พระอาจารย์ธมฺมทีโป
ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ บ้านวังเมือง
อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
จิต เป็นธรรมชาติที่เกิด-ดับ รับรู้อารมณ์สืบเนื่องไปทุกขณะ ..
ทางช่องทางทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียกว่า วิญญาณ
จิตดั้งเดิม.. ผ่องใส แต่เศร้าหมอง เมื่อออกไปรับรู้อารมณ์ต่างๆ
และถูกกิเลสที่จรมา คือ ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ
เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า " ธรรมทั้งปวง รวมลงที่จิต"
การที่เราเริ่มต้นดูจิต คุมใจไว้ ชื่อว่า คุมอารมณ์ทั้งหมด
ทั้งความรู้สึกพอใจ -ไม่พอใจ ความคิดดี -ไม่ดี ฯลฯ
เมื่อเรากลับมารู้สึกที่จิตเนืองๆ เห็นการเกิด - ดับภายใน
จึงไม่หวั่นไหวไปในอารมณ์ทั้งปวง...
เมื่อบุคคลมี ราคะ มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ พิจารณาซากศพ ช่วย
เมื่อบุคคลมี ความโกรธ มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ แผ่เมตตา
เมื่อบุคคลมี ความคิด มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ พิจารณาความไม่เที่ยง
เมื่อบุคคลมี ความสุข มาก พระพุทธองค์ทรงสอนให้ เห็นทุกข์
เมื่อมี ความยึดถือตัวตนอยู่ พระพุทธองค์ทรงสอนให้ เห็นอนัตตา
คือ ทุกสิ่งไม่ได้มีตัวตน เป็นเพียงเหตุ - ปัจจัย เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
เมื่อพิจารณาดีแล้ว จิตย่อมตั้งมั่น มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง
เห็นทุกข์ที่เกิดขึ้น และทุกข์ที่ดับไป ชื่อว่า .. ดำเนินอยู่บนทางสายกลาง
เรารักษาจิต รู้สึกไปเนืองๆ ไม่ยินดี ไม่เพลิดเพลินหลงใหล คลายความติดใจในสิ่งทั้งหลาย ..
จิตจึงเป็นอิสระจากความทุกข์ทั้งปวง นี่เป็นเป้าหมายว่า..
..ทำไมเราต้องดูจิต..
credit : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=porranat&month=23-07-2011&group=6&gblog=35
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น