++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทำได้แบบนี้ รักนี้ก็ยาวาวาวาววววว นานานนนนนนนน...จ๊า.....

ไม่โกรธพร้อมกัน

คงไม่ต้องถึงขั้นว่าเมื่อใดคนใดร้อนเป็นไฟ แล้วอีกคนต้องเย็นประดุจน้ำ
เพราะในความเป็นจริงแล้ว น้ำกับไฟอยู่ด้วยกันไม่ได้
แต่เป็นการเปรียบเปรยว่าหากคุณเกิดอารมณ์ร้อนขึ้นมา
เขาหรือเธอก็ควรจะนิ่งเสีย ไม่ใช่ว่าเธอแรงมาฉันก็แรงไป
ช่วยกันกระพืออุณหภูมิให้สูงยิ่งขึ้น
มันไม่ต่างกับการที่คนรักกัน แต่กลับมาสาดโคลนใส่กัน
ลองนึกภาพดูนะ หากคนสองคนอยู่ในอารมณ์โกรธทั้งคู่
คำพูดคำจาคงดุเดือดเชือดเฉือนกันน่าดู
ดังนั้นหลายๆ คู่จึงมักจะทำข้อตกลงไว้ก่อนว่าเราจะไม่โกรธพร้อมกันเด็ดขาด

ไม่โกรธข้ามคืน

ต่อเนื่องมาจากข้อแรก คือนอกจากจะไม่โกรธพร้อมกันแล้ว
ก็ไม่ควรจะโกรธกันข้ามวันข้ามคืนด้วย
แม้ว่าอารมณ์โกรธน่ะไม่เข้าใครออกใคร และก็ห้ามยาก
ทำได้อย่างมากก็แค่ ข่มอารมณ์โกรธไว้
แต่เมื่อโกรธขี้นมาแล้ว ก็อย่าเก็บเอามาเป็นเรื่องค้างคาใจ
เคลียร์ได้ก็ควรเคลียร์ให้จบภายในวันนั้น อย่าได้พกพาอารมณ์โกรธเข้านอนไปด้วย
เพราะนอกจากจะทำให้คุณนอนไม่หลับแล้วคู่ กรณีของคุณก็พลอยหลับไม่ลงไปด้วย

ไม่ขึ้นเสียงใส่กัน

ก็ยังเป็นผลสืบเนื่องจากอารมณ์โกรธอยู่นั่นเอง
ไม่ว่าจะโกรธเกรี้ยวขนาดไหน
หรือเพียงแค่เป็นความคุกรุ่นไม่พอใจอยู่ในอก
แต่น้ำเสียงที่สื่อสารออกมานั้น
จะมีความเข้มข้นหนักเบา และสะดุดหูต่างกันไป
ความดังของเสียงอาจจะเริ่มต้นจากพูดเสียงสะบัด
หางเสียงตวัดขึ้นสูงไปจนถึงขั้นตวาดแว้ดๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลย
ส่วนคุณพ่อบ้าน ก็อาจจะเผลอเรอตะคอกใส่หน้าสุดที่รักได้
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ก็เพียงเพราะอารมณ์พาไปทั้งนั้น
ดังนั้น เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้วจริงๆ ให้ใช้วิธีนิ่งเสีย
แล้วก็ปลีกตัวออกห่างๆ จะเป็นการดีที่สุด

ไม่ยุแหย่ยั่วยุ

ไม่ว่าหญิงหรือชาย เมื่อมีปากเสียงกันแล้ว นอกจากไม่ขึ้นเสียงใส่กัน
ทั้งคู่ควรระวังคำพูดที่จะทำร้ายซึ่งกันและกัน เพราะคำพูดที่ยั่วยุ
ยั่วอารมณ์ไม่ได้ทำให้ปัญหามีจบลงได้
ทั้งนี้ทั้งคู่ต้องอดทน หนักแน่นและหันหน้ามาพูดจากันดีๆดีกว่า

ไม่ลงไม้ลงมือ

สาเหตุหลักสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้หลายคู่ต้องยุติชีวิตรักนั้น
มาจากการถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่รัก
โดยเฉพาะฝ่ายหญิง ที่มักจะโดนท้าร้ายอยู่เสมอ
ดังนั้นไม่ว่าจะประสบปัญหาร้ายแรงสักเพียงใด
ขอให้ตระหนักไว้ว่า คนตรงหน้า คือคนที่เราตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว
เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้น “คนรักกัน จะไม่ทำร้ายกัน”

ไม่รื้อฟื้นเรื่องอดีต

เราอาจจะไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็เลือกจำเฉพาะส่วนที่ดีๆได้
เรื่องราวใดที่สร้างความบาดหมางใจ บั่นทอนความรักความรู้สึกดีๆที่มีต่อกัน
ก็ควรลืมมันเสีย เก็บไว้เป็นบทเรียนหรือประสบการณ์สอนใจ
ถ้าจะนั่งรำลึกความหลังก็ควรพูดถึงแต่เรื่องดีๆ ของเขาหรือเธอ
ก็จะทำให้คุณทั้งสองมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่เสมอ

ไม่เงียบเกินไป

เป็นบ้างไหม อยู่กันไปนานวันเข้า คุยกันแทบจะนับคำได้
ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องคุยมันหายไปไหนหมด
กลับเข้าบ้านก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ อย่างนี้ไม่ดีแน่นอน
คุณอาจจะแย้งว่า อยู่กันมาหลายปี คุยกันจนหมดเรื่องคุยแล้ว
อันนี้คุณกำลังหลอกตัวเองอยู่แน่ๆ เรื่องคุยไม่มีวันหมดหรอก
ถามใจตัวเองดีกว่า ว่าความเงียบระหว่างสองเราที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะอะไรแน่
ความเงียบจะนำมาซึ่งความห่างเหินและหมางเมิน
จนในที่สุด คุณอาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกันได้ในสักวัน

เพราะฉะนั้น หันหน้ามาคุยกันเถอะ เรื่องราวสัพเพเหระต่างๆ
ให้เขาหรือเธอ รู้สึกว่าคุณยังอยู่เคียงข้างเสมอ
เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจได้แล้ว

ไม่ท้าทายเรื่องเลิก

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้
เพราะหากเราพูดจาท้าทายเรื่องเลิกกันหลายๆครั้ง
ความรู้สึกที่โดนท้าทาย อาจชินชาเข้าสักวัน
จนความรักที่อยู่มันถูกบั่นทอนไปไม่รู้ตัว
และในที่สุด ชีวิตรักก็จะสั้นลงกว่าที่คิดไว้

1 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดเลยครับ เพราะผมก็ไม่รู้จะหาทางออกและกำลังใจอย่างไรดี ... ผมถูกบอกเลิก เพราะเรื่องเล็ก ๆ บางประการ

    ตอบลบ