......................ปราภวสู
.. (หันทะ มะยัง ปะราภะวะสุตตะปาฐัง ภะณามะ เส)
สุวิชาโน ภะวัง โหติ,....................ผู้รู
ทุวิชาโน ปะราภะโว,....................
ธัมมะกาโม ภะวัง โหติ,.................ผู้ใคร่
ธัมมะเทสสี ปะราภะโว,..................ผู้
๑. อะสันตัสสะ ปิยา โหนติ..............นะ สันเต กุรุเต ปิยัง,
อะสะตัง ธัมมัง โรเจติ.....................ตัง ปะราภะวะโต มุขัง,
ผู้ใดทำความรักใคร่ในอสัตบุรุษ, ไม่ทำความรักใคร่ในสัตบุรุษ,
เขาชอบใจในธรรมของอสัตบุรุษ, ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๒. นิททาสีลี สะภาสีลี.....................
อะละโส โกธะปัญญาโน..................
ผู้ใดเป็นผู้ชอบนอนหลับ, ชอบพูดคุย, ไม่ขยัน เกียจคร้านการงาน,
และเป็นคนมักโกรธ, ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๓. โย มาตะรัง ปิตะรัง วา................ชิณณะกัง คะตะโยพพะนัง,
ปะหุสันโต นะ ภะระติ......................ตั
ผู้ใดมีความสามารถอยู่, ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา, ผู้ชราอันมีวัยหนุ่มผ่านไปแล้ว,
ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๔. โย พ๎ราห๎มะณัง สะมะณัง วา.......อัญญัง วาปิ วะณิพพะกัง,
มุสาวาเทนะ วัญเจติ.......................
ผู้ใดหลอกลวงสมณพราหมณ์, หลอกแม้วณิพกคนขอทานอื่นใดด้
ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๕. ปะหุตะวิตโต ปุริโส.....................
เอโก ภุญชะติ สาธูนิ.......................
ผู้ใดมีทรัพย์มีเงิน มีของเหลือกินเหลือใช้, เขาบริโภคของที่ดีๆ นั้นแต่ผู้เดียว,
ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๖. ชาติถัทโธ ธะนะถัทโธ...............
สัญญาติมะติมัญเญติ............
ผู้ใดหยิ่งเพราะชาติกำเนิด, หยิ่งเพราะทรัพย์, หยิ่งเพราะโคตร,
และดูหมิ่นซึ่งญาติของตน, ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๗. อิตถีธุตโต สุราธุตโต.................อั
ลัทธัง ลัทธัง วินาเสติ.....................
ผู้ใดเป็นนักเลงหญิง, นักเลงสุราและนักเลงเล่นการพนั
เขาได้ทำลายทรัพย์ที่หาได้มาให้
๘. เสหิ ทาเรหิ อะสันตุฏโฐ..............เวสิ
ทุสสะติ ปะระทาเรสุ....................
ผู้ใดไม่พอใจรักใคร่ในภรรยาตน, กลับไปเที่ยวซุกซนกับหญิงแพศยา,
และลอบทำชู้กับภรรยาคนอื่น, ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๙. อะตีตะโยพพะโน โปโส.............อาเนติ ติมพะรุตถะนิง,
ตัสสา อิสสา นะ สุปปะติ.................ตัง ปะราภะวะโต มุขัง,
ชายแก่ผู้วัยหนุ่มผ่านไปแล้ว, ได้นำหญิงสาวน้อย (มีถันเท่าลูกมะพลับ)
มาเป็นภรรยา, เขานอนไม่หลับเพราะความหึงหวง, และห่วงอาลัยในหญิงนั้น,
ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
๑๐. อิตถิง โสณฑิง วิกิริณิง...........ปุริสัง วาปิ ตาทิสัง,
อิสสะริยัส๎มิง ฐะเปติ......................ตั
ชายใดตั้งหญิงนักเลงใช้จ่ายสุรุ
ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมาเป็นพ่
๑๑. อัปปะโภโค มะหาตัณโห..........ขัตติเย ชายะเต กุเล,
โส จะ รัชชัง ปัตถะยะติ..................ตัง ปะราภะวะโต มุขัง,
ผู้ใดเกิดในตระกูลกษัตริย์, มีโภคะน้อย, แต่มีความอยากใหญ่,
ปรารถนาราชสมบัติ, ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม,
เอเต ปะราภะเว โลเก.....................ปัณฑิ
อะริโย ทัสสะนะสัมปันโน...............
ผู้เป็นบัณฑิตสมบูรณ์ด้วยทั
ทั้งหลายเหล่านั้นชัดแล้ว, ท่านย่อมเว้นสิ่งเหล่านี้เสีย, (เมื่อเป็นเช่นนี้)
ท่านจึงพบและเสพแต่โลก ซึ่งมีแต่ความเจริญ (ฝ่ายเดียว),
อิติ,..........ด้วยประการฉะนี้
...คัดลอกเนื้อหามาจาก...
หนังสือสวดมนต์-ไหว้พระ-
ธรรมานุสรณ์แด่พระอาจารย์สุโข กตปุญโญ
http://www.dhammajak.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น