++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

“ศ.ระพี” แนะพ่อแม่ใช้ “ธรรมชาติบำบัด” ดูแลบุตรหลานพิการ

แนะผู้ปกครองที่มี บุตรหลานพิการ ยึดหลักธรรมชาติมาช่วยในการบำบัด นอกเหนือจากดูแลทางกายภาพบำบัดและพบแพทย์ พร้อมเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ สถานพยาบาลดูแลเด็กพิการโดยเฉพาะ พร้อมสวัสดิการต่างๆ ให้ทั่วถึง

ศ.ระพี สาคริก ผู้สูงอายุแห่งปี 2553 กล่าวในงานเสวนาวิชาการธรรมชาติบำบัดสำหรับเด็กพิการ โดยแนะนำผู้ปกครองที่ดูแลบุตรหลานพิการว่า ให้ยึดหลักธรรมชาติในการดูแลบุตรหลานพิการ ให้รู้จักธรรมชาติของตัวเองก่อน ให้ความสำคัญต่อคนอื่นเหนือตนเอง ก็จะทำให้ไม่มองคนอื่นด้อยกว่า ให้มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวเราเอง

ด้านนายอดิศักดิ์ รอดสุวรรณ ประธาน ชุมรมผู้ปกครองเด็กพิการ กล่าวว่า ในการดูแลเด็กพิการ มีทั้งกายภาพบำบัด พบแพทย์ ซึ่งเป็นดูแลทางร่างกาย แต่ส่วนสำคัญอีกอย่างคือการดูแลทางด้านจิตใจ ซึ่งการเสวนาครั้งนี้เป็นครั้งแรก และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความสนใจ เพราะทั้งตัวเด็กและผู้ดูแลต่างต้องการธรรมชาติมาช่วยในการบำบัด ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการให้โอกาสดูแลผู้พิการ ปัจจุบันมีคนพิการในประเทศประมาณ 1.9 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเด็กพิการทางสมองประมาณ 100,000 คน ซึ่งผู้ปกครองเกินครึ่ง ต้องประสบกับภาวะทำใจให้ข้ามผ่าน

นายอดิศักดิ์กล่าวด้วยว่า ตนเองก็มีบุตรพิการทางสมองเนื่องจากคลอดก่อนกำหนด ยอมรับว่าช่วงแรกต้องทำใจ หาวิธีดูแลให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ยังไม่มีสวัสดิการดูแลเด็กพิการอย่างเต็มที่ ต้องให้หลายหน่วยงานร่วมกัน เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย สธ.ควรมีศูนย์หรือหน่วยงานดูแลเด็ก รวมทั้งการรักษาพยาบาลเฉพาะเด็กพิการ เพราะเด็กพิการส่วนใหญ่ใช้สิทธิหลักประกันถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค

ขณะ ที่ สธ.ควรจัดศูนย์เรียนรู้ เพราะเด็กเหล่านี้ไม่สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติได้ แต่เด็กทุกคนมีสิทธิได้เรียนหนังสือ ขณะนี้มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มีการจัดศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศแล้ว 9 ศูนย์เพื่อให้เด็กได้ศึกษา ด้าน พม.แม้จะดูแลด้านสวัสดิการจ่ายเบี้ยคนพิการเดือนละ 500 บาท แต่การประสานงานต่างๆ ยังไม่ค่อยราบรื่น ดังนั้น ต้องการให้ภาครัฐหันมาดูแลผู้พิการมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น