูชา ที่สำคัญจะต้องมีการปฏิรูปตำรวจ และต้องมุ่งกระจายอำนาจด้านการบริหารอย่างทั่วถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น