ผลสำรวจพบคนจันท์ส่วนใหญ่ยอมให้สร้างอาคารพาณิชยกรรมขนาดใหญ่พิเศษ

จันทบุรี -พบคนจันท์เห็นด้วยถึงร้อยละ 72.47 ในการอนุญาตอาคารพาณิชยกรรมขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อประกอบการค้าปลีกค้าส่ง ริมถนนพระยาตรัง และถนนท่าแฉลบ ต่อเนื่องถนนมหาราช

นายจักรเพชร จิตงามสุจริต นายกเทศบาลเมืองจันทบุรี เปิดเผยว่า ตามที่เทศบาลเมืองจันทบุรีได้จัดประชุมตามโครงการรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนในการที่อนุญาตอาคารพาณิชยกรรมขนาดใหญ่พิเศษ อาคารสูงและอาคารพาณิชยกรรม พื้นที่ไม่เกิน 10,000 ตารางเมตร เพื่อประกอบการค้าปลีกค้าส่งริมถนนพระยาตรัง และถนนท่าแฉลบต่อเนื่องถนน มหาราช

เทศบาลเมืองจันทบุรีได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครอบคลุม 12 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี จำนวน 2,147 คน อาศัยการสำรวจความคิดเห็นด้วยการทำแบบสอบถามรายบุคคล ในระหว่างวันที่ 18 - 20 สิงหาคม 2553

ผลการศึกษาพบว่าประชาชนที่ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ 50 เห็นด้วยกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งในด้านผลที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจ ผลที่เกิดขึ้นทางด้านสังคม และผลที่เกิดขึ้นทางด้านสิ่งแวดล้อม ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความต้องการให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี โดยการเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน คิดเป็นร้อยละ 84.34 ประชาชน ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่เทศบาลเมืองจันทบุรีจะอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมขนาดใหญ่พิเศษ พื้นที่เกิน 10,000 ตารางเมตร และอาคารสูงเกิน 23 เมตร บริเวณริมถนนพระยาตรังและถนนท่าแฉลบ ต่อเนื่องถนนมหาราช คิดเป็นร้อยละ 72.47

นอกจากนี้ ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นด้วย กับการที่เทศบาลเมืองจันทบุรี จะอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมขนาดใหญ่พิเศษ พื้นที่เกิน 10,000 ตารางเมตร เพื่อประกอบการค้าปลีกค้าส่ง ริมถนนพระยาตรัง และถนนท่าแฉลบ ต่อเนื่องถนนมหาราช คิดเป็นร้อยละ 76.87

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 59.45 รองลงมาเป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 40.55 มีอายุต่ำกว่า 20 ปีมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 38.94 รองลงมา มีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี คิดเป็นร้อยละ 19.25 ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า คิดเป็นร้อยละ 43.42 รองลงมามีการศึกษาระดับประถมศึกษาลงมา คิดเป็นร้อยละ 26.26 ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา คิดเป็นร้อยละ 40.80 รองลงมาประกอบอาชีพค้าขาย ผู้ประกอบการ ธุรกิจส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 22.55 และผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีที่อยู่ในตำบลตลาดมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 60.12 รองลงมาคือ ตำบลวัดใหม่ คิดเป็นร้อยละ 39.88