++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก อย่ามัวทำบุญที่อื่นแต่ลืมพ่อแม่ตัวเอง

สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู

ช่วงนี้ฝนตกเยอะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตง่ายเลยค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาพีร์พาแม่ไปเที่ยวทะเลมาค่ะ ดีนะคะที่ฝนตกวันอาทิตย์ตอนจะกลับพอดีเลย แต่ลูกชายก็ไม่วายเป็นไข้ ดูแลลูกไปดูแลลูกมาก็เลยติดมาด้วย บ้านนี้มีกรรมฆ่าสัตว์ติดตัวมากันทั้งบ้าน เลยชินที่คนที่บ้านไม่สบายบ่อยเหมือนกันค่ะ ก็จะหมั่นปล่อยสัตว์และทำบุญด้วยยากันเป็นประจำ ผลที่ได้คือเวลาไม่สบายอาจจะไม่ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาล แค่ทานยาก็หายได้ค่ะ ไม่สบายครั้งนี้เล่นเอามึนดีเหมือนกันค่ะ คิดงานไดอารี่ส่งไม่ค่อยออกเลย มาคิดออกได้ตอนนาทีสุดท้ายค่ะ

เมื่อเย็นที่ผ่านมามีลูกค้าประจำโทรมาอัพเดทดวงของเธอว่าเป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้เธอไปไหว้พระสวดมนต์ที่วัดได้ทุกวันศุกร์ แถมกลับมาที่บ้านยังได้ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน มีโอกาสได้ทำบุญตลอดเลย เธอยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้างเธอสว่างขึ้นบ้างหรือยัง พอเธอพูดเสร็จพีร์ก็อนุโมทนากับการกระทำของเธอค่ะ ทำในรูปแบบได้ดีมาก ๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ

เธอเล่าให้ฟังอีกว่าเมื่อคืนเธอฝันเห็นหวย เธอเดินไปร้ายขายสลาก พ่อค้านำเสนอเลขที่ตรงกับในฝันของเธอเลย ตัดสินใจซื้อมาหลายใบปรากฏว่ามันออกตามที่เธอฝัน เธอเลยถามว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำบุญอะไรดี พีร์บอกพี่เขาให้ไปดูแลพ่อแม่ก่อนเป็นสิ่งแรก ยังไม่ต้องคิดจะไปทำอย่างอื่น

ดวงเธอมีจุดอ่อนเรื่องของการกตัญญูกับพ่อแม่ ชอบที่จะทำบุญแต่กับคนนอกบ้าน พอได้ทำจะมีความสุขมาก ๆ ทำบุญที่วัดถึงไหนถึงกัน หลักหลายหมื่นก็มีความสุขมาก ๆ สิ่งที่เธอพลาดครั้งใหญ่ในดวงเธอตั้งแต่ครั้งแรกคือ การเงินเธอมรณะ ทรัพย์สินรั่วง่ายมาก ๆ ไม่สามารถรักษาทรัพย์ที่หามาได้ ทั้งที่เงินเดือนที่ได้ก็เฉียดแสนได้ ตอนนี้เธออายุสี่สิบต้น ๆ เธอยังมีภาระทางการเงินจากที่เธอใช้เงินเกินตัวมาตลอด มาดูดวงครั้งแรกแนะนำเรื่องการใช้เงินให้บริหารเงินให้เป็น และเริ่มกตัญญูกับพ่อแม่ให้ได้ก่อน เธอจะมีข้ออ้างว่าเธอมีภาระหนี้สินที่ต้องใช้ ความจริงหนี้สินส่วนหนี้สิน ให้แม่ส่วนให้แม่ เวลาจะใช้จ่ายของในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือจะซื้ออะไรให้คิดนาน ๆ จะรอเงินให้แม่ตอนที่รวยก่อนคงเป็นไปไม่ได้

เธอยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าจะให้แม่ก่อน จนกว่าเธอจะมีเงินเหลือเฟือ เธอคิดแบบนี้ผ่านมาจนเธออายุสี่สิบแล้ว เธอเล่าให้ฟังอีกว่าความคิดเห็นไม่เคยตรงกับแม่เลย ทุกวันนี้เธอไปไหว้พระสวดมนต์แทนที่แม่จะอนุโมทนา กลับมากระแนะกระแหนเธอต่างๆนานา ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกโกรธมาก คือแม่บอกว่าไปวัดทำบุญไม่เห็นจะมีเงินเก็บหรือจะมีเงินมากขึ้นกว่านี้เลย เธอวางแผนให้น้าไปกล่อมแม่ให้เขาใจเธอด้วย ว่าเธอมาถูกทางนะไม่ได้หลงทางเลย เพื่อที่จะไม่ให้แม่ขวางทางการปฏิบัติธรรมของเธอ ชีวิตตั้งแต่เกิดมาความเห็นของเธอกับแม่มันสวนทางกันตลอด แม้กระทั่งเรื่องทางธรรม ซึ่งพีร์แนะนำพี่เขาไปว่า แม่พูดถูกแล้วไม่ได้พูดผิดหรอกนะ การที่พี่จะให้แม่ยอมรับในตัวพี่ว่าธรรมะช่วยให้ชีวิตพี่ดีขึ้นได้นั้น ต้องมุ่งเน้นการแก้ไขขัดเกลาข้อบกพร่องของตัวเองก่อน ไม่ใช่ที่พี่ไหว้พระสวดมนต์ ถือศีล นั่งสมาธิ จะทำให้เขายอมรับว่าพี่ทำถูกทาง ความจริงการตักเตือนของแม่ถูกแล้ว ควรเอามาแก้ไขปรับปรุงก่อน เริ่มต้นจากการทำบุญกับแม่ก่อน เธอบอกว่าให้แม่ไปแม่ก็เอาไปช่วยญาติ ๆ ยามเธอเดือดร้อนแม่ไม่เห็นมาช่วยเธอบ้างเลย พีร์ถามกลับไปว่า ตอนเรียนหนังสือสมัยที่แม่พี่ส่งพี่เรียนจบ เขาเคยถามพี่ไหม ว่าพี่เอาเงินไปทำอะไรบ้าง บางทีเอาไปซื้อของไร้สาระ หรือเลี้ยงข้าวเพื่อนบ้าง ดังนั้นเงินที่ให้เขาไป จะคิดทำไมว่าเขาจะไปใช้อะไร ส่วนกรณีที่ทำไมเขาไม่ช่วยพี่ยามที่เดือดร้อน ตอนที่ทำงานหาเงินได้เคยให้เขาบ้างไหม ไม่เคยให้ และพี่เป็นคนที่ได้เงินเดือนเยอะ และส่วนตัวใช้จ่ายเงินไม่ระวังซื้อของฟุ่มเฟือยตลอด เธอก็พูดขึ้นมาว่าอย่างนั้นคงต้องแก้ที่ลูกพี่ด้วยแน่เลย เพราะลูกพี่ก็ใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนกัน บอกว่าพี่เริ่มแก้ไขที่ตัวเองก่อนดีที่สุด วันหนึ่งลูกย่อมทำตามเราได้

เธอยอมรับว่าไม่เคยมองมุมนี้เลย เธอเอะใจขึ้นมานิดหนึ่ง เปรยออกมาว่าพี่สาวสองคนของเธอให้เงินแม่ตลอดทั้งที่มีเงินเดือนน้อยกว่าเธอ ทำไมถึงได้รวยกว่า เธอบอกว่าคงไม่สายเกินไปใช่ไหม บอกเธอว่าไม่สายค่ะ ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์กันอยู่

จุดหนึ่งคงไม่ได้แก้ไขกันง่าย ๆ ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว แต่ต้องได้เริ่ม การที่เธอจะก้าวทางธรรมได้ดี ต้องไม่แบ่งแยกระหว่างที่บ้านกับวัดออกจากกัน ต้องใช้บ้านเป็นวัด ธรรมะที่จริงไม่ได้มีแบ่งแยก มีแต่ความลงตัวต่างหาก เธอสงสัยว่าแล้วธรรมะกับเงินส่วนตัวมันเกี่ยวกันตรงไหน ก็บอกเธอว่าเกี่ยวสิค่ะ เราจะก้าวหน้าทางธรรมะได้ดี เรื่องทางโลกต้องประสบความสำเร็จด้วย การประสบความสำเร็จได้หมายถึง การทำอะไรที่สูงเกินความสามารถ ทำงานที่เขามอบหมายมาให้ได้ดีไม่มีบกพร่อง การเงินส่วนตัวต้องใช้ให้เป็น ไม่ใช้เกินตัว การมีภาวะหนี้สินที่มากเกินไปจิตใจจะกระวนกระวาย ใจจะฟุ้งซ่านเยอะ ซึ่งเรื่องราวของพี่เขาไม่ได้เกิดจากบาปกรรมที่หาเงินไม่ได้ เกิดจากอยากได้อะไรแล้วใช้เงินซื้อตามความอยากต่างหาก

พีร์ยกตัวอย่างครูบาอาจารย์สองสามท่าน ที่ท่านใช้สมบัติบนโลกแบบไม่ได้เกินตัวให้ฟัง พี่เขาเริ่มเห็นภาพธรรมะที่แปลได้อีกย่างหนึ่งคือความเป็นธรรมดา ธรรมดาเรื่องง่าย ๆ พื้น ๆ คนไปทำให้มันสับสนวุ่นวายยุ่งยากเกินไปต่างหาก ตอนแรกพี่เขาแปลออกมาว่าสมถะเรียบง่าย นั้นหมายถึงลำบาก ๆ ซึ่งต้องยกคำของในหลวงมาใช้ค่ะ “พอเพียง” พอเพียงเรียบง่ายสมถะ ไม่ได้หมายถึงไม่มีของใช้ดี ๆ ไม่ได้ห้ามกินข้าวของอร่อย ๆ ไม่ได้ไม่ให้นอนที่นอนนุ่มสักหน่อยค่ะ แต่คือซื้อของแค่พออิ่ม พอใช้ เหลือเก็บ เหลือให้คนอื่นอีก

พอเพียงเป็นสิ่งที่ทำได้จริงค่ะ จุดเริ่มต้นสำหรับเธอคือ เริ่มทำดีกับที่บ้าน เรื่องลูกเรื่องในครอบครัวต้องทำให้แม่รู้สึกว่า เธอไม่ได้เป็นความบกพร่องหรือสร้างภาระให้คนอื่น และเน้นให้ใช้บ้านเป็นวัดไม่ใช่แยกออกจากกัน ถ้าเธอทำอย่างนี้ วันหนึ่งแม่จะยอมรับได้แน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น