++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หากเราทุ่มเทชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น เราจะเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

การได้ทุ่มเทชีวิตอย่างเต็มที่ในการดูแลผู้ป่วยทำให้พ่อรู้สึกมีคุณค่า มีความสุข อยากทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ เชื่อไหมว่า พ่อจะไม่ยอมแลกความสุขนี้กับอะไร ถึงแม้จะมีคนเอาทรัพย์สมบัติทั้งโลกมากองอยู่ตรงหน้าก็ตาม

พ่อเชื่อว่าหากเราทุ่มเทชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น โดยไม่นึกถึงความสุขของตัวเอง เราจะเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก”

บาทหลวงเอร์เมเนยีลโด้ คาลเดราโร่
Admin
ยักษ์ใจดี และ มีความสุข !

มารู้จัก "คุณพ่อยักษ์" นักบวชคณะคามิลเลียนชาวอิตาเลียน ที่อุทิศตนเพื่อรับใช้ผู้ป่วย ผู้ยากไร้ในสังคมไทย มากว่า 50 ปี

คุณพ่อยักษ์ มีชื่อจริงว่าบาทหลวงเอร์เมเนยีลโด้ คาลเดราโร่ คุณพ่อเล่าว่า ตอนแรกที่ไม่ได้ชื่อยักษ์ แต่ตอนออกจากสนามบินคนที่เห็นเขาเห็นพ่อตัวใหญ่มาก เลยเรียกว่า พ่อยักษ์ๆ ทุกคนเลยเรียกตามตั้งแต่นั้น

หลังจากเรียนภาษาไทยที่กรุงเทพ 9 เดือน พ่อยักษ์ได้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน ที่เป็นที่รังเกียจของคนสมัยนั้น หน้าที่ของพ่อยักษ์ไม่ใช่หมอที่ทำการรักษาทางกาย แต่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาใจ ส่วนมากคนไข้โรคเรื้อนมีปัญหาทางด้านจิตใจ เพราะเขาถูกทอดทิ้งและเป็นที่รังเกียจของสังคม ทำให้รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย...บางคนไม่มีนิ้ว มือ หรือ เท้า

? รักษาใจด้วยความเป็นมิตร, ธรรมและการทำงาน

คุณพ่อยักษ์รักษาใจผู้ป่วยโดยการพูดคุย โอบกอด และทำกิจกรรมกับผู้ป่วยทุกวัน บางคนใช้เวลาไม่กี่วัน จิตใจก็ดีขึ้น หลายคนใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเล่าความในใจออกมา เรื่องเล่าทำให้พ่อยักษ์รู้สึกสะเทือนใจและเจ็บปวดแทนพวกเขาไม่ได้

"เขาเล่าให้พ่อฟังว่า ผมขึ้นรถเมล์ แต่ยังไม่ทันนั่งก็ถูกไล่ลงมา พอเวลามีแผลแล้วไปรักษาที่โรงพยาบาล คนในนั้นก็จะไล่ผมออกมา หรือไม่ก็ไม่ให้เข้าไป เพราะกลัวเอาโรคไปติดต่อคนอื่น....พ่อว่าสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากที่สุด คือ การที่ญาติพี่น้องไม่ยอมรับเขา”

พ่อยักษ์ได้พยายามเยียวยาหัวใจคนเหล่านั้นหลายวิธี วิธีหนึ่งคือการสอดแทรกหลักธรรมทางศาสนาทางพุทธและคริสต์เข้าไป หากวิธีปลอบใจไม่ได้ผล พ่อยักษ์จะให้ทุกคนเดินไปในสวน เพื่อปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วลิสง ถั่วเขียว ทุเรียน เงาะ ผลที่ได้คือนอกจากคนไข้จะเหนื่อยจนลืมทุกข์แล้ว ทุกคนยังได้ทานผลไม้หรือผักที่ตนเองปลูกด้วย...หลายคนดีขึ้น เพราะที่นี่ไม่มีใครรังเกียจเขา ที่นี่คือโลกที่เขาสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกลัวอะไรเลย เราเห็น เราก็ดีใจ

? ความสำเร็จและบทบาทที่เปลี่ยนไป

10 ปีผ่านไป ผู้ป่วยหมุนเวียนเข้ามารักษากว่า 5,000 คน หลายคนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เป็นพ่อค้าแม่ค้า ผู้จัดการ เจ้าของบริษัท คนไหนยังเด็กก็กลับไปศึกษาต่อและยังมีทุนการศึกษาให้ด้วยสำหรับคนที่ไม่มีเงิน ความทรงจำที่เลวร้ายหายไปจากหัวใจของทุกคน พร้อมๆ กับโรคเรื้อนที่ค่อย ๆ หมดไปจากประเทศไทย

หลังจากที่ไม่พบโรคเรื้อนในไทยอีก สถานพักฟื้นโรคเรื้อนโคกวัด จึงเปลี่ยนมาเป็น คามิลเลียน โซเชียล เซ็นเตอร์ (ปราจีนบุรี) หน่วยงานสาธารณากุศลที่ให้การดูแลผู้พิการและผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง โดยไม่คิดค่าตอบแทนใด ๆ

? แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีกำลังใจ

ปัจจุบันผู้สูงอายุในศูนย์นี้มีจำนวนเกือบร้อยคน กว่ามีผู้ดูแลเพียง 9 คนเท่านั้น เมื่อก๊อกน้ำ ท่อน้ำเสีย หรือส้วมแตก พ่อยักษ์ต้องแปลงร่างจากนักบวชไปเป็นช่างประปา หรือเป็นคนสวนเมื่อสวนเริ่มรก เป็นสถาปนิกเมื่อต้องก่อสร้างอาคารหลังใหม่เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มากขึ้น และเป็นเกษตรกรเมื่อต้องปลูกผักและผลไม้ เพื่อหารายได้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของศูนย์

"ตอนนี้อายุเริ่มเยอะ เลยเหนื่อยมาก แต่ความเหนื่อยไม่เป็นอุปสรรคสำหรับพ่อ เพราะเมื่อพ่อได้สวดภาวนาครั้งใด พ่อจะรู้สึกเหมือนพระเจ้าได้ประทานไฟในการทำงานต่อไป...

นอกจากนี้พ่อพยายามทำงานโดยเอาในหลวงเป็นตัวอย่างในการทำงาน ท่านไปเยี่ยมประชาชนในทุกพื้นที่ โดยไม่เหน็ดเหนื่อยหรือกลัวความลำบาก ท่านสร้างโครงการดี ๆ หลายอย่างเพื่อคนไทย ขนาดท่านเป็นกษัตริย์ยังทำงานหนักขนาดนี้ แล้วเราซึ่งเป็นคนธรรมดา ทำไมเราไม่ทำบ้าง ดังนั้น พอพ่อเหนื่อยครั้งใด เวลาคิดถึงในหลวง พ่อจะมีกำลังใจในการทำงานต่อไปทุกครั้ง"

? ความสุขที่สุด

“การได้ทุ่มเทชีวิตอย่างเต็มที่ในการดูแลผู้ป่วยทำให้พ่อรู้สึกมีคุณค่า มีความสุข อยากทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ เชื่อไหมว่า พ่อจะไม่ยอมแลกความสุขนี้กับอะไร ถึงแม้จะมีคนเอาทรัพย์สมบัติทั้งโลกมากองอยู่ตรงหน้าก็ตาม พ่อเชื่อว่า หากเราทุ่มเทชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น โดยไม่นึกถึงความสุขของตัวเอง เราจะเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก”

ชมวิดิโอ http://www.youtube.com/watch?v=SmSMH-9Fqgs

? ร่วมสร้างสุขให้ตนเองและให้คนอื่น

เราเชื่อว่าการใช้เงินอย่างถูกต้อง จะช่วยสร้างสุขที่ยั่งยืนได้ ด้วยหลัก 3 ประการ คือ ใช้เงินเพื่อประสบการณ์ แทนการซื้อสิ่งของ ใช้เงินเพื่อผู้อื่น และทำไม่ต้องมากแต่ทำบ่อย ๆ (ดู http://on.fb.me/1pdvf8w)

ที่คามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์ ปราจีนบุรี ท่านสามารถเดินทางไปเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยและเลี้ยงอาหารพวกเขาได้ด้วยตนเอง ที่ศูนย์มีบริการเตรียมอาหารให้ สิ่งของที่ต้องการในตอนนี้คือ ข้าวสาร ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แต่หากไม่สะดวก จะโอนเงินบริจาคก็ได้ กรุณาดูรายละเอียดที่ www.camillianprachin.org

? #ความสุขจากงานจิตอาสา #ความสุขจากการร่วมแรงเป็นชุมชน #ความสุขจากการภาวนา #ความสุขจากการทำงาน

รู้จัก 8 เส้นทางแห่งความสุข ได้ที่ "ความสุขประเทศไทย" www.happinessisthailand.com (โครงการโดย สสส.)
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารซีเคร็ท, ทรู, borkboon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น