ความสุข ...
อาจมาจากการกลับไปหาสิ่งเล็กๆที่เรามี
-------------------------------
เคยมีคนพูดถึงเรื่องการใช้ชีวิตเอาไว้ว่า
"ไม่ว่าช่วงตรงกลางของเราจะโลดโผนโจนทะยานสักแค่ไหน
จุดเริ่มต้น...และลงท้าย ก็คือคำว่า “ครอบครัว” อยู่ดี"
สำหรับฉันเอง
ในวันที่รู้ซึ้งถึงความจริงข้อนี้
ก็คือวันที่ฉันล้มป่วย
............................................................................
เมื่อเกือบ 7-8 ปีที่แล้ว
เป็นช่วงเวลาที่ชีวิตฉันโดนโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าอย่างหนัก
เรียกได้ว่า ถ้ารายการแฟนพันธุ์แท้มีจัดแข่งใน Topic โรคกระเพาะอาหาร
ฉันสามารถเป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้าแข่งขันได้เลยล่ะ
วันนั้น...ขณะที่ฉันกำลังยืนปวดท้อง
และพะอืดพะอมคล้ายจะอาเจียนอยู่
เวลาผ่านไปไม่รู้ตัว
รู้สึกว่า โลกของตัวเองดับมืดลงอย่างกะทันหัน
หมอบอกในภายหลังว่า คืออาการช็อก
เพราะความปวดท้องอย่างรุนแรง
นานเท่าไหร่ไม่รู้....ที่หมดสติไป
พอรู้สึกตัวอีกครั้ง
ก็พบว่าตัวเองนอนเหยียดยาวอยู่ที่พื้น หัวอยู่บนตักแม่
และได้ยินเสียง “ ปู...ลูกแม่ ปู...ลูกแม่ ทำใจดีๆไว้นะลูก ”
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยู่ข้างๆ หู
พร้อมกับลมหายใจที่มีกลิ่นยาหม่อง ยาดม อยู่ใกล้ๆ
วันนั้น...มีฉันและแม่อยู่กันตามลำพังสองคนในบ้าน
สิ่งนี้หรือเปล่า...?
ที่เขาเรียกกันว่า ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
มันเป็นความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดี
ที่ไม่เคยคาดหวังอะไรให้ตัวเองเลย
แล้วฉันก็ได้เข้าใจ ได้สัมผัสถึง...จากแม่...
ซึ่งเป็นคนในครอบครัว
ในวันที่ร่างกายชำรุดแต่หัวใจกลับเปิดกว้างมากกว่าเก่า
นานแล้วสินะ
ที่เราคิดว่าความสุขใหญ่ๆ เช่น การมีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ
มีเงินเดือนสูงๆ มีเพื่อนฝูงห้อมล้อมรักใคร่
พรั่งพร้อมด้วยวัตถุ มีบ้านสวย มีรถหรูไว้ใช้
คือสิ่งที่ควรค่าแก่การทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตเพื่อดิ้นรนไขว่คว้า
ลองเปลี่ยน...แล้วเจียดเวลาย้อนกลับไปหาความสุขเล็กๆ
ที่เราเคยมีและไม่เคยจากไปไหนดูบ้างสิ
บางทีเราอาจได้พบกับวิถีทางชีวิตที่อ่อนโยนขึ้น
เพราะการตั้งค่าความสำคัญให้กับสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไป
ที่สำคัญ- - เราคงเหนื่อยกันน้อยลง
และยิ้มให้กับชีวิตได้มากกว่าเดิม
ڪے
Thk U.#ปูปรุง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น