++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

รู้จัก "บิตคอยน์" ก่อนคิดจะเสี่ยง




คนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้จัก "บิตคอยน์" แต่คนที่รู้จักบางคนเรียกว่า "เงินเทียม" บ้างก็เรียกว่า "เงินเสมือน" ในโลกดิจิตอลที่ไม่ได้ออกโดยธนาคารกลาง กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก คนไทยเองก็เริ่มเข้าไปซื้อขายกัน

เหตุที่บิตคอยน์ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะช่วยให้การโอนหรือจ่ายเงินในอินเตอร์เน็ตสะดวกสบาย ต้นทุนต่ำ เนื่องจากสามารถโอนระหว่างกันโดยตรงไม่ต้องผ่านธนาคารพาณิชย์

พูดง่ายๆ บิตคอยน์คือตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เงินสกุลใหม่ที่ไม่อยู่ในการควบคุมของธนาคารกลาง ใช้แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ หรือใช้ซื้อสินค้าต่างๆ แทนเงินได้ทุกอย่าง แต่ต่างจากเงินสกุลต่างๆ เพราะไม่มีเงินทุนสำรอง หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับ

ในยามที่ค่าเงินในกระเป๋าเสื่อมค่าลงทุกวัน บิตคอยน์จึงจูงใจให้คนหันไปหาแหล่งลงทุนที่คิดว่าให้ประโยชน์มากที่สุด นักลงทุน นักเก็งกำไรทั้งหลายจึงหันมาลงทุนในบิตคอยน์ แทน ราคาบิตคอยน์เคยอยู่ที่ 10 เซ็นต์ ไม่น่าเชื่อในปี 2010 ราคาพุ่งถึง 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ ในไทยเองว่ากันว่าราคา สูงถึง 19,000 บาท

ทุกวันนี้ประเทศที่นิยมเล่นบิตคอยน์มากที่สุดคือจีน เรียกว่ามากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ส่วนหนึ่งเพราะเก็งกำไร และเพื่อหนีการตรวจสอบของทางการ มีจำนวนไม่น้อยเป็น นักค้าเงินตัวยง

แต่ไม่นานมานี้บิตคอยน์ตกเป็นข่าวใหญ่แบบมีข้อกังขา เมื่อบริษัท Mt.Gox ซึ่งเป็นผู้รับฝากและแลกเปลี่ยนรายใหญ่ ประกาศล้มละลายและปิดเว็บไซต์ อ้างว่าถูกแฮกเกอร์เจาะระบบและโดนขโมยบิตคอยน์ ทั้งของบริษัทและลูกค้า 850,000 บิตคอยน์ หรือราวๆ 470 ล้านเหรียญสหรัฐ

การที่ "บิตคอยน์" ไม่มีทุนสำรองและไม่มีกฎหมายรองรับจึงมีความเสี่ยง จะเห็นได้จากราคาพุ่งกระฉูดอยู่ๆ ก็ดิ่งวูบไม่ต่างจากการปั่นหุ้นหรือการเก็งกำไรแต่อย่างใด

ฉะนั้น หากใครคิดจะเข้าไปลองเสี่ยงต้องศึกษาให้ดี เผลอๆ อาจจะกลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟได้ง่ายๆ

คอลัมน์ เมืองไทย 25 น./ทวี มีเงิน
ข่าวสดออนไลน์, 29 มี.ค.2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น