++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

วิธีอยู่กับความบกพร่องของตัวเองอย่างสร้างสรรค์




มีคนเป็นจำนวนมากชอบคุยว่าตัวเองเป็นคนดีไม่มีข้อบกพร่อง และชอบจับผิดคนอื่น หรือหาข้อบกพร่องในตัวคนอื่นได้เก่ง มักชอบตัดสินพิพากษาคนอื่นว่าไม่ดี บกพร่อง ด้วยสาเหตุต่าง ๆ ข้อบกพร่องของมนุษย์มีทั้งบกพร่องทางกาย ทางใจ ทางสังคม

วันนี้เรามาเปิดใจยอมรับข้อบกพร่องของตัวเองและหาทางอยู่กับมันอย่างสร้างสรรค์ จะได้ไม่ต้องกลายเป็นคนเก็บกดจนกลายเป็นเก็บตัว ซึมเศร้า หรือมีปมในใจ ชอบอวดตัว ชอบกล่าวหาจับผิดคนอื่น ทำให้ขาดมิตรภาพในสังคม ดีไหม?

วิธีอยู่กับข้อบกพร่องของตัวเองอย่างสร้างสรรค์

1.จงเข้าใจและยอมรับว่าความบพร่องเป็นความปกติของมนุษย์ ทุกคนมีข้อบกพร่องทั้งนั้นดังอธิบายแล้ว จงเข้าใจและยอมรับมันเถิดว่าเป็นความปกติของมนุษย์ ถ้าใครไม่มีข้อบกพร่องเลย เขาอาจจะสำคัญตัวเองผิดคิดว่าเป็นเทวดาก็ได้ ปล่อยเขาไปเถิด

2.อย่าเกลียดตัวเอง ถ้าคุณเกลียดตัวเองจากข้อบกพร่อง เช่นคิดว่าไม่สวย ไม่หล่อ คุณจะกลายเป็นคนอ่อนแอและตกเป็นเหยื่อของคนที่ชอบพิพากษาจับผิดคุณ ทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อย และชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นที่คิดว่าเขาดีกว่า จึงเป็นทุกข์ตลอดไป ทำให้ชอบแยกตัว มีปมด้อย และดูถูกตัวเองได้

3.จงรักตัวเองอย่างที่ตัวเองเป็นจริงให้ได้ การจะรักตัวเองได้ คุณต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนตามความเป็นจริง แล้วคุณจะพัฒนาเป็นความรักตัวเองได้ คุณจะมองเห็นคุณค่าของชีวิตตามความเป็นจริงได้

4.ให้นิยามใหม่กับความสมบูรณ์แบบของตัวเอง คุณไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ตามความคาดหวัง หรือพิพากษาตัดสินของคนอื่น คุณมีสิทธิ์คิดและทำในแบบของคุณเองโดยไม่ผิดกฎหมาย คุณจะมีความเชื่อมั่นตัวเองตามความเป็นจริงมากขึ้น มีแรงบันดาลใจที่อยากมีชีวิตอยู่และทำหน้าที่ชีวิตให้ดีมากขึ้นตลอดไป (ทำงาน ทำหน้าที่บทบาททางสังคมกำหนด และทำความดี)

5.อย่าหมกมุ่นกับข้อบกพร่องหรือความล้มเหลวของชีวิต ในแต่ละวันให้คิดมุ่งไปที่ข้อดีที่คุณมีอยู่และสิ่งดี ๆ ที่คุณเคยทำและจะทำให้กับคนอื่นต่อไป (สำคัญมาก) ผู้คนจะชอบคุณมากขึ้น และคุณจะไม่มีเวลานึกถึงข้อบกพร่องของคุณเลย เพราะจิตของคุณไปโฟกัสที่การทำดี ๆ ให้คนอื่น+คิดถึงจุดดีของตนเอง

ในจิตใจของมนุษย์มีเมล็ดพันธุ์ของความดีและความบกพร่องอยู่แล้ว ถ้าเราไปเพ่งดูที่ความบกพร่องเราจะทุกข์มากและแก้ไขก็ลำบาก และผมก็ไม่ได้แนะนำให้คุณแก้ไขข้อบกพร่องเลย แต่วิธีที่ผมพูดถึงเป็นวิธีการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ของความดีให้งอกงามขึ้นด้วยความศรัทธา ความรัก และความหวัง เมื่อเราทำมันอย่างเข้มข้นเมล็ดพันธุ์ของความบกพร่องก็จะค่อย ๆ ฝ่อหายไปเอง เหลือแต่เมล็ดพันธุ์ของความดีงาม เบิกบาน เติบโตมากขึ้น

คราวนี้คุณคงไม่เสียใจน้อยใจกับการที่ไม่มีใครมาสารภาพรัก ไม่มีคนมาเชิญออกทีวี ไม่ได้เป็นกรรมการผู้ทรงเกียรติ หรือไม่ได้เป็นเศรษฐีใหญ่ และคอยคิดถึงข้อด้อยหรือบกพร่องของตนเอง

แต่คุณจะมีความสุขจากภายในได้ดีมากขึ้น แถมมีคนเห็นความงามและมีคุณค่า จากภายในของคุณได้มากขึ้นทุกวัน จนคุณลืมนึกถึงวันเวลาที่ผ่านไป และไม่เคยนึกถึงข้อบกพร่องของคุณอีกเลย...

โดย ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
โลกและชีวิต/แนวหน้าออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น