*6 กิจกรรมที่ควรทำยามตื่นนอน
1) สูดหายใจลึก ฝึกหายใจเข้าให้เต็มปอด รับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ให้คิดว่าเหมือนสูดเอาพลังที่มีอยู่ไม่สิ้นสุดรอบตัวไปใช้ การสูดหายใจลึกช่วยให้ปอดขยายเต็มที่กว่าตอนนอนมีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนเหมือนกับการฟอกปอดให้ร่างกายสดชื่น ส่วนตอนหายใจออกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกไปให้ช้าที่สุด ทำอย่างนี้สัก 5-10 ครั้งยามตื่น ฝึกทำจนชินเป็นนิสัยครับ
2) ดื่มน้ำเปล่า ตื่นมาตอนเช้ามื้อแรกที่ควรเติมให้ร่างกายคือ “น้ำสะอาด” เพื่อกวาดขยะจากทางเดินอาหารที่มากองอยู่ตลอดคืนของการนอน ขอให้ดื่มน้ำอุ่นช่วยปลุกลำไส้สัก 1-2 แก้ว หรืออาจเหยาะมะนาวลงไปหน่อยให้ดื่มง่าย นอกจากนั้นน้ำสะอาดยังช่วยกระตุ้นลำไส้ในการระบายของเสียด้วย น้ำเปล่าถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยสุขภาพได้ดีที่สุดครับ
3) เข้าห้องน้ำ อาบน้ำรวมถึงขับถ่ายที่ควรทำให้เป็นนิสัย ให้โปรแกรมเข้าห้องน้ำเพื่อระบายของเสียนั้นเป็นเวลาเดียวกันในแต่ละวัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นตอนเช้าเพื่อความสะดวกของหลายท่าน ซึ่งเป็นสิ่งดีครับเพราะหลังจากร่างกายได้ดื่มน้ำกระตุ้นลำไส้แล้วจะทำให้การเข้าห้องน้ำสะดวกขึ้น อีกทั้งช่วยท่านที่มีปัญหาการขับถ่ายไม่ปกติให้สบายขึ้น
6 กิจกรรมที่ควรทำยามเช้า/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
4) ออกกำลังเบาๆ เน้นว่าอย่าหนักมากในตอนเช้าเพราะหลายท่านต้องไปทำงาน ไม่อยากให้เหนื่อยมากเกินครับ การออกกำลังกายเบาๆ เป็นการกระตุ้นหลายระบบพร้อมๆ กันทั้งสมอง,กล้ามเนื้อ,ต่อมหมวกไตฯลฯ เพราะในตอนเช้ามีฮอร์โมนกระตุ้นหลายชนิดออกมา อย่างเทสโทสเตอโรนในบุรุษ ซึ่งการออกกำลังพอประมาณจะเสริมกันได้ดี ยกตัวอย่างทำโยคะ หรือแม้แต่การลุกเดินติดต่องานตามโต๊ะในที่ทำงานก็ช่วยได้ ให้พอรู้สึกคึกคักเล็กๆ แต่ไม่ต้องหนักขนาดเหงื่อซึมแผ่นหลังนะครับ
5) กินมื้อเช้า การเติมพลังมื้อเช้าถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้พิธีการ “ปลุก” ร่างกายให้มีแรง เพราะระบบต่างๆ ที่เดินเครื่องทำงานตอนเช้าล้วนต้องอาศัย “เชื้อเพลิง” ที่ต้องใช้ได้เร็วทันใจ ซึ่งเชื้อเพลิงด่วนส่วนแรกในร่างกายก่อน (Creatine phosphate) โดยวัตถุดิบสำคัญต่อมาคือ “น้ำตาล” และ “โปรตีน” ที่ต้องมี ดังนั้นการรับประทานมื้อเช้าที่เหมาะสมจึงเป็นตัวตัดสินสุขภาพที่สำคัญ
6) ทำใจนิ่ง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายตื่นอย่างสมบูรณ์แบบคือ “การออกกำลังใจ” ครับ ท่านสามารถเลือกทำชีวิตในวันนั้นให้เป็น Good day หรือ Bad day ก็ได้ไม่ยากหากได้ออกกำลังใจตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เทคนิคคือทำอย่างไรก็ได้ให้ “ใจนิ่ง” แล้ว “เห็นสุข” จากความสงบนั้น อาจทำสมาธิ, สวดมนต์, ฟังเพลง, โยคะฯลฯ แล้วแต่สะดวกครับ
อ่านเพิ่ม http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น