++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เปิดอกคุณแม่ยังสาว! บทบาทที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด


การรับบทบาทเป็นแม่คนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้แล้ว ยังต้องสั่งสอนขัดเกลาเพื่อให้เป็นคนดีในสังคม แต่หากหญิงคนนั้นเกิดมีลูกในวัยเรียนโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาควรปฏิบัติตัวอย่างไร จะพร้อมสำหรับคำว่า "แม่" หรือไม่ วันแม่ปีนี้ขอพาไปล้วงลึกความในใจของคุณแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่อายุยังน้อย และในบางมุมก็อาจมองได้ว่าเป็นปัญหาของสังคมไทย ที่นับวันคุณแม่ยังสาวกลุ่มนี้กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ

จอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หนึ่งในเคสคุณแม่วัยรุ่น เล่าว่า เธออาศัยอยู่กับยาย พอมีเพื่อนชายและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยไม่ได้ป้องกัน จึงทำให้เธอท้องแบบไม่ตั้งใจ เมื่อยายทราบก็ไม่อยากเธอให้ทำแท้งและเธอเองก็กลัวการทำแท้งด้วย เธอจึงรับบทคุณแม่วัยทีนในที่สุด ส่วนในการดูแลลูกเนื่องจากทางบ้านค่อนข้างยากจน จึงต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเงินซื้อนมให้ลูก ทำให้ไม่ได้เลี้ยงลูกเองมากนัก

"เรื่องเลี้ยงดูก็คงเป็นยายเลี้ยงเสียส่วนใหญ่ เราเองต้องทำงานหาเงิน ก็เลยต้องฝากยายเลี้ยงก่อน แต่เราก็พยายามามาหาลูกให้บ่อยๆ ส่วนการเรียนรู้การเลี้ยงดูก็เรียนรู้เอาจากยาย ตอนที่รู้ตัวว่าท้องแรกๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย เหมือนเราพลาดมากกว่า แต่พอคลอดออกมาแล้วรู้เลยว่า เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น ต้องเป็นผู้ใหญ่เพิ้มขึ้นเพื่อลูก"


ส่วน เจน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี คุณแม่ยังสาวอีกคน เผยว่า เมื่อรู้ตัวว่าตั้งท้องก็อึ้งอยู่นาน และเคยมีความคิดจะทำแท้ง เธอหนักใจและคิดมากทุกวันเนื่องจากไม่พร้อมในเรื่องเงิน แต่ก็ไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำแท้ง เมื่อปล่อยเวลาผ่านไปทำให้อายุครรภ์มากขึ้น เธอจึงตัดสินใจรับบทคุณแม่ในที่สุด

"ช่วงนั้นแพ้ท้องรุนแรงมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ ต้องนอนอย่างเดียว ประมาณเกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ไปเรียน ตอนแรกๆเคยคิดว่าจะเอาออก เพราะอยากเรียนต่อ พอคิดว่าจะเอาออกก็กังวลเรื่องเงินค่าทำ จะเอามาจากไหน จะทำที่ไหน จะเอาออกทันไหม จะเจ็บไหม จะตกเลือดตายไหม คือคิดเยอะแบบหาทางออกไม่เจอ สุดท้ายก็ไม่ทำ จนเราคลอดออกมาแล้วได้เลี้ยงลูก ถึงรู้ว่าไม่ควรคิดทำร้ายลูก ซึ่งถ้าทำไปแล้วมันเป็นอะไรที่น่าสงสารมาก บาปด้วย ส่วนคุณพ่อคุณแม่เราได้บอกท่านตอนหลังคลอด จริงๆอยากบอกตั้งนานแล้ว คือตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก พอบอกไป คุณแม่ร้องไห้เลย ท่านก็อึ้งๆทั้ง 2 คน แต่คุณพ่อก็เดินมาอุ้มหลาน แม่เล่าตอนหลังว่าพ่อกลับไปนอนไม่หลับเลย แล้วพ่อกับแม่ก็ซื้อตู้เย็น ซื้อของใช้ให้ ซื้อนมกะเสื้อผ้าเด็กมาให้หลาน มาเยี่ยมหลานบ่อยขึ้น แล้วก็ช่วยหาพี่เลี้ยงเด็กให้ตอนเราไปเรียน สรุป พ่อแม่ช่วยเหลือทุกอย่าง และไม่ซ้ำเติม จนเรารู้สึกละอายใจ"

ส่วนการเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงลูก เธอเล่าว่า มีพยาบาลมาสอนตอนหลังคลอดเพราะต้องนอนโรงพยาบาลสามวัน พยาบาลก็จะมาบอกวิธีอาบน้ำ ป้อนนม สอนวิธีให้เด็กเรอหลังกินนม การเปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วก็การใช้ยาเช็ดสะดือตอนยังไม่หลุด เป็นต้น นอกจากนี้ เธอยังมองว่าการเป็นแม่ในขณะที่อายุยังน้อย วุฒิภาวะในการเลี้ยงลูกย่อมไม่ดีเท่าคนที่พร้อมกว่าแน่นอน

"ตอนนี้รู้สึกแย่กับตัวเองมาก เหมือนคนไม่เอาไหน ดูแลลูกไม่ดีพอ วันไหนที่ต้องไปเรียนก็ไม่มีคนอยู่ด้วย พอกลับมาบางทียุงกัด หรือนอนกลิ้งไปตกร่องขอบเตียง คิดย้อนกลับไปก็สงสารลูกมาก ที่มีของกินของใช้มาเลี้ยงลูกทุกวันนี้ก็มาจากพ่อกับแม่ทั้งนั้น ตอนนี้เหมือนเราเป็นพี่มากกว่าแม่ ที่ทำได้ตอนนี้ก็คือไปรับลูกทุกวันศุกร์ ซื้อขนม-ของเล่นให้ สอนอ่านหนังสือ ซื้อหนังสือให้ เท่านี้แหละที่ทำได้ แต่ก็ทำให้เราอารมณ์เย็นขึ้น ทนอะไรหลายๆอย่างได้เยอะขึ้น ไม่สนใจเสียงว่ากล่าวของใคร จะมามัวอายไม่ได้แล้ว ทำให้เราคิดอยากจะตั้งใจเรียน ทำให้ดีที่สุดเพื่อตัวเองและลูก เพื่ออนาคตที่จะมีความสุข เพื่อที่จะไม่ให้ใครมาว่าได้ว่าท้องตั้งแต่อายุน้อยๆ แล้วเอาตัวไม่รอด"

ด้าน "จุ๊" จุฑารัตน์ คำภูเวียง นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แสดงทัศนะต่อประเด็นคุณแม่วัยทีนในสังคมไทยว่า จากประสบการณ์ที่เรียนในชั้นคลินิค วอร์ดสูติกรรม เธอเคยทำคลอดคุณเเม่อายุน้อยสุดคือ 14 ปี และก็มีในช่วงอายุ 18-20 ปีด้วย เธอมองว่าเด็กที่เกิดมาในสภาวะที่พ่อเเม่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเเบบนี้ส่วนใหญ่การเลี้ยงลูกยังไม่ดีนัก ควรให้เเม่ของวัยรุ่นเป็นคนสอนเเละคอยเเนะนำการเลี้ยงลูก เเม่ควรให้กำลังใจหาทางออกคุยกับลูกตัวเองดีๆ ค่อยๆคิดเเก้ปัญหาไปทีละเรื่อง

"เช่นว่าถ้าไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน ก็ลองเสนอแม่วัยรุ่นว่าเป็นไปได้มั๊ยที่ทำงานเเถวบ้าน จะได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเองเพราะไม่มีใครเลี้ยงลูกตัวเองได้ดีเท่าเเม่แท้ๆค่ะ เเละนมเเม่ก็ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้มีประโยชน์ต่อเด็กทั้ง IQ EQ ด้วย เเละส่วนตัวมองว่าวุฒิภาวะระดับนี้ก็ยังเป็นเเม่ไม่ได้ดีเท่าที่ควร เเต่ตัววัยรุ่นเองก็ต้องเลี้ยงลูกให้มากที่สุด ส่วนผู้ปกครองต้องคอยให้ความรู้ ให้เเรงเสริมให้น้องเค้ามีความรับผิดชอบปลูกฝังความเป็นเเม่เข้าไป แต่อาจทำได้ยาก"

ส่วน "ป้อง" นศพ. ธวัชสภณ ธรรมบำรุง นักศึกษาปีที่ 5 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า และในฐานะนายกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย(สพท.) เผยถึงภาพรวมของคุณแม่วัยรุ่นว่า คุณแม่กลุ่มนี้พบเยอะพอสมควรในสังคมไทย ส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พลาดเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา ก็ปล่อยยาวจนคลอดเด็ก ซึ่งต้องออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงลูก บางคนที่มีความพร้อมกว่า ทางบ้านก็จะให้แต่งงานตั้งแต่อายุน้อยๆ

"ในส่วนของเคสที่เป็นคุณแม่วัยรุ่นก็ไม่แนะนำให้ทำหมันครับ เพราะเขายังสามารถโตขึ้นและมีครอบครัวที่ดีได้ในอนาคต แนะนำให้ป้องกันมากกว่า ให้กินยาคุมกำเนิดหรือถ้าไม่สะดวกก็เป็นแบบฉีดไปเลย ส่วนใหญ่พบว่าเด็กที่ตั้งครรภ์ก็ต้องออกจากโรงเรียน ก็แนะนำให้เขาไปเรียนต่อที่กศน.ครับ ส่วนการดูแลด้านจิตใจก็แล้วแต่เคสนะ ถ้ามีอาการซึมเศร้า ก็ส่งให้จิตแพทย์เข้ามาดูแล ส่วนเคสปกติทั่วไปเราก็เข้าไปพูดคุยให้เขาดูแลเอาใจใส่ลูก เพราะบางทีเกิดกรณีที่ว่าในประวัติไม่เคยฝากครรภ์ อยู่ดีๆมาทำคลอดเลย ตรงนี้ก็บ่งชี้ได้ว่าตัวเขาไม่อยากมีลูก คลอดออกมาก็ฝากให้พ่อแม่เลี้ยง ทารกก็ไม่ได้รับการดูแลจากแม่แท้ๆ ก็จะเป็นปัญหาสังคมตามมาอีก"

ด้าน พระอุดมประชาทร (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้แสดงทัศนะว่า กรณีที่วัยรุ่นมีลูกขึ้นมา บางครั้งก็ถูกยึดติดกับกฎเกณฑ์ของสังคม หลายคนมองว่าเป็นเด็กใจแตก ทั้งๆที่เด็กคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนไม่ดีก็ได้ จริงๆแล้วเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข อย่างพ่อแม่ของวัยรุ่นไม่ควรทำลายความรู้สึกของลูก ทุกอย่างมีทางแก้เสมอ ตัวผู้ปกครองก็อยากให้รักลูกและรักเด็กที่เกิดมาด้วย สังคมเองก็ควรให้กำลังใจ ต่อไปเขาอาจจะโตไปเป็นคนคุณภาพอีกคนของประเทศชาติ ไม่ใช่ว่าเขาจะหมดอนาคตหรือไม่มีคุณค่า

"ส่วนคนเป็นแม่ ถ้าเราตั้งครรภ์ขึ้นมาแล้วก็ขอให้มองโลกในแง่ดีก่อน อย่าคิดสั้นหรือคิดทำร้ายลูก อนาคตต่อไปยังมี เราสามารถเป็นคนดีอยู่ในโลกนี้ได้เหมือนคนอื่นๆ สิ่งที่ต้องทำคือ เรียนรู้ให้เข้าใจในสภาวะที่เป็นอยู่ อย่างการเป็นแม่คน ถึงแม้ว่าจะอายุยังน้อยเราก็เรียนรู้ได้ ขอเพียงอย่าบกพร่องในหน้าที่ของความเป็นแม่ อย่าขี้เกียจทำมาหากิน หากเลี้ยงดูลูกด้วยความเอาใจใส่แล้ว เราก็จะสอนลูกให้เป็นคนดีได้เช่นกัน แล้วเราจะรู้สึกว่าชีวิตมันวิเศษณ์มาก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น