++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

เรียงร้อย..ถ้อยกวี....


๐ หาทองคำล้ำค่าพอหาคล่อง
แต่ยากปองหาปราชญ์ฉลาดลิขิต
หาคนซื่อถือสัตย์อุบัติ ณ มิตร
ชั่วชีวิตหวังหายากกว่าอะไร

๐ โลกก้าวหน้าพามนุษย์ก้าวรุดหนี
ตามเทคโนโลยีฉนี้ไฉน
มนุษญ์ธรรมต่ำถอบเหงาหงอยใน
ยุคสมัยยัดสมองเครื่องของกล


๐ ผีหลอกหรือคือเรื่องเปล่าเปลืองเปล่า
คนหลอกเราร้ายแรงแสยงขน
ยังหลีกลี้หนีลับไม่อับจน
แต่ตัวตนหลอกตนหรือพ้นตัว

๐ เพื่ออยู่รอดปลอดภัยเงื่อนไขคัด
จึงส่ำสัตว์เปลี่ยนสีเห็นมีทั่ว
แต่คนหลามลามเลียเดินเยี้ยยั้ว
แฝงเปลี่ยนขั้วแปรค่ายมิง่ายเลย


๐พายร้ายทลายเรือนเสียโล่งรอบ
แต่ยากหอบหินผาที่ชาเฉย
ฝนอาจพังฝั่งเซาะแก่งแกะเลย
แต่ไม่เคยเซาะขังฝั่งทะเล

๐ เสียงติฉินนินทาย่อมบ่าไหล
ซอนซอกเจาะเซาะใจผู้ไขว้เขว
ยากไหลล้ำทำลายยากหากถ่ายเท
พังจุดยืนพื้นเพผู้หยัดยืน


๐ หนทางตีบชีพตันต้องฟันฝ่า
พรหมลิขิตขีดชะตาจักกล้าฝืน
อุปสรรคหักหาญต้องต้านคืน
ทุกข์แสนหมื่นมาขวางสวนทางทุกข์

ซึ่งแรงกรรมทำสร้างยากสร่างสวน
คอยตามกวนก่อขวางมล้างสุข
เหมือนเชื้อเพลิงเริงไฟโหมไหม้ลุก
ถึงเก็บซุกซ่อนใจยังไล่ลาม


๐ ยุคทมิฬหินชาติผงาดผยอง
แรงสมองค่าหมดถูกกดหยาม
แรงโปรโมทโฆษณากลับค่างาม
ยุคเสื่อมทรามเสื่อมศิลป์เสื่อมสิ้นดี

แต่ไม้หอมย้อมยั่วแมลงอยาก
ทนกลั้วกากเดนกินเกลือกกลิ่นสี
คนใจยักษ์หักพร่าเหล่ามาลี
ยังเหลือมีแมลงโง่เฝ้าโผลง


๐ กีฬาดีมีแพ้แลชนะ
เล่นเพื่อละกิเลสชั่วคือตัวหลง
สร้างแนวทางสร้างสรรค์จิตมั่นคง
เพื่อสร้างส่งสำนึกฝนฝึกแรง

กีฦาเลวเหลวไหลมุ่งชัยชนะ
เล่นเพือละโมบเงินเพลิดเพลินแสวง
เสริมเล่ห์โกงโยงใยความไร้แล้ง
เล่นเพื่อแย่งเสพยัดเกมอัตตา


๐ พิษฤทธิ์ร้ายหลายสถานที่ผลาญเผา
ไป่ร้ายเท่าเทียมพิษความริษยา
ผลาญความสุขทุกอย่างเคยสร้างมา
แล้วเผาฆ่าเจ้าของผู้ครองมัน

๐ เห็นทั่วถ้วนมวลมนุษย์มีจุดอ่อน
หากงึมหงอยปล่อยผ่านเนิ่นนานวัน
ยากหลีกผันหลุดพ้นจากผลพวง


๐ ขอโลกนี้มีรักมากสักหน่อย
โลกนั้นจักรักร้อยในสร้องสรวง
สามให้คนจนรักประจักปวง
สอนให้หวงแหนรักทอถักรุ้ง

โลกจึงสวยด้วยใจเต็มใฝ่หวัง
สานกำลังแรงใจเพื่อใฝมุ่ง
เป็นกำลังฝังใจแฝงใฝ่พยุง
โลกอบฟุ้งหอมฝันใฝ่ฟั่นเฟ้น


๐ ความฉลาดปราชญ์ว่าศึกษาสร้าง
รอตั้งแถวแนวทางขีดวางเส้น
ตำราถือคือบทคือกฏเกณฑ์
สมองเจนจัดทั้งรากหยั่งลึก

แต่ปัญญาถ้าได้มาหลายด้าน
รู้บรรสบพบพานการฝนฝึก
ใช้สมองส่องนำจิตสำนึก
รู้จักตรึกตรองหาปัญญาพร้อม


จึงเป็นปราชญ์ฉลาดรับสมกับปราชญ์
ใช่แค่ได้ใบประกาศกระดาษหอม
ใช่สวมครุบฉุยฉายกรีดกรายกรอม
คลุมหัวใจจอมปลอมหลอมเล่ห์กล

๐ ไหว้มวลครูผู้พลีทานของการให้
ไหว้มวลครูผู้ยิ่งใหญ่ในเหตุผล
ไหว้มวลครูผู้ปลุกฝังยังฝูงชน
ไหว้มวลครูผู้สร้างคนให้เป็นครู


๐ ดอกไม้สายรอยสีถึงที่สุด
ดอกโรยหลุดลงดินจนสิ้นหรู
ดอกไม้หอมออมเสน่ห์แห่งเรณู
พอถึงช่วงร่วงพรูไม่อยู่ยืน

ดอกไม้สวยด้วยให้สวนไม้ดอก
แต้มสีสันฝันลอกออกดกดื่น
กลีบดอกผองรองรับการกลับคืน
เพื่อพันธุ์อื่นออกช่อบานต่อบาน


เหมือนคนรวยด้วยทรัพย์แห่งกุศล
ใช่เงินท้นท่วมฟ้ามหาศาล
คนย่อมรวยด้วยใจใฝ่ศีลทาน
ถึงยากไร้ในฐานก็อิ่มแท้

๐ คันจุดไหนให้ประจงเกาตรงเป้า
เว้นเพียงแต่แผลเก่าอย่าเกาแผล
เพราะสามัญนั้นอายจุดพ่ายแพ้
ขืนปากแส่ไปสะกิดจักผิดใจ


๐ ดูสังคมจมปลักเน่าหนักหนา
ดูประชาชนแท้เน่าแค่ไหน
ดูบ้านเมืองเคืองเข็ญเหตุเป็นไป
ดูเห็นได้ให้ดูตรงผู้นำ

๐ คนใจเหี้ยมเกรียมหื่นอาจคืนหาย
คนปากร้ายระรานอาจหวานฉ่ำ
คนขลาดเขลาอาจสลับหววนกลับลำ
แต่คนคร่ำเกียจคร้านป่วยการชี้


๐ ซึ่งผู้ดีมิได้หมายถึงสายเชื้อ
หรือสวมเสื้อห้อยสายสะพายสี
ใช่ยศฐานบานสะพรั่งลาภมั่งมี
แต่อยู่ที่คุณธรรมหนุนนำทาง

๐ อาหารลิ้นกินมากความอยากสูญ
ไขมันพูนพุงออกปลิ้นพอกร่าง
อาหารตาอาหารใจหิวไม่จาง
เสพย์เพื่อสร้างศิลป์ให้มันไขความ


๐ ติมากไปใจหรือด้านดื้อหมอง
ชมมากไปใจผยองลำพองห่าม
ทำอะไรอย่าให้เพลินถึงเกินงาม
คนจะเกลียดเหยียดหยามเพราะทำเมิน

๐ ซึ่งสิทธิ์เสียงเอียงเอนมิเป็นส่ำ
ยุติธรรมทื่อเท่อแล้วเก้อเขิน
ถูกถีบคว่ำคะมำหงายด้วยพ่ายเงิน
เสียงสรรเสริญซาตานบรรสานกุม

๐ อันพิษสงจงอาง-เห่า-หางไหม้
ยังถูกใช้ถ่ายเททำเซรุ่ม
น้ำลายคนพ่นเหม็นกระเซ็นชุม
ยิ่งพ่นสุมยิ่มเสริมพิษร้าย


๐ ธารน้ำฝนบนผ้าไหลบ่าร่วง
เมฆจากสรวงแสงตะวันเฉิดฉันฉาย
อีกแผ่นพื้นผืนดิน,กรวด,หิน,ทราย
ค่าเรียงรายใหญ่หลวงฤาทวงคุณ

๐ เป็นหัวหน้าอย่าหลงทะนงขี่
เป็นเจ้าหนี้ลูกน้องคนองหนุน
ตัวเป็นใหญ่ใจต้องย่อมถนมบุญ
จึงจักขุนเขาอยู่มิรู้เลือน


๐ โบราณว่าห้าของอย่ามองข้าม
หนึ่งปลีกามกบสองคือของเถื่อน
สามอัคคีสี่เล่าปลวกเสาเรือน
ห้านั้นเพื่อนผู้พล่อยถ้อยสอพลอ

๐ หากเผอเรอเผลอไผลล้วนให้โทษ
ผลประโยชน์ยับย่อยลงร่อยหรอ
เสียทรัพย์สินสิ้นสมบูรณ์สูญหลักตอ
ต้องลอยคอทุกข์คำจงสำรวม


๐ สัตว์-พฤกษาป่าเขาลำเนาไหน
มีชีวิตจิตใจอาศัยร่าม
อย่าล้างผลาญร่านร่าเหลิงบ้าบวม
สร้างใจสวมใจศีลซาบรินทรวง

คมทวน คันธนู.....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น