++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

นักธุรกิจ นักดนตรี นักกีฬาผู้เคยล้มเหลวมาก่อน



นักธุรกิจ

เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford)
แม้ว่าทุกวันนี้ทุกคนจะรู้จักชื่อเสียงของ ฟอร์ด เป็นอย่างดีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการรถยนต์

 แต่เชื่อไหมว่า กว่าที่จะมีวันนี้ได้ เขาต้องล้มเหลวกับธุรกิจมาก่อน และทำให้เขาต้องหมดเนื้อหมดตัวมาแล้วถึง 5 ครั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้อย่างสง่าผ่าเผยอย่างเช่นทุกวันนี้



- โซอิชิโร ฮอนดะ (Soichiro Honda)
เจ้าของธุรกิจรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น "ฮอนด้า" ที่เรารู้จักกันดี

ผู้ต้องล้มลุกคลุกคลานในวงการธุรกิจก่อนจะกลายเป็นนักธุรกิจพันล้านเช่นทุกวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเองเคยเดินเข้าสัมภาษณ์งานกับบริษัทคู่แข่งอย่าง โตโยต้า มาก่อน ในตำแหน่งวิศวกร ก่อนถูกปฏิเสธงานไป
ซึ่งทำให้เขาต้องเดินเตะฝุ่นอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มสร้างรถสกูตเตอร์ด้วยตัวเองที่บ้าน และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน



- ฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอร์ส (Harland David Sanders)
งงใช่ไหม? ...แต่ถ้าเป็น ผู้พันแซนเดอร์ส คงคุ้นหูมากกว่าและนึกถึงชายแก่ร่างท้วมใส่ชุดสูทสีขาวยืนอยู่หน้าร้านขายไก่ทอดชื่อ "เคเอฟซี" (KFC หรือ Kentucky Fried Chicken) ทุกคนต้องร้อง อ๋อออ อย่างแน่นอนที่สุด

ไม่น่าเชื่อเลยว่าสูตรลับในการปรุงไก่ทอดที่ออกมาเป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้น กลับถูกปฏิเสธจากร้านอาหารต่างๆ มามากถึง 1,009 ครั้ง ก่อนจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด



- วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney)
ทุกวันนี้ชื่อ "วอลท์ ดิสนีย์" เลื่องลือไปทั่วโลกว่าเป็นผู้สร้างความยิ่งใหญ่และต่อเติมโลกแห่งจินตนาการให้กับทุกคน ซึ่งมีรายได้จำนวนมหาศาลจากสวนสนุก ผลิตภัณฑ์สินค้าและภาพยนตร์ แต่เขากลับต้องเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ด้วยความทุลักทุเล โดยหลังจากที่โดนไล่ออกจากงานหนังสือพิมพ์ ด้วยเหตุผลที่ว่า
"ขาดจินตนาการและความคิดดีๆ ในการสร้างสรรค์งาน" เขาก็ได้เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง แต่ทำได้ไม่นานกิจการก็ต้องล้มพับไป แถมยังล้มละลายอีกด้วย


อย่างไรก็ดี คนที่เคยถูกตราหน้าว่าไร้จินตนาการ ก็ได้ร่ายเวทมนต์ เนรมิตผลงานของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แบบไร้ข้อกังขาอีกต่อไป



- อากิโอะ โมริตะ (Akio Morita)
คุณอาจจะไม่คุ้นชื่อเขาคนนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงสินค้ายี่ห้อ "โซนี่" (Sony) แล้วล่ะก็ต้องรู้จักในทันทีแน่นอน
ซึ่งสินค้าที่ทางโซนี่ผลิตออกมาเป็นชิ้นแรก คือ หม้อหุงข้าว แต่ผลิตภัณฑ์กลับไม่ได้รับความนิยมในท้องตลาดอย่างที่คาดหมายเอาไว้ โดยขายได้ไม่ถึง 100 ชิ้น

อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวในครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ โมริตะ และหุ้นส่วนหมดไฟในการทำงาน ทว่ากลับกลายเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ให้เขาสร้างสรรค์สินค้ายอดนิยมต่าง ๆ ออกมาได้อย่างมากมาย



- บิล เกตส์ (Bill Gates)
คงไม่มีใครไม่รู้จักชายอัจฉริยะผู้นี้อย่างแน่นอน แรกเริ่มเดิมทีเส้นทางของเขาไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบสักเท่าไหร่ หลังจากที่เขาตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขากับเพื่อนได้ร่วมกันคิดผลงานที่ชื่อว่า ทราฟ-โอ-ดาต้า (Traf-O-Data) ขึ้นมาแต่ก็แป้กไป

แต่คนอย่างเขาไม่เคยหยุดนิ่งเพียงเพราะก้าวแรกที่ผิดพลาด ภายหลังเขากับเพื่อนๆ ก็ได้คิดผลงานที่สร้างชื่อให้เขาที่สุดอย่าง "ไมโครซอฟท์" (Microsoft) ขึ้นมา จากนั้นก็ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาอีกต่อไป



- มิลตัน เฮอร์ชีย์ (Milton Hershey)
ก่อนที่มิลตัน เฮอร์ชีย์ผู้ก่อตั้งโรงงานช็อกโกแลต เขาเคยทำงานในโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แล้วเขาก็ได้ลาออกจากงานมาทำงานในโรงงานขนม ที่นั่นเขาได้เรียนรู้ศิลปะการทำขนม ปลายปีต่อมาเขาก็ลาออกจากงาน และตัดสินใจเปิดร้านขนมเป็นของตนเอง และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาล้มละลาย

แต่มิลตันก็ไม่ท้อถอยเขาเดินทางไปเดนเวอร์ โลราโดเพื่อเรียนรู้วิธีทำคาราเมล หลังจากรู้ทักษะที่จำเป็นในการผลิตคาราเมล เขาก็กลับมาที่นิวยอร์กและพยามยามตั้งธุรกิจทำขนมอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาก็ล้มเหลวแทบหมดตัวอีก

แม้ล้มเหลว2ครั้งมิลตันก็ไม่ท้อถอย คราวนี้เขากลับมาที่ฟาร์มของครอบครัวและใช้เวลาในการทำช็อกโกแลตและขนมอีกหลายชนิด ในที่สุดเขาก็สามารถทำช็อกโกแลตนมที่แสนอร่อยได้ และเมื่อเขาทำธุรกิจอีกครั้งมันก็ประสบความสำเร็จ จนมีเงินพอที่จะสร้างโรงงานช็อกโกแลตเป็นของตนเอง และคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็นคนรํ่ารวยและมีชื่อเสียงในเวลาต่อมา



- เอลวิส เพรสลี่ย์ (Elvis Presley)
ไม่มีใครไม่รู้จักเขา ถึงแม้เขาจะสิ้นลมหายใจไปนานแล้วก็ตาม แต่ผู้คนก็ยังระลึกถึงเขาและให้เกียรติเขาเสมอมา นอกจากนี้เอลวิสยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักร้องที่มียอดขายดีที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

แต่หากย้อนกลับไปในปี 1954 ชื่อเอลวิส ยังเป็นชื่อที่ไม่มีใครรู้จักและยังเคยโดน จิมมี่ เดนนี่ ผู้จัดการของรายการ Grand Ole Opry ไล่ออกหลังจากเขาแสดงไปได้เพลงเดียว แถมยังบอกอีกว่า "คุณไปไหนไม่ได้ไกลหรอก ถ้ามีฝีมือแค่นี้ ผมว่าคุณกลับไปขับรถบรรทุกดีกว่านะ"

ซึ่งหลังจาก "ราชาร็อกแอนด์โรล" มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จิมมี่คงนึกอยากเขกหัวตัวเองที่ไล่เขาไปในวันนั้น


- เดอะ บีทเทิ้ลส์ (The Beatles)
กระทั่งทุกวันนี้ชื่อเสียงของวง "สี่เต่าทอง" ก็ยังเป็นที่พูดถึงเสมอในวงการเพลงอยู่เสมอ รวมทั้งผลงานของเขาก็ยังคงขายได้เรื่อยมา

แต่ก้าวแรกของพวกเขาเต็มไปด้วยขวากหนามที่ขวางทางเดินไว้อยู่เมื่อทางวงได้นำเดโมเพลงไปเสนอกับทางค่าย กลับต้องเจอคำปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า "เราไม่ชอบดนตรีและเสียงกีต้าร์ในแบบที่พวกคุณเล่นกัน"
ซึ่งตอนนี้ทางค่ายที่ปฏิเสธเดอะ บีทเทิ้ล ไปคงยังเจ็บใจไม่หาย ที่ได้ปล่อยให้เพชรหลุดออกจากมือไป



- สแตน สมิธ (Stan Smith)
อดีตนักเทนนิสฝีมือเยี่ยมอย่าง สมิธ เคยถูกปฏิเสธแม้กระทั่งการเป็นเด็กเก็บบอลในคอร์ทเทนนิส เนื่องจากทางเจ้าหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันเดวิส คัพ รู้สึกว่าเขาดูซุ่มซ่ามและไม่น่าจะประสานงานกับคนอื่นๆ ได้

แต่สุดท้ายเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคิดผิด โดยการคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ยูเอส โอเพ่น และเดวิส คัพมาได้ถึง 8 สมัย



- เบ็บ รูธ (Babe Ruth)
หลายๆ คนอาจรู้จักเขาด้วยสถิติการตีโฮมรันของเขาที่มากถึง 714 ครั้ง ตลอดระยะเวลาการเล่นเบสบอล

แต่มันก็มากับสถิติที่ไม่น่าจดจำในการตีออกจำนวนมากถึง 1,330 ครั้งเช่นกัน
แต่เมื่อไปถามเขาถึงเรื่องจำนวนการตีออกเหล่านั้น เขาตอบแบบง่ายๆ ว่า "ทุกๆ ครั้งที่ผมตีออก ทำให้ผมเข้าใกล้การตีโฮมรันมากยิ่งขึ้น"



- ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan)
คนส่วนใหญ่คงไม่เชื่อว่าอดีตนักบาสเกตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกอย่าง จอร์แดน จะเคยไม่ผ่านการคัดตัวเข้าทีมโรงเรียน โชคดีที่ว่า เขาไม่ได้หมดหวังและยังเดินหน้าซ้อมเสมอมา

เขากล่าวไว้ว่า "ตลอดชีวิตอาชีพนักบาส ผมพลาดจังหวะยิงมาแล้วมากกว่า 9,000 ครั้ง แพ้มาเกือบ 300 เกมการแข่งขัน ต้องล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นั่นแหละที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในอาชีพของผม"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น