Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557
NOAH โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก
เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับคำว่า "โนอาห์" ในระยะเวลาสั้นๆ ผมจำเป็นต้องหันไปหาที่พึ่งซึ่งใช้เป็นประจำ นั่นคือ พจนานุกรมภาษาอังกฤษและวัฒนธรรม ในพจนานุกรมเล่มดังกล่าวได้อธิบายความหมายของคำว่า Noah ไว้ดังนี้...
"ในไบเบิ้ล ผู้ชายคนหนึ่งถูกเลือกโดยพระเจ้า ให้เป็นผู้สร้างเรือขนาดใหญ่ (Ark) เรือที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ก็เพื่อให้ครอบครัวของเขาและสัตว์ต่างๆ ใช้เป็นที่อาศัย และให้รอดชีวิตจากภัยน้ำท่วมโลก โดยสัตว์ชนิดละ 2 ตัว ถูกเลือกให้ลงไปบนเรือ เรื่องราวและบทเพลงเกี่ยวกับเรือของโนอาห์ มักเกี่ยวข้องกับการเลือกสัตว์ที่จะได้ลงเรือ รวมถึงการมาที่เรือทีละคู่"
ในหนังเรื่อง Noah ก็ได้นำเสนอเรื่องราวสอดคล้องกับข้อความที่ยกมาข้างบน โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโนอาห์ (แสดงโดย รัสเซล โครว์) ผู้มีภารกิจหลักคือ การสร้างเรือยักษ์ให้เหล่าสัตว์โลกได้พักพิง และรอดพ้นจากภัยพิบัติน้ำท่วมโลก
บนเรือของโนอาห์ จึงมีทั้งครอบครัวของโนอาห์และสัตว์ ที่ถูกทำให้หลับในขณะที่เรือลอยไปตามกระแสน้ำ แต่เรื่องราวใน Noah ไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านี้ ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของโนอาห์ ไม่ได้มีแค่ช่วยชีวิตเหล่าสัตว์ แต่ยังรวมถึงการกำหนดชะตาชีวิตของคนในครอบครัว ให้ทุกคนอยู่บนเรือและมีชีวิตจนเหลือถึงคนสุดท้าย
เมื่อถึงคนสุดท้าย คนคนนั้นจะกลายเป็นมนุษย์คนสุดท้ายบนโลก นั่นหมายความว่า เมื่อคนคนนี้ตายไป ย่อมไม่มีมนุษย์บนโลกนี้อีกต่อไป กล่าวง่ายๆ ได้อีกอย่างว่า ภารกิจของโนอาห์ก็คือการรักษาชีวิตสัตว์ และการกำจัดมนุษย์ให้หมดไปจากโลกใบนี้
ในตอนแรก มนุษย์รายสุดท้ายที่จะหลงเหลืออยู่คือลูกชายคนเล็ก แต่ปรากฏว่า ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งโนอาห์เคยช่วยชีวิตไว้จะให้กำเนิดทารก ซึ่งก็คือหลานของโนอาห์
โนอาห์ตัดสินใจว่า ถ้าหากเด็กที่เกิดมาเป็นผู้ชาย เขาก็จะมีชีวิต ในฐานะมนุษย์รายสุดท้าย แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิง จำเป็นต้องฆ่าทิ้ง
ฉากสำคัญที่สุดในหนัง คือฉากคลอดลูก ซึ่งคนดูต้องติดตามและเอาใจช่วยยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ให้โนอาห์ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ
เมื่อมองที่โนอาห์ ด้านหนึ่ง เขาคือผู้ช่วยเหลือสัตว์โลก แต่อีกด้านหนึ่ง เขาต้องมีหน้าที่คอยกำจัดมนุษย์ที่จะเกิดขึ้นมา ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเป็นใคร
ถ้าหากโนอาห์ยึดถือการทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เขาจะกลายเป็นคนที่ทำงานสำเร็จตามที่เขาเชื่อว่า พระเจ้าประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น แต่ในขณะเดียวกัน เขาจะกลายเป็นปู่ผู้โหดเหี้ยมผู้สังหารทารก ซึ่งเป็นหลานของตัวเอง
ฉากดังกล่าวไม่เพียงแต่มีความสำคัญในแง่ประเด็นเนื้อหา แต่ยังถือว่าสำคัญที่สุดในแง่ความเป็นหนังที่ต้องการสร้างอารมณ์สะเทือนใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้กำกับฯ สามารถทำได้ยอดเยี่ยม โดยเชื่อว่าคนดูคงต้องนั่งนิ่ง และอาจถึงขั้นต้องกลั้นน้ำตา เมื่อเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญ
หนังอาจจะราบเรียบ ช้า และน่าเบื่อ เป็นบางช่วง แต่เมื่อถึงเวลาที่จะเป็นช่วงสำคัญที่ต้องทำให้ถึงจุดสูงสุดทางอารมณ์ ผู้กำกับฯ ก็ทำได้และทำได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่บอกไป
อีกอย่างที่ต้องกล่าวถึง และน่าจะเป็นจุดขายของหนัง ก็คืองานสร้างพิเศษซึ่งอยู่ในระดับมหาสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ คนดูผู้สนใจและชื่นชอบงานด้านนี้ รับรองว่ามีให้ดูให้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม
******************
คอลัมน์ หนังเด่น/กฤษดา
ข่าวสดออนไลน์, 18 เม.ย.2557
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น