++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

กกต. พิจารณายุบพรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก

จากการชุมนุมป่วนบ้าน ป่วนเมือง
สร้างความวิบัติหายนะของม็อบเสื้อแดงตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเศษ
และจากการก่อการร้ายเข่นฆ่าทหารและมวลชนคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายน
2553 ตลอดจนการก่อวินาศกรรมยิงและขว้างระเบิดสถานที่ต่าง ๆ
ครบคู่กับการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น

ขณะนี้สันนิษฐานจากพฤติกรรมการ แยกกันเดิน ร่วมกันตี
ของกลุ่มคนที่กระทำการดังกล่าวข้างต้นเป็นคนกลุ่มเดียวกัน
โดยไม่ต้องโทษว่าเป็นมือที่สาม มือที่สี่ หรือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย
แต่ประการใด

และจากการพูดปลุกระดมของแกนนำของม็อบเสื้อแดง
ประกาศชัดเจนว่าขบวนการเคลื่อนไหวป่วนบ้านเผาเมือง
ประกอบด้วยองค์ประกอบแก้ว 3 ประการคือ

1. มีมวลชนคนเสื้อแดง เป็นฐานสนับสนุน

2. มีพรรคการเมือง เป็นฐานสนับสนุน

3. มีกองกำลังติดอาวุธ เป็นฐานสนับสนุน

ณ ขณะนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า พรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก
ได้มีพฤติกรรมการทำที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหา
กษัตริย์เป็นประมุข
เนื่องจากพรรคการเมืองนักโทษหนีคุกเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของแก้ว 3
ประการ คือการรวมกิจกรรมเคลื่อนไหวกับม็อบเสื้อแดง
โดยแกนนำม็อบเสื้อแดงประกาศเจตนารมย์ชัดเจนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น
รัฐไทยใหม่ อันมีผลพวงเชื่อมโยงกับการล้มสถาบันอันเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย

ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวของขบวนการป่วนบ้านป่วนเมืองของมวลชนคนเสื้อแดง
ภายใต้การบงการของนักโทษหนีคุก มีการกระทำผิดกฏหมายหมาย ๆ กระทง
จนถึงขั้นก่อการร้ายเป็นกบฏภายในราชอาณาจักร์
ซึ่งเป็นภัยอันตรายต่อประเทศชาติ สถาบันเบื้องสูง และประชาชนคนไทย

พรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก
มีพฤติกรรมที่ชัดเจนในการเป็นองค์ประกอบแก้ว 3 ประการ ดังนี้

1. บรรดา ส.ส. โดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรค ได้ร่วมขึ้นเวทีม็อบเสื้อแดง
ขับเคลื่อนและกดดัน โจมตีบุคคล และระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ด้วยข้อความกล่าวหาอันเป็นเท็จและหยาบคาย
เพื่อมุ่งหวังปลุกเร้าอารมย์ของมวลชนคนเสื้อแดง
ให้เกิดความเกลี่ยดชังและอาฆาตแค้น ด้วยแนวทางแบ่งชนชั้น โจมตีอำมาตย์
เชิดชูมวลชนคนเสื้อแดงเป็นไพร่ และผลักดันให้ยุบสภา (ทั้ง ๆ
ที่สภาฯไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องที่แท้จริงของม็อบเสื้อแดงแต่
ประการใด)

2. บรรดา ส.ส. และกรรมบริหารพรรค ขัดขวางการทำหน้าที่ของ ส.ส.
ในวันที่ประธานรัฐสภาเรียกประชุม ส.ส.
ในระหว่างที่สถานการณ์ป่วนบ้านป่วนเมืองของม็อบเสื้อแดงมีแนวโน้มที่จะเข้า
บุกรัฐสภา ดังนั้น รัฐบาลจึงใช้อำนาจตาม พรบ. รักษาความมั่นงคงภายในฯ
สั่งการให้ทหารตำรวจอารักขาความปลอดภัยให้กับ ส.ส.
และเจ้าหน้าที่รัฐสภาเข้าร่วมประชุมและทำงานได้ด้วยความปลอดภัย แต่บรรดา
ส.ส. พรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก ดำเนินการขัดขวาง
และไม่เข้าร่วมประชุมตามภาระหน้าที่
ทั้งยังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายหน้ารัฐสภา
เพียงมุ่งหวังสร้างภาพเอาชนะแต่เพียงฝ่ายเดียว
โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติและบ้านเมือง

3. บรรดา ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคบางคน
มีส่วนร่วมกับมวลชนคนเสื้อแดงบุกรุกรัฐสภา
ภายหลังจากที่พวกม็อบเสื้อแดงเรียกร้องให้ถอนกำลังทหารตำรวจออกจากพื้นที่
รักษาความปลอดภัยรัฐสภา
โดยแกนนำม็อบเสื้อแดงนำมวลชนคนเสื้อแดงปิดล้อมและใช้กำลังทำลายประตูรัฐสภา
เพื่อบุกรุกเข้าในเขตพระราชฐาน และสถานที่ราชการ โดยแกนนำคนเสื้อแดง และ
ส.ส. ของพรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุกบางคน
ร่วมกันปลุกเร้าอารมย์มวลชนคนเสื้อแดงและร่วมกันนำมวลชนบุกเข้าไปในรัฐสภา
เพื่อไล่ล่ารองนายกรัฐมนตรี และมีการทำร้ายทหาร ยึดอาวุธของทหาร
ซึ่งมีลักษณะแบบกองโจร
และผลสุดท้ายศาลได้ออกหมายจับแกนนำม็อบเสื้อแดงจำนวน 7 คน
แต่ไม่ได้ออกหมายจับ ส.ส. บางคน เพราะได้รับเอกสิทธิ์การเป็น ส.ส.
คุ้มครอง

4. บรรดา ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนบรรดาอดีต ส.ส.
ที่ถูกศาลตัดสินมิให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายใน 5 ปี
โดยมีข่าวคราวและเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าอยู่เบื้องหลังในการระดมมวลชนคน
เสื้อแดง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และเขตกรุงเทพและปริมณฑล
เพื่อเข้าร่วมชุมนุมป่วนบ้านป่วนเมืองในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งบางพื้นที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการจ้างวานด้วยเงินให้กับมวลชนคนเสื้อ
แดง โดยมิใช่เป็นการเข้าร่วมชุมนุมของคนเสื้อแดงด้วยความบริสุทธิ์ใจและด้วย
อุดมการณ์แต่อย่างใด

5. บรรดา ส.ส. พรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก
ปฏิบัติการป่วนสภาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการประชุมสภาแต่ละครั้ง
พฤติกรรมมุ่งที่จะช่วยนักโทษหนีคุกเพียงประการเดียว
ด้วยการป่วนสภาใช้ความกักขฬะทุกครั้งที่มีโอกาส
จึงละทิ้งหน้าที่ที่ควรจะเป็น ที่ควรจะทำ ในหน้าที่ของ ส.ส. โดยสิ้นเชิง
จึงไม่สมควรที่จะเป็นผู้แทนของประชาชนภายใต้พรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก

6. บรรดา ส.ส. ในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฏร์
โดยหน้าที่จะต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่ ส.ส.
ของพรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนีคุก
กลับเป็นส่วนหนึ่งของการป่วนบ้านป่วนเมือง สร้างความเดือดร้อน
สร้างความทุกข์ และสร้างความเสียหายต่อการทำมาหากินของประชาชนอย่างแสนสาหัส
พรรคการเมืองนี้จึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.
และกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในแก้ว 3 ประการ
สร้างความวิบัติหายนะแก่ประชาชน ทั้งประเทศ

จากเหตุผลดังกล่าวข้าง ต้น (ซึ่งเป็นเพียงเหตุผลบางส่วน)
จึงขอเรียกร้องให้ กกต.
ดำเนินการเก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของพรรคการเมืองเพื่อนักโทษหนี
คุกและบรรดา ส.ส. ที่สังกัดพรรคนี้ เพื่อพิจารณายุบพรรคการเมือง
"พรรคเพื่อนักโทษหนีคุก" โดย กกต. จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้
และอย่าลอยตัวเพราะกลัวอำนาจมืดโดยไม่กระทำหน้าที่ที่ควรจะทำในฐานะเป็น
องค์กรอิสระ

ประชาชน
19 เมษายน 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น